แม้จะมีโรคใหม่เกิดขึ้นเรื่อย ๆ รวมถึงสภาพอากาศที่แปรปรวนทำให้เราต้องเตรียมตัวรับมือกับสิ่งใหม่ที่เกิดขึ้นอย่างระมัดระวังเสมอ แต่ก็อย่าลืมโรคที่เคยมีอยู่เพราะว่าโรคเหล่านี้ก็ยังคงอยู่และสามารถทำให้เราป่วยได้เช่นเดิม อย่างเช่น โรคความดันโลหิต หลายคนเห็นคนใกล้ตัวเป็นจนคิดว่าเป็นเรื่องปกติทั้งที่ความจริงแล้วการเป็นโรคถือว่ามีความผิดปกติเกิดขึ้นกับร่างกายของเราแล้ว ทั้งยังแยกความอันตรายของความดันโลหิตต่ำ-สูง ยาก จึงอยากมาแนะนำความแตกต่างและการดูแลตัวเองที่แตกต่างกันของโรคนี้กันให้มากขึ้นครับ โรคความดันโลหิตต่ำ เป็นภาวะที่ความดันเลือดซิสโตลิกต่ำกว่า 90 มิลลิเมตรปรอท ซึ่งเป็นภาวะที่พบทุกเพศไม่ว่าจะผู้ชายหรือผู้หญิงก็มีความเสี่ยงพอ ๆ กัน ที่สำคัญไม่ว่าอายุเท่าไหร่ก็สามารถเป็นได้ ส่วนมากเกิดจากการขาดสารอาหารบางชนิด เช่น การรับประทานโปรตีนไม่เพียงพอ หรือการขาดวิตามินซีที่ทำให้ผนังหลอดเลือดไม่แข็งแรง จนเกิดการคลายตัว แต่จะสามารถหายเองได้ หากอยู่ในภาวะความดันโลหิตต่ำอาจจะไม่ก่อให้เกิดอาการใด ๆ แต่หากเกิดในผู้ป่วยที่มีภาวะเลือดไปหล่อเลี้ยงสมองไม่เพียงพอ อาจจะทำให้เวียนหัว หน้ามืด เป็นลมได้ หรือเกิดตาพร่าชั่วขณะ คลื่นไส้ อาเจียน เหนื่อย และกระหายน้ำมากกว่าปกติ ดูแลร่างกายอย่างไรเมื่อความดันโลหิตต่ำ – ควรนั่งพัก โดยพยายามยกเท้าให้สูงกว่าระดับหัวใจเพื่อให้เลือดไปหล่อเลี้ยงสมอง – ไม่ควรยืนหรือเดินนาน ๆ ในทันทีที่มีอาการ – เลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน และแอลกอฮอล์ – เลี่ยงการนอนดึก เพราะการพักผ่อนไม่เพียงพอจะทำให้เกิดความดันโลหิตต่ำได้ง่าย ความดันโลหิตสูง โดยปกติแล้วหากวัดค่าความดันโลหิตคนปกติจะมีค่าอยู่ที่ประมาณ 120/80 มิลลิเมตรปรอท ซึ่งวัดจากการบีบตัวและคลายตัวของหัวใจ แต่หากวัดแล้วได้ค่าตั้งแต่ […]
คนเป็นความดันโลหิตสูงควรออกกำลังกายแบบใด?
หลายคนอาจจะสงสัยว่าผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงสามารถออกกำลังกายได้หรือไม่? คำตอบคือได้ครับ หากผู้ป่วยสามารถออกกำลังกายได้อย่างเหมาะสม จะช่วยควบคุมระดับความดันได้อีกด้วย ซึ่งผู้ป่วยหลาย ๆ คนมักจะละเลย แม้แพทย์จะแนะนำ ด้วยกลัวจะหน้ามืด หรือกลัวจะออกกำลังกายหนักจนส่งผลต่อโรค วันนี้จะมาแนะนำการออกกำลังกายสำหรับผู้ป่วยโรคความดันโลหิตครับ การออกกำลังกาย ดีต่อผู้ป่วยโรคความดันโลหิตอย่างไร? การออกกำลังกายสามารถช่วยป้องกันโรคความดันโลหิตสูงในคนที่มีความดันในเกณฑ์ปกติ และสามารถช่วยลดความดันหรือควบคุมความดันให้อยู่ในเกณฑ์ปกติได้ด้วย ซึ่งมีการวิจัยพบว่า การออกกำลังกายประเภทแอโรบิค สามารถลดความดันโลหิตในค่า Systilic ได้ประมาณ 2-3 mmHG ทั้งยังช่วยลดความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะหลอดเลือดสมองตีบหรือแตกได้ถึงร้อยละ 14 รวมถึงช่วยลดความเสี่ยงที่จะเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจได้ถึงร้อยละ 9 การออกกำลังกายจึงเป็นหนึ่งในวิธีการรักษา ควบคุม และช่วยป้องกันโรคความดันโลหิตทั้งในผู้ป่วยและคนทั่วไปได้ด้วย การออกกำลังกายแบบแอโรบิคสามารถทำได้อย่างไรบ้าง? การออกกำลังกายแบบแอโรบิค (Aerobic) คือ การออกกำลังกายประเภทหนึ่งที่ให้ความสำคัญกับการหายใจเข้าออก เพื่อให้หัวใจและหลอดเลือดเกิดการสูบฉีด และสามารถส่งออกซิเจนไปใช้เป็นพลังงานตลอดการออกกำลังกาย เช่น การเดินเร็ว การว่ายน้ำ การขี่จักรยาน หรือการเต้นแอโรบิค ซึ่งจะเป็นการออกกำลังกายแบบต่อเนื่อง เน้นให้เกิดการขยับกล้ามเนื้อ และใช้กล้ามเนื้อส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย ซึ่งจะเป็นการออกกำลังกายที่ไม่หนักจนเกินไป และใช้ระยะเวลาประมาณ 30-60 นาที/ครั้ง สัปดาห์ละ 3-4 ครั้ง ผู้ป่วยโรคความดันโลหิตต้องรู้ก่อนออกกำลังกาย ในขณะออกกำลังกายผู้ป่วยจะต้องสังเกตตัวเอง […]
โรคหัวใจไม่ต้องรออายุมาก ดูแลก่อนด้วยฮอร์ธอร์นโคคิวเท็น
เวลาพูดถึงโรคหัวใจ หลายคนอาจจะคิดภาพผู้ป่วยเป็นผู้สูงอายุหรือช่วงวัยกลางคน แต่เชื่อไหมครับว่าไม่กี่ปีที่ผ่านมา พบว่ามีผู้ป่วยโรคหัวใจที่อายุน้อยลงเรื่อย ๆ อย่างน่าเป็นกังวล ที่สำคัญปัจจุบันโรคหัวใจยังเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับต้น ๆ ของโลกและในประเทศไทยด้วย มาดูสาเหตุกันครับว่า ทำไมคนอายุน้อยถึงเสี่ยงเป็นโรคหัวใจ และฮอร์ธอร์น โคคิวเท็น สารสกัดสองชนิดนี้จะเข้ามาช่วยดูแลได้อย่างไร โรคหัวใจในกลุ่มคนอายุน้อยเกิดขึ้นได้อย่างไร? นอกจากสาเหตุที่เกิดจากกรรมพันธุ์หรือมีความผิดปกติเกี่ยวกับหัวใจตั้งแต่กำเนิดแล้ว การเกิดโรคหัวใจในคนอายุน้อยเกิดจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตในปัจจุบัน โดยเฉพาะการสูบบุหรี่และการดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ สองเหตุผลนี้ทำให้เกิดผู้ป่วยโรคหัวใจที่อายุน้อยเพิ่มขึ้น รวมไปถึงพฤติกรรมอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นการทำงานหนัก พักผ่อนน้อย สะสมความเครียด รวมไปถึงการรับประทานอาหารที่ไม่มีประโยชน์ เต็มไปด้วยไขมันและน้ำตาลสูง ส่งผลให้เกิดโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง อาทิ โรคอ้วน โรคความดันโลหิตสูง โรคไขมันในเลือดสูง ซึ่งโรคเหล่านี้เป็นอัตราเร่งให้เกิดโรคหัวใจได้อีกด้วย สังเกตอาการคนอายุน้อยเสี่ยงโรคหัวใจ ปัจจุบันมีพบคนเป็นโรคหัวใจได้ตั้งแต่ 25 – 40 ปี หลายคนแข็งแรงออกกำลังกายเป็นประจำ แต่ก็อาจจะมีความเสี่ยงเป็นโรคกล้ามเนื้อหัวใจได้ ชวนสังเกตอาการดังนี้ – รู้สึกแน่นหน้าอก เจ็บจี๊ด ๆ จนรู้สึกแน่นมากจนทรมาน อาจจะนานถึง 5 – 20 นาที – ใจสั่น เหงื่อออก หน้ามืด […]