หลายคนอาจจะสงสัยว่าผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงไม่สามารถออกกำลังกายได้หรือ? จริง ๆ แล้วผู้ป่วยแทบจะทุกโรคสามารถออกกำลังกายได้นะครับ เพียงแต่ว่าจะต้องเลือกกิจกรรมที่เหมาะสม กับผู้ป่วยความดันโลหิตเองก็เช่นกัน เนื่องจากผู้ป่วยโรคนี้จะมีความผิดปกติของความดันโลหิต การออกกำลังกายที่ไม่เหมาะสมจะส่งผลต่อการทำงานของหัวใจ และการไหลเวียนเลือด ซึ่งหากออกกำลังกายหนักเกินไป อาจจะทำให้เป็นลม หน้ามืด หรือเสี่ยงที่จะเกิดภาวะหัวใจล้มเหลวได้เลยครับ วันนี้เลยมาแนะนำทริคออกกำลังกายง่าย ๆ สำหรับผู้ป่วยโรคความดันที่อยากขยับตัวออกกำลังกายกัน การออกกำลังกายช่วยผู้ป่วยโรคความดันโลหิตได้ยังไง? มีการศึกษาว่าการออกกำลังกายแบบแอโรบิค หรือ คาร์ดิโอ จะช่วยให้ค่าความดันซิสโตลี (Systolic blood pressure) หรือ แรงดันเลือดในขณะที่หัวใจบีบตัว อยู่ที่ 2-3 mmHG และยังพบว่าถ้าความดันโลหิตลดลงอย่างน้อย 2 mmHG จะส่งผลให้ลดความเสี่ยงต่อการเกิดหลอดเลือดสมองตีบหรือแตก (Stroke) ได้ถึงร้อยละ 14 และลดความเสี่ยงต่อการที่จะเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจได้ร้อยละ 9 ฉะนั้นการออกกำลังกายจึงถือว่าสำคัญสำหรับผู้ป่วยโรคความดันโลหิตมาก ๆ เลยครับ ทริคออกกำลังกายแนะนำ สำหรับผู้ป่วยโรคความดันโลหิต 1. การเดิน การเดินเป็นการกระตุ้นให้หัวใจทำงานอย่างสม่ำเสมอ ไม่เร็ว ไม่ช้าเกินไป แนะนำให้เดินอย่างน้อย 30 – 40 นาที เน้นกำหนดลมหายใจ หากเหนื่อยให้พัก […]
โควิด-19 เสี่ยงต่อผู้ป่วยความดันโลหิตสูง หลอดเลือด และหัวใจ มากแค่ไหน
แม้สถานการณ์โควิด-19 จะดูท่าทรงตัวมาสักระยะ แต่สิ่งที่น่าเป็นกังวลคือการแพร่ระบาดอย่างต่อเนื่อง และด้วยความที่อาการของโรคไม่หนักเท่าช่วงแรก ทำให้หลายคนเลือกรักษาเองที่บ้าน ภาพรวมของสถานการณ์เลยไม่รุนแรง แต่โควิด-19 ก็ยังไม่ถือว่าเป็นโรคประจำถิ่นหรือเป็นเพียงไข้หวัดธรรมดานะครับ เพราะยังคงส่งผลกระทบต่อการทำงานของร่างกายที่มากกว่าไข้หวัดธรรมดา โดยเฉพาะกับคนที่มีโรคประจำตัวอย่างโรคความดันโลหิตสูง หลอดเลือด และโรคหัวใจ ที่เสี่ยงกว่าคนอื่น ๆ มีข้อมูลทางการแพทย์จากกรมควบคุมโรคบอกไว้ว่า เมื่อผู้ป่วยที่มีภาวะความดันโลหิตสูงติดเชื้อโควิด-19 จะทำให้เกิดความผิดปกติได้หลายแบบ – หัวใจเต้นผิดจังหวะได้ 17% – ทำให้กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ 7% – ระบบไหลเวียนโลหิตล้มเหลว 9% จนทำให้เกิดภาวะหัวใจวายได้ สำหรับผู้ป่วยโรคหัวใจและหลอดเลือด โดยสถิติผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ที่เป็นโรคหัวใจมีจำนวนมากถึง 13% และอาจมีภาวะทางหัวใจและหลอดเลือดที่กำเริบขึ้นในขณะติดเชื้อโควิด-19 ได้อีกด้วย โดยโควิด-19 ทำให้เกิดความเสี่ยงดังนี้ – ภาวะหัวใจล้มเหลวมากขึ้นประมาณ 20% – เส้นเลือดหัวใจตีบมากขึ้นประมาณ 10% – หัวใจเต้นผิดจังหวะมากขึ้นประมาณ 10% โคโรนาไวรัสส่งผลต่อผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจและหลอดเลือดได้อย่างไร? เนื่องจากโคโรนาไวรัสส่งผลกระทบต่อระบบทางเดินหายใจโดยตรง สามารถทำให้ปอดบวมหรืออักเสบ นอกจากนี้ยังส่งผลต่อระบบหัวใจ เนื่องจากผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงจะทำให้หัวใจทำงานหนัก จึงต้องพยายามสูบฉีดมากกว่าปกติ ทำให้กล้ามเนื้อหัวใจหนาขึ้น หลอดเลือดหัวใจก็ทำงานหนัก อาจจะทำให้กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ และอาจจะเสี่ยงที่จะเกิดภาวะหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน […]
สารสกัด “ฮอร์ธอร์นและโคคิวเท็น” ฟื้นบำรุงหัวใจและหลอดเลือด
ยุคนี้ใครยังไม่รู้จักสารสกัดจากฮอร์ธอร์นหรือโคคิวเท็น ต้องรีบแล้วนะครับ เพราะสองสารสกัดนี้นับเป็นสารสกัดที่ได้รับความนิยมขึ้นเรื่อย ๆ ในหมู่คนรักสุขภาพ อาจจะไม่ได้ช่วยเรื่องความสวยงามเห็นผลทันตา แต่เป็นการดูแลร่างกายในระยะยาว เนื่องจากดูแลอวัยวะสำคัญอย่างหัวใจและหลอดเลือดเป็นอวัยวะที่สำคัญมาก ๆ ต่อร่างกายของเรา ใครที่ยังศึกษาอยู่วันนี้มาแนะนำฮอร์ธอร์นและโคคิวเท็นเพิ่มเติมให้ครับ ฮอร์ธอร์นคืออะไร ฮอร์ธอร์นเป็นพืชที่มนุษย์รู้จักมานานแล้วนะครับ นอกจากจะเป็นผลไม้ที่มีรสชาติดีแล้ว ยังถูกนำมาใช้เป็นสมุนไพรในการดูแลสุขภาพมาเป็นระยะเวลานานแล้วด้วย โดยแพทย์สมัยก่อนใช้เป็นสมุนไพรในการรักษาคนที่เป็นโรคที่เกี่ยวกับหัวใจและหลอดเลือด ต่อมาได้ถูกค้นพบว่าสารกัดจากฮอร์ธอร์นช่วยลดความเสี่ยงจากภาวะหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน และลดความดันโลหิต รวมถึงช่วยลดไขมัน LDL ควบคุมคอเลสเตอรอล และไตรกลีเซอไรด์อีกด้วย โคคิวเท็นคืออะไร โคคิวเท็น หรือ ย่อมาจาก โค เอ็นไซม์ คิวเท็น (Coenzyme Q10) เดิมทีเป็นสารที่พบในเซลล์ของร่างกายเรา มีหน้าที่สร้างพลังงานในเซลล์ให้ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ แต่เมื่อเวลาผ่านไปสารตัวนี้ก็ค่อย ๆ ลดลง จึงมีการคิดค้นและสกัดโคคิวเท็นเพื่อช่วยในให้การทำงานของเซลล์ในอวัยวะต่าง ๆ ทำงานได้ดีขึ้น โดยเฉพาะอวัยวะอย่างหัวใจ สมอง ตับ ไต ที่ต้องการพลังงานสูง ทั้งนี้โคคิวยังมีสารต้านอนุมูลอิสระ ชะลอความเสื่อมของร่างกาย ช่วยให้กล้ามเนื้อของหัวใจทำงานก็อย่างแข็งแรงมากขึ้นด้วย การทำงานที่สอดประสานกันของฮอร์ธอร์นและโคคิวเท็น ทั้งสองสารสกัดสามารถทำงานร่วมกันได้อย่างดี และยิ่งส่งเสริมกันและกันในการฟื้นบำรุงหัวใจและหลอดเลือด โดยฮอร์ธอร์นช่วยในเรื่องการขยายหลอดเลือด ให้กล้ามเนื้อหลอดเลือด กล้ามเนื้อหัวใจแข็งแรง และทำงานได้อย่างยืดหยุ่นมากขึ้น ช่วยให้เลือดไหลเวียนนำสารอาหารต่าง […]