หลายคนที่อยู่ในวัยกำลังสร้างเนื้อสร้างตัว ไม่ว่าจะมีโอกาสอะไรเข้ามาก็ต้องรีบไขว่คว้าไว้ โดยมักจะเป็นช่วงที่ร่างกายยังแข็งแรงและสามารถทำงานได้อย่างเต็มที่ จึงยกให้เรื่องงานเป็นความสำคัญอันดับหนึ่งในชีวิต หลายคนทำงานจนลืมวันลืมคืน หลายคนไม่ได้ทานข้าวให้ตรงเวลา และมีหลายคนที่ทำงานหนักจนไม่ได้พักผ่อนให้เต็มที่ รู้ไหมครับในอนาคตจะสร้างผลเสียต่อสุขภาพ โดยเฉพาะสุขภาพหลอดเลือดในสมองที่เรามักมองข้ามเสมอ โรคหลอดเลือดในสมองเกิดขึ้นได้อย่างไร? หลายคนอาจจะเข้าใจว่าโรคหลอดเลือดในสมองเกิดขึ้นกับคนที่อายุมากเท่านั้น แต่จริง ๆ โรคนี้เกิดขึ้นได้ในวัยรุ่นไปจนถึงผู้สูงวัยเลยนะครับ ซึ่งอาการหรือความผิดปกติที่เกิดขึ้นก็สามารถเกิดขึ้นได้หลายรูปแบบ โดยจะพบได้ 2 รูปแบบใหญ่ ๆ ได้แก่ 1. หลอดเลือดในสมองอุดตันหรือตีบตัน เป็นสาเหตุที่เกิดได้บ่อย เกิดจากการที่เส้นเลือดใหญ่แข็งตัวและตีบตัน หรือมีก้อนเลือดไปอุดตันเป็นลิ่มเลือดในเส้นเลือดใหญ่ในสมอง 2. หลอดเลือดสมองแตกเฉียบพลัน เกิดจากการที่ผนังเส้นเลือดเสื่อมสภาพ หรือการแตกของเส้นเลือดโป่งพอง ทำให้เกิดเลือดออกในสมอง และอาจจะถึงขั้นเสี่ยงที่จะหมดสติ และเสียชีวิตฉับพลันได้เลย ทำไมวัยทำงาน ทำงานหนัก ถึงเสี่ยงเป็นโรคหลอดเลือดในสมอง? อย่างที่กล่าวไปข้างต้นนะครับว่าวัยทำงานมักจะโฟกัสที่การทำงานมากกว่าเรื่องอื่น ๆ ในชีวิต จึงทำให้ละเลยในการดูแลสุขภาพ โดยเฉพาะอาหารที่ทานในทุกวัน เน้นเร็ว สะดวก อิ่มท้อง ไม่ได้เลือกอาหารที่มีประโยชน์มากนัก ทั้งยังปฏิเสธการออกกำลังกาย รวมไปถึงใช้เวลาไปกับการสังสรรค์ ดื่มแอลกอฮอล์ รวมไปถึงการสูบบุหรี่ พร้อมกับความเครียดสะสม ทำให้ฮอร์โมนในร่างกายและภูมิคุ้มกันทำงานได้ไม่ปกติอีกด้วย ปัจจัยในชีวิตเหล่านี้เป็นตัวเร่งที่ดีที่ทำให้เกิดโรคหลอดเลือดในสมองเลยก็ว่าได้ สังเกตสัญญาณจากร่างกายเสี่ยงเป็น “โรคหลอดเลือดในสมอง” อาการผิกปกติที่สังเกตได้ เช่น […]
เช็กลิสต์ “ฮอร์ธอร์นและโคคิวเท็น” ช่วยลดความเสี่ยงโรคอะไรได้บ้าง
หลายคนที่ติดตาม YOUR มาตลอด อาจจะคุ้นกับสารสกัดจากฮอร์ธอร์นและโคคิวเท็นกันมาบ้างนะครับ หรือสำหรับใครที่กำลังสนใจสารสกัดสองชนิดนี้เพื่อรับประทานเป็นอาหารเสริมหรือวิตามินบำรุงร่างกาย ก็อยากให้อ่านบทความนี้ประกอบด้วยว่า สารสกัดสองชนิดนี้ช่วยลดความเสี่ยงโรคอะไรได้บ้าง ประกอบการตัดสินใจรับประทานกันได้เลยครับ ลดความเสี่ยงโรคเบาหวาน โดยสารสกัดอย่างฮอร์ธอร์นเป็นสมุนไพรที่สมัยก่อนเคยทำไปใช้ในการรักษาผู้ป่วยโรคอ้วนและเบาหวาน เนื่องจากสามารถควบคุมน้ำตาลในเลือดได้ ทั้งยังช่วยควบคุมคอเลสเตอรอล และตระตุ้นให้ร่างกายนำไขมันไม่ดีไปใช้ เพื่อลดการอุดตันตามหลอดเลือดได้ด้วย นอกจากนี้ยังช่วยเรื่องเมแทบอลิซึม ช่วยให้การเผาผลาญของร่างกายกลับมาสมดุลครับ ลดความเสี่ยงโรคความดันโลหิตสูง สำหรับผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงจะมีความผิดปกติของความดันในหลอดเลือด ซึ่งเกิดจากหลอดเลือดตีบตันจากไขมันที่เกาะตามผนังหลอดเลือด เกิดเป็นตะกอนหรือลิ่มเลือดซึ่งเป็นอุปสรรคในการไหลเวียนเลือด จึงทำให้ความดันเลือดสูงขึ้น นอกจากนี้ยังมีปัจจัยอื่น ๆ ร่วมด้วย ทั้งการสูบบุหรี่ การดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำก็ทำให้ความดันสูงได้เช่นกัน โดยสารสกัดอย่างฮอร์ธอร์นสามารถช่วยขยายกล้ามเนื้อหลอดเลือดและกล้ามเนื้อหัวใจ ให้เลือดสามารถไหลเวียนได้ดีขึ้น ลดคอเลสเตอรอลและไขมันสะสมตามผนังหลอดเลือด ทั้งโคคิวเท็นก็เป็นสารอาหารที่ช่วยบำรุงหัวใจได้อย่างดี กระตุ้นให้หัวใจทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพมากขึ้น ลดความเสี่ยงโรคหัวใจและหลอดเลือด การเป็นโรคเบาหวาน และความดันโลหิตสูง นับเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่อาจจะทำให้เกิดโรคหัวใจได้ เนื่องจากสอดคล้องกับการทำงานของหัวใจโดยตรง หากเป็นทั้งสองโรคร่วมกันก็ยิ่งเสี่ยงที่จะเกิดโรคหัวใจนะครับ โดยสารสกัดจากฮอร์ธอร์นมีสรรพคุณที่สำคัญคือสามารถช่วยป้องกันการเกิดโรคหัวใจ และลดความเสี่ยงที่จะเกิดโรคหัวใจวายเฉียบพลัน หรือโรคหลอดเลือดหัวใจตีบตันได้ เนื่องจากสามารถกระตุ้นให้ผนังหัวใจและกล้ามเนื้อหัวใจขยายตัว สามารถสูบฉีดเลือดไปหล่อเลี้ยงทุกส่วนได้ไม่ติดขัด หากทำงานร่วมกับสารสกัดจากโคคิวเท็นก็จะยิ่งได้ประสิทธิภาพ เพราะโคคิวเท็นเป็นสารสำคัญในการบำรุงหัวใจ ซึ่งร่างกายสามารถผลิตเองได้ แต่เมื่อนานวันเข้าก็ผลิตได้น้อยลง หากทานเป็นวิตามินเพิ่มเข้าไปก็จะเข้าไปช่วยให้หัวใจได้กลับมาทำงานได้ดีขึ้นนะครับ ลดความเสี่ยงโรคอ้วน/ไขมันในเลือดสูง โรคอ้วนเกิดจากร่างกายขาดสารอาหารบ้างชนิด หรือได้รับสารอาหารบ้างชนิดที่มากเกินความต้องการของร่างกาย ในคนไข้บางรายเมื่อป่วยเป็นโรคเบาหวานอาจจะเสี่ยงเป็นโรคไขมันในหลอดเลือดสูงด้วย เนื่องจากปริมาณไขมันที่สะสมในร่างกายมากจนเกินไป ซึ่งสารสกัดจากธอร์ธอร์นมีสรรพคุณช่วยลดและควบคุมคอเลสเตอรอลในเลือด ลดไขมันไม่ดี สร้างไขมันดี […]
ผู้สูงอายุติดโซเชียล เสี่ยงโรคหัวใจ!!
ในยุคที่โลกออนไลน์ใกล้กันได้มากขึ้น กลับทำให้โลกความเป็นจริงดูไกลขึ้นกว่าเดิม โดยเฉพาะกับผู้สูงอายุ นั่นจึงทำให้คนใน Generation ที่เกิดมาในโลกอนาล็อกต้องมาเรียนรู้โลกดิจิทัล เพราะไม่เช่นนั้นก็อาจจะถูกหลงลืมและตามไม่ทันโลกได้ แม้ความเข้าใจจะยากและสวนทางกับความรวดเร็วในการพัฒนาเทคโนโลยี แต่ผู้สูงอายุหลายคนก็ทำได้ดี จนติดโซเชียลพอ ๆ กับยุคสมัยที่เคยติดหนังสือหรือโทรทัศน์ แต่รู้หรือไม่ว่าการใช้เวลาไปกับโซเชียลมีเดียสำหรับผู้สูงอายุนั้น ยิ่งใช้มาก ยิ่งเสี่ยงต่อโรคหัวใจ จากการสำรวจผู้ใช้อินเทอร์เน็ตในประเทศไทย ปี 2560 มีรายงานว่าผู้สูงอายุใช้เวลาไปกับโซเชียลมีเดีย ไม่ว่าจะเป็นแอปพลิเคชั่น Line Youtube Facebook กว่า 4 ชั่วโมงต่อวัน ซึ่งถือว่าไม่น้อยเลยครับ อีกทั้งสถิติการใช้งานของคนกลุ่มนี้ก็มากขึ้นตามเทรนด์ทั่วโลก หลายคนอาจจะมองว่าการที่ผู้สูงอายุมีกิจกรรมผ่านโลกออนไลน์ ก็ดีกว่าการอยู่เฉย ๆ ใช่ไหมครับ? แต่กลับกลายเป็นว่าการจมจ่ออยู่กับโทรศัพท์หรือแท็บแล็ตนาน ๆ ส่งผลเสียต่อสุขภาพมากกว่า ผลกระทบสุขภาพของโซเชียลมีเดียต่อผู้สูงอายุ 1. การเสพข่าวสารที่กระทบต่อจิตใจ ผู้สูงอายุมีความอ่อนไหวด้านจิตใจเป็นทุนเดิม การไม่ได้เตรียมใจจะตั้งรับกับข่าวสารที่มีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ ในยุคปัจจุบันอาจจะส่งผลต่ออารมณ์และความรู้สึก เพราะการเลื่อนไทม์ไลน์ไม่สามารถรู้ล่วงหน้าได้ว่าจะเจอกับรูปภาพหรือวิดีโอรูปแบบใด และหลีกเลี่ยงที่จะปฏิเสธข่าวสารที่รวดเร็วและไม่มีการกลั่นกรองได้เลย ฉะนั้นการที่ผู้สูงอายุต้องรับรู้ข่าวเหล่านี้มาก ๆ ยิ่งส่งผลต่อภาวะจิตใจและร่างกาย ทำให้เสี่ยงที่จะเป็นโรคเกี่ยวกับหัวใจได้ 2. การหลีกเลี่ยงข้อความหรือสถานการณ์ที่กระทบกระเทือนจิตใจได้ยาก เมื่อโซเชียลมีเดียสื่อสารด้วยข้อความเป็นหลัก บางครั้งผู้สูงอายุอาจจะตีความผิดได้ ซึ่งอาจจะทำให้ผู้สูงอายุมีความไม่สบายใจ ตระหนก กังวลใจ […]