โรคเบาหวานและโรคอ้วนนับเป็น 2 โรคในกลุ่มไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) ที่มีอัตราผู้ป่วยทั่วโลกจำนวนมาก ซึ่งทั้ง 2 โรคนับเป็นโรคที่ชักนำไปสู่โรคอื่น ๆ มากมาย ซึ่งเป็นโรคที่ไม่ว่าจะเป็นเพศไหน วัยไหน อายุเท่าไหร่ ก็มีโอกาสที่จะป่วยเป็นโรคนี้ ปัจจัยหลัก ๆ ที่เกิดขึ้นคือพฤติกรรมการใช้ชีวิตของผู้ป่วยเอง “เบต้ากลูแคน” จึงจะเข้ามาเป็นสารสกัดที่มีส่วนช่วยลดเสี่ยงโรคเบาหวาน โรคอ้วน และลงพุง เบต้ากลูแคนไม่ได้ช่วยแค่เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน แม้เบต้ากลูแคนจะมีคุณสมบัติเด่นคือช่วยเรื่องเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง โดยเฉพาะเบต้ากลูแคนที่สกัดมาจากผนังเซลล์ของยีสต์ Saccharomyces Cerevisiae ซึ่งเป็นชนิดที่มีส่วนช่วยในการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันได้มีประสิทธิภาพต่อร่างกาย โดยเข้าไปทำงานกับเม็ดเลือดขาวโดยตรง เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของเม็ดเลือดขาว ทำให้ร่างกายมีประสิทธิภาพในการปกป้องร่างกายจากสิ่งแปลกปลอม และกำจัดก่อนที่จะทำให้เราเจ็บป่วยได้ นอกจากนี้เบต้ากลูแคนยังช่วยลดการอักเสบ ลดการติดเชื้อ สารสำคัญอีกอย่างหนึ่งที่เบต้ากลูแคนมีคือสารต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งช่วยป้องกันและลดความเสี่ยงในการเป็นโรคมะเร็ง และโรคไม่ติดต่อเรื้อรังอย่างโรคเบาหวาน โดยมีการศึกษาว่าเบต้ากลูแคนสามารถช่วยชะลอการดูดซึมน้ำตาลเข้าสู่กระแสเลือดได้ ซึ่งนี่เป็นหนึ่งในสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ในกลุ่มคนทั่วไป ทั้งยังช่วยควบคุมคอเลสเตอรอล และความเสี่ยงที่จะเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจและหลอดเลือดสมองด้วย การรับประทานสารสกัดจากเบต้ากลูแคนเป็นประจำมีโอกาสที่จะลดความเสี่ยงที่จะเป็นโรคอ้วน เบาหวาน ลงได้ ควบคู่ไปกับการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม เลือกเบต้ากลูแคนประสิทธิภาพสูง เนื่องจากเบต้ากลูแคนสกัดจากพืชพรรณได้หลายชนิด แต่มีการศึกษาแล้วว่าชนิดที่มีประสิทธิภาพสูงในการเสริมสร้างภูมิต้านทาน คือ เบต้า 1,3/1,6 D-กลูแคน เนื่องจากเป็นใยอาหารชนิดไม่ละลายน้ำ (Insoluble […]
พฤติกรรมที่ “เสี่ยง” เป็นมะเร็งที่คุณไม่รู้ตัว!
รู้ไหมว่านอกจากปัจจัยเสี่ยงที่เราควบคุมไม่ได้ อย่างปัญหาฝุ่น PM2.5 ที่อาจจะทำให้เราเสี่ยงเป็นมะเร็งปอดแล้ว ยังมีปัจจัยเสี่ยงที่เกิดจากพฤติกรรมของเราเอง ที่อาจจะทำให้หลาย ๆ คนต้องประสบกับโรคมะเร็งได้ในอนาคต วันนี้ ยัวร์จะมาชวนสังเกตว่าเพื่อน ๆ เคยทำพฤติกรรมเหล่านี้กันหรือเปล่า สูบบุหรี่ การสูบบุหรี่เป็นพฤติกรรมที่เสี่ยงเกิดโรคมะเร็งมากที่สุด โดยเฉพาะมะเร็งปอด มะเร็งช่องปาก และโรคทางเดินหายใจอื่น ๆ เนื่องจากสารพิษในควันบุหรี่มีมากมายหลายพันชนิด หากใครได้ติดบุหรี่แล้วจะเลิกยาก เนื่องจากนิโคตินในบุหรี่ทำให้เกิดการเสพติด ขณะสูบบุหรี่สารโดพามีนในสมองจะหลั่งทำให้ช่วยคลายเครียดได้ จึงเป็นเหตุผลทำให้การเลิกบุหรี่นั้นยากมากเมื่อได้ติดแล้ว ใครที่ไม่เคยสูบก็ไม่ควรเริ่ม แต่ใครที่สูบบุหรี่อยู่หากเลิกด้วยตัวเองไม่ได้ ควรเข้ารับคำแนะนำจากสถาบันต่าง ๆ ที่ช่วยเลิกบุหรี่ เพราะไม่เช่นนั้นอาจจะเสี่ยงเป็นโรคมะเร็งได้ในอนาคตครับ ควันบุหรี่มือสองและมือสาม หลายคนอาจจะทราบอยู่แล้วว่าควันบุหรี่มือสองอันตรายยิ่งกว่าควันบุหรี่มือหนึ่งที่คนสูบบุหรี่ได้รับเสียอีก เนื่องจากควันบุหรี่มือสองเกิดจากกระบวนการเผาไหม้ไม่สมบูรณ์และคนที่สูดได้เยอะก็คือคนที่ไม่ได้สูบ นอกจากนี้ควันบุหรี่มือสามที่ติดตามเสื้อผ้า ของใช้ต่าง ๆ ที่สามารถดูดซับควันได้ มีงานวิจัยว่าควันที่ติดตามสิ่งเหล่านี้ก็มีความอันตรายเช่นกัน แม้จะไม่ได้กระทบโดยตรงแต่ก็สะสมในร่างกายได้ ทั้งนี้การหลีกเลี่ยงควันบุหรี่มือสองและมือสามต้องเกิดจากความร่วมมือของผู้สูบบุหรี่ ลองหาเป้าหมายการเลิกบุหรี่เพื่อครอบครัวและคนที่รัก จะเป็นเส้นชัยที่สวยงามสำหรับทุกคนแน่นอนครับ การดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ การดื่มแอลกอฮอล์ไม่ได้ส่งผลต่อตับอย่างเดียวนะครับ แต่หากเป็นนักดื่มประจำก็เสี่ยงที่จะเป็นมะเร็งได้ด้วย สถาบันมะเร็งแห่งชาติ ของสหรัฐอเมริการายงานว่าการดื่มเบียร์ 5 กระป๋องต่อวัน เสี่ยงที่จะเป็นโรคมะเร็งหลอดอาหาร มะเร็งในช่องปาก และมะเร็งตับ รวมไปถึงแอลกอฮอล์ยังมีส่วนที่ทำให้เกิดโรคมะเร็งเต้านมในผู้หญิงได้ด้วย นั่นเพราะแอลกอฮอล์มีส่วนทำให้เกิดการกลายพันธุ์ในหน่วยพันธุกรรม หรือ DNA […]
ผู้ป่วยโรคเบาหวาน อย่าละเลย ก่อนเสี่ยงไตวายเรื้อรัง
แม้ในไทยจะมีผู้ป่วยโรคเบาหวานกว่า 4.8 ล้านคน และมีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ แต่เชื่อว่าหลายคนมองว่าโรคนี้ไม่ได้มีความอันตราย เพราะมีวิธีการรักษาด้วยนวัตกรรมทางการแพทย์ที่ก้าวหน้า ผู้ป่วยหลายคน หรือกระทั่งคนที่ยังไม่เป็นโรคนี้ก็ละเลยในการดูแลตัวเอง ไม่ควบคุมปริมาณน้ำตาลในเลือด ซึ่งทำให้อวัยวะที่ได้รับผลกระทบต่อมาคือไต และเสี่ยงที่จะเป็นโรคไตเรื้อรังแทรกซ้อนเข้ามาอีก ทำไมเป็นโรคเบาหวานแล้วเสี่ยงโรคไตเรื้อรัง โรคเบาหวานจะมีการสะสมน้ำตาลในเลือดสูง ซึ่งปัจจัยที่ทำให้เกิดโรคไตแทรกซ้อนในผู้ป่วยโรคเบาหวาน คือ ระดับน้ำตาลในเลือกที่สูงมากนั้นก่อให้เกิดสารพิษตัวหนึ่งที่ไปกระตุ้นกลไกต่าง ๆ ที่ทำลายเนื้อไต จนไตไม่สามารถทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ การกรองของเสียก็ลดลง รวมไปถึงความสามารถในการกักเก็บโปรตีนก็เสื่อมลงอย่างช้า ๆ จนทำให้เป็นโรคไตเรื้อรังได้ และหากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงทีก็เสี่ยงที่ผู้ป่วยจะไตวายเฉียบพลัน และทำให้เสียชีวิตได้เลยนะครับ สังเกตอย่างไรว่ามีโรคไตเรื้อรังแทรกซ้อนผู้ป่วยโรคเบาหวาน ในช่วงแรกจะสังเกตได้ยากเพราะมักไม่ค่อยแสดงอาหาร ผู้ป่วยโรคเบาหวานต้องไปพบแพทย์อย่างสม่ำเสมอเพื่อตรวจโปรตีนในปัสสาวะ แต่หากผู้ป่วยโรคเบาหวานรู้สึกถึงความผิดปกติ เช่น มีอาการบวมที่เท้า บวมที่แขน มือ หรือเริ่มบวมไปทั่วตัว ก็อาจจะเสี่ยงที่จะเป็นโรคแทรกซ้อนไตเรื้อรังได้ หรือหากเลยไปถึงที่เป็นไตวายแล้ว จะมีอาการ เช่น คลื่นไส้ อาเจียน ปวดหัว อ่อนเพลีย ชาตามปลายมือและเท้า หายใจหอบ ซึม ชัก หรือกระทั่งหมดสติ ป้องกันผู้ป่วยโรคเบาหวานจากภาวะแทรกซ้อนโรคไตเรื้อรังได้อย่างไร? การควบคุมปริมาณน้ำตาลในเลือดคือปัจจัยสำคัญในการป้องกันภาวะแทรกซ้อนจากโรคไตเรื้อรัง เพราะหากสามารถควบคุมน้ำตาลในเลือดอยู่ในระดับที่ปกติได้ อวัยวะต่าง ๆ เช่น หลอดเลือด […]