หลายคนอาจจะทราบอยู่แล้วว่าอาหารที่มีน้ำตาลและไขมันสูง ส่งผลร้ายต่อร่างกายมากกว่าผลดี แต่รู้ไหมว่า อาหารที่มีรสเค็มหรือมีปริมาณโซเดียมสูงนั้นก็อันตรายไม่แพ้กัน เพราะเสี่ยงให้เกิดโรคความดันโลหิต โรคเบาหวาน และโรคหัวใจได้เช่นกัน ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น มาหาคำตอบ พร้อมวิธีดูแลตัวเองกันครับ ปัจจุบันอาหารยอดฮิตหลายชนิดมีปริมาณโซเดียมที่สูงมาก ๆ นะครับ เช่น หม้อไฟชาบูหรือสุกี้ โดยในน้ำซุปจะมีการปรุงเพื่อให้ได้รสชาติ ซึ่งส่วนใหญ่จะมีรสเค็มนำ น้ำจิ้มสูตรต่าง ๆ ก็รสจัดจ้านเต็มไปด้วยผลิตภัณฑ์ปรุงรสเพื่อเพิ่มรสชาติ นอกจากนี้ในเนื้อหมู เนื้อวัว หรืออาหารทะเล ก็ยังมีการหมักมากก่อนด้วย ไม่เพียงเท่านั้นยังมีอาหารแปรรูป เช่น ไส้กรอก แฮม เบคอน เหล่านี้ก็ล้วนมีปริมาณโซเดียมที่สูงมาก ๆ ซึ่งหากรับปริมาณแบบบุฟเฟ่ต์ในหนึ่งมื้อ เราอาจจะได้รับโซเดียมถึง 10,000 มิลลิกรัมเลยทีเดียว ทั้งที่ปกติร่างกายคนเราไม่ควรบริโภคโซเดียมเกิน 2,000 มิลลิกรัม/วัน เท่านั้น ทำไมทานรสเค็มถึงอันตรายต่อร่างกาย? เมื่อร่างกายได้รับเกลือหรือโซเดียมในปริมาณมาก สังเกตว่าร่างกายของเราต้องการน้ำ เราจึงกระหายน้ำมาก นั่นเพราะร่างกายพยายามขจัดโซเดียม ร่างกายของเราจะพยายามดึงน้ำออกมาให้ได้มากที่สุด ซึ่งหากเราบริโภคอาหารรสเค็มจัดอยู่เสมอปฏิกิริยานี้ของร่างกายก็ยิ่งทำงานหนัก ส่งผลให้ความดันในเลือดสูงขึ้น ซึ่งแน่นอนว่าการที่ร่างกายมีความดันสูงต่อเนื่อง ก็เสี่ยงโรคความดันโลหิตสูงได้มากยิ่งขึ้น และนำไปสู่โรคหัวใจได้ไม่ยากเลยครับ ทำไมทานรสเค็มถึงเสี่ยงเบาหวานได้? หลายคนเข้าใจว่าการรับประทานอาหารสหวาน เสี่ยงทำให้เป็นโรคเบาหวานหรือโรคอ้วนได้ แต่การทานรสเค็มก็เสี่ยงที่นำพาเราไปสู่โรคเบาหวานได้เช่นกัน เพราะเมื่อเราทานอาหารรสเค็ม […]
“โรคอ้วน” ภัยเงียบ ประตูสู่ปัญหาสุขภาพเรื้อรัง
รู้ไหมครับ? คนไทยหลายคนมีภาวะอ้วนโดยไม่รู้ตัว เพราะคิดว่าการที่น้ำหนักตัวขึ้นของตัวเองไม่ได้กระทบถึงชีวิตประจำวัน อาศัยการปรับตัวก็พอจะมองข้ามน้ำหนักที่เกินของตัวเองได้ แต่กลับไม่ได้สังเกตความผิดปกติของการสะสมไขมันในร่างกาย โดยเฉพาะการอ้วนลงพุง ซึ่งภาวะอ้วนหรือโรคอ้วนที่หลายคนมองข้าม เป็นภัยเงียบที่อาจนำมาสู่ปัญหาโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง หรือโรครักษาไม่หายในอนาคตได้นะครับ “โรคอ้วน” ภัยเงียบ และประตูสู่โรคไม่ติดต่อเรื้อรัง หรือ (NCDs) ข้อมูลจากปี 2557 ถึงปัจจุบัน คนไทยกว่า 19.3 ล้านคน คิดเป็น 34.1% มีภาวะ “อ้วน” และมีคนไทยที่รอบเอวเกิน “อ้วนลงพุง” กว่า 20.8 ล้านคน โดยทั้ง 2 กลุ่ม เสี่ยงป่วยเป็นโรค NCDs ไม่ว่าจะเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจ โรคหัวใจ โรคความดันโลหิตสูง โรคไขมันในเลือดสูง หรือกระทั่งโรคหลอดเลือดสมอง ซึ่งเสี่ยงที่จะนำไปสู่ภาวะหัวใจวายหรือหัวใจล้มเหลวเฉียบพลันได้ โรคอ้วน ไม่ใช่แค่น้ำหนักตัวขึ้นเท่านั้น แต่คือภาวะที่ร่างกายมีการสะสมไขมันมากกว่าปกติ แบ่งเป็น 2 ประเภท คือ อ้วนลงพุง พบมากในผู้ชาย มีการสะสมไขมันบริเวณช่องท้องและอวัยวะภายใน เช่น ตับ ไต ลำไส้ กระเพาะอาหาร […]
อาหารเสริมสำหรับผู้ป่วยโรคหัวใจสำคัญแค่ไหน?
ในยุคที่ผู้คนเฟ้นหาอาหารเสริมและวิตามินในการดูแลสุขภาพ ซึ่งสามารถหากเลือกซื้อได้ตามร้านขายค้าหรือร้านค้าชั้นนำทั่วไป นับว่าผู้คนเปิดใจให้กับทานอาหารเสริมและวิตามินมากขึ้น จนเป็นเรื่องปกติของผู้คนทั่วโลกนะครับ ซึ่งผู้ที่ทานอาหารเสริมเป็นประจำก็ทราบดีอยู่แล้วว่าไม่จำเป็นจะต้องรอให้ป่วยหรือเป็นโรคก่อนค่อยทานได้ ฉะนั้นสำหรับคนที่รู้ว่าตัวเองป่วยโดยเฉพาะโรคหัวใจ อาหารเสริมนับว่าเป็นอีกปัจจัยที่ผู้ป่วยและผู้ดูแลต้องใส่ใจเลือกเป็นพิเศษ วิตามินและอาหารเสริมสำคัญสำหรับผู้ป่วยอย่างไร? ชีวิตปกติของผู้คนในปัจจุบันทั้งเร่งรีบ แข่งกันตลอดเวลา ทำให้พฤติกรรมในชีวิตสวนทางกับสุขภาวะที่ดีของร่างกายไปเสียทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นอาหารที่ควรได้รับโภชนาการที่ถูกต้อง กลายมาเป็นอาหารจานด่วนไขมันสูงให้พลังงานมาก แต่สารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกายมีน้อย ทั้งยังมีภาวะเครียด กดดัน การพักผ่อนไม่เพียงพอ ล้วนส่งผลต่อสุขภาพ อาหารเสริมและวิตามินจะเข้ามาเติมเต็มสารอาหารที่ร่างกายจำเป็นต้องได้รับต่อวัน ยิ่งสำหรับคนป่วยแล้ว การได้รับสารอาหารที่ดีและมาเติมเต็ม ก็จะยิ่งช่วยให้ร่างกายซ่อมแซม บำรุง และเรียกคืนสุขภาพของเรากลับมา ทั้งภายในและภายนอก อาหารเสริมสำหรับผู้ป่วยที่เป็นโรคหัวใจนั้น สำคัญแค่ไหน? ผู้ที่เป็นโรคหัวใจหรือโรคที่เกี่ยวเนื่องกับหัวใจนับว่ามีความผิดปกติของหัวใจในส่วนใดส่วนหนึ่ง อาจจะรวมไปถึงความผิดปกติของหลอดเลือดอีกด้วย ซึ่งถือว่าอันตรายและมีความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน ส่งผลให้เป็นโรคอัมพฤษ์หรืออัมพาต และเสี่ยงที่จะเสียชีวิตได้ด้วย สาเหตุหนึ่งของความผิดปกติของหัวใจคือภาวะการขาดโคคิวเท็น และการอุดกั้นของไขมันในหลอดเลือดหัวใจ สารอาหารที่สกัดจากฮอร์ธอร์นและโคคิวเท็นจึงนับว่าจำเป็นต่อผู้ป่วย – สารสกัดจากฮอร์ธอร์น ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นให้หลอดเลือด เพื่อให้เลือดสามารถสูบฉีดจากหัวใจได้ดีขึ้น ลดไขมันและคอเลสเตอรอลไปเกาะตามผนังหลอดเลือด เป็นการเปิดทางให้เลือดสามารถหล่อเลี้ยงหัวใจและส่วนต่าง ๆ ได้ดีขึ้น – โคคิวเท็น นับเป็นแหล่งพลังงานของหัวใจที่ร่างกายสามารถสร้างเองได้ แต่สำหรับผู้ป่วยที่เป็นโรคหัวใจนั้น มีงานวิจัยว่ามีมักจะมีภาวะขาดโคคิวเท็น ซึ่งหากทานสารอาหารที่มีโคคิวเท็นก็จะไปช่วยเติมพลังงานให้หัวใจ ให้หัวใจกลับมาทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพได้ นอกจากนี้ยังมีสารอาหารอื่น ๆ อีกที่ผู้ป่วยสามารถทานเป็นอาหารเสริมได้ เช่น สารสกัดจากซีตรัสออเรนเทียม […]