หลายคนคงเคยได้ยินเกี่ยวกับอาการปากเบี้ยว หน้าชา ที่อาจเกิดขึ้นโดยไม่ทันตั้งตัว หรือบางคนอาจเคยเห็นคนใกล้ชิดที่ประสบเจอนี้ อาการที่มักจะทำให้รู้สึกตกใจและวิตกกังวล นั่นคืออาการ “โรคหน้าเบี้ยวครึ่งซีก” หรือที่เรารู้จักกันในชื่อ “โรคอัมพาตใบหน้า” (Bell’s Palsy) โรคหน้าเบี้ยวครึ่งซีก คืออะไร? โรคหน้าเบี้ยวครึ่งซีกหรืออัมพาตใบหน้า เป็นภาวะกล้ามเนื้อบริเวณใบหน้ามีอาการอ่อนแรงหรืออัมพาตเฉียบพลัน ซึ่งจะทำให้ใบหน้าดูเบี้ยวไปข้างหนึ่ง โดยปกติจะเกิดกับด้านใดด้านหนึ่งของใบหน้า อาการเหล่านี้อาจเกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็วภายในระยะเวลาไม่กี่ชั่วโมงหรือไม่กี่วัน นอกจากนี้ยังมีอาการอื่นที่พบร่วมด้วย ได้แก่ ปากเบี้ยว หน้าชา หรือการที่ยิ้มไม่ได้อย่างปกติ สาเหตุของโรคหน้าเบี้ยวครึ่งซีก สาเหตุของโรคหน้าเบี้ยวครึ่งซีกยังไม่ชัดเจน แต่ส่วนใหญ่เชื่อว่าเกิดจากการอักเสบของเส้นประสาทใบหน้า ซึ่งส่งผลให้กล้ามเนื้อใบหน้าฝั่งนั้นอ่อนแรง หรือสันนิษฐานว่าอาจจะเกิดจากการติดเชื้อจากไวรัส เช่น ไวรัสไข้หวัดใหญ่ หรือไวรัสเริมอาจเป็นหนึ่งในปัจจัยที่กระตุ้นให้เกิดโรคนี้ได้ อาการของโรคหน้าเบี้ยวครึ่งซีก – ปากเบี้ยว มุมปากไม่สามารถยกขึ้นได้อย่างปกติ – รู้สึกชาหรืออ่อนแรงบริเวณใบหน้า – ฝั่งของใบหน้าที่ได้รับผลกระทบจะยิ้มไม่ได้ – บางคนอาจมีอาการน้ำตาไหลมากเกินไปจนตาแห้ง – ผู้ป่วยบางรายอาจมีความยากลำบากในการปิดตา การรักษาและการดูแล โรคหน้าเบี้ยวครึ่งซีกส่วนใหญ่สามารถหายได้เองภายในเวลาไม่กี่สัปดาห์หรือไม่กี่เดือน แต่ควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะช่วยลดอาการและเร่งการฟื้นฟูได้เร็วกว่า รวมถึงการใช้ยาสเตียรอยด์เพื่อช่วยลดการอักเสบในเส้นประสาทใบหน้า หรือการทำกายภาพบำบัดเพื่อฟื้นฟูการทำงานของกล้ามเนื้อใบหน้าให้กลับมาเป็นปกติ วิธีป้องกันโรคหน้าเบี้ยวครึ่งซีก แม้โรคนี้จะไม่สามารถป้องกันได้ […]
4 เรื่องที่ของขวัญสุขภาพ โปรตีนจากพืชให้คุณได้
ในยุคที่การดูแลสุขภาพสามารถทำได้หลากหลายวิธี แต่วิธีที่ทำได้ง่าย ๆ ที่หลายคนคิดถึงคือการเลือกบริโภคโปรตีนจากพืช (Plant-Based) ไม่เพียงแค่ตอบสนองความต้องการด้านโภชนาการ แต่ยังถือเป็น “ของขวัญสุขภาพ” ที่ยั่งยืนต่อร่างกาย จิตใจ และสิ่งแวดล้อม มาดูกันว่าโปรตีนจากพืชสามารถให้ “ของขวัญ” อะไรกับชีวิตคุณได้บ้างครับ 1. สุขภาพหัวใจที่แข็งแรง โปรตีนจากพืช เช่น ถั่วลันเตา เมล็ดฟักทอง และข้าวกล้อง มีไขมันอิ่มตัวต่ำและไม่มีคอเลสเตอรอล ต่างจากโปรตีนจากสัตว์ที่อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหัวใจ เนื่องจากมีไขมันอิ่มตัวแฝงอยู่ในปริมาณที่สูงกว่า การบริโภคโปรตีนจากพืชจึงช่วยลดระดับไขมันในเลือดและปรับสมดุลความดันโลหิต ทำให้หัวใจของคุณทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ หากเริ่มรับประทานตั้งแต่เนิ่น ๆ ก็จะยิ่งช่วยให้ส่งเสริมสุขภาพดีได้เร็วขึ้นครับ 2. ช่วยเรื่องการย่อยอาหารที่ดีขึ้น โปรตีนจากพืชมีไฟเบอร์สูง จึงช่วยส่งเสริมการทำงานของระบบย่อยอาหาร การทำงานของลำไส้ ลดอาการท้องผูก และเพิ่มปริมาณจุลินทรีย์ที่ดีในลำไส้ สุขภาพทางเดินอาหารที่ดีส่งผลโดยตรงต่อระบบภูมิคุ้มกันและอารมณ์ หากมีการขับถ่ายอย่างเป็นระบบก็จะช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายได้ดีอีกด้วย ป้องกันการป่วยเล็กน้อยได้ดีอีกทางหนึ่ง 3. ช่วยควบคุมน้ำหนัก โปรตีนจากพืชเป็นแหล่งพลังงานที่มีแคลอรีต่ำแต่อิ่มนาน ลดการกินขนมหรืออาหารทานเล่นระหว่างวันได้ดี การบริโภคโปรตีนพืชเป็นประจำ เช่น ในรูปแบบผงชงดื่มระหว่างวันช่วยลดการบริโภคแคลอรีส่วนเกิน ทำให้การดูแลน้ำหนักเป็นเรื่องง่ายขึ้น และยังได้สารอาหารที่เหมาะสมกับร่างกายต้องการด้วย 4. ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม การเลือกโปรตีนจากพืชแทนโปรตีนจากสัตว์ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและลดการใช้น้ำในกระบวนการผลิต […]
ผักดิบที่ไม่ควรทานมากเกินไป เสี่ยงต่อภูมิคุ้มกันตก
การรับประทานผักสดหรือผักดิบเป็นที่นิยมของคนไทยหลายคน เพราะใช้รับประทานแกล้มร่วมกับอาหารอื่น ๆ เช่น น้ำพริก แม้การบริโภคผักจะทำให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่ครบถ้วนและมีประโยชน์ แต่การทานผักที่ดิบบางชนิดในปริมาณมากเกินไป อาจส่งผลกระทบต่อระบบภูมิคุ้มกันและสุขภาพในระยะยาว มาดูกันว่าการทานผักประเภทไหนบ้างที่มีความเสี่ยงก่อโรค และควรเลือกรับประทานอย่างไร ผักดิบที่ไม่ควรบริโภคมากเกินไป 1. ผักโขม (Spinach) ผักโขมมีสารออกซาเลต (Oxalate) สูง ซึ่งอาจขัดขวางการดูดซึมแคลเซียมในร่างกาย หากบริโภคในปริมาณมากอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดนิ่วในไต นอกจากนี้ ออกซาเลตยังอาจทำให้ภูมิคุ้มกันอ่อนแอหากร่างกายขาดสารอาหารที่สำคัญ 2. กะหล่ำปลีและบรอกโคลี (Cabbage & Broccoli) ผักในกลุ่ม Cruciferous เช่น กะหล่ำปลีและบรอกโคลี มีสารกอยโตรเจน (Goitrogens) ที่อาจขัดขวางการทำงานของต่อมไทรอยด์ หากบริโภคในปริมาณมากต่อเนื่อง อาจส่งผลต่อสมดุลฮอร์โมนและภูมิคุ้มกัน 3. ถั่วงอกดิบ (Raw Sprouts) ถั่วงอกดิบมีความเสี่ยงต่อการปนเปื้อนแบคทีเรีย เช่น ซัลโมเนลลา (Salmonella) และอีโคไล (E. coli) ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการอาหารเป็นพิษและระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอลง โดยเฉพาะในผู้ที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ เช่น เด็กและผู้สูงอายุ 4. หน่อไม้ดิบ (Raw Bamboo […]