เข้าหน้าฝนทีไรคนที่เป็นภูมิแพ้ก็ยังต้องดูแลตัวเองให้มากขึ้นนะครับ เพราะนอกจากจะต้องต่อสู้กับภูมิแพ้ที่ถูกกระตุ้นด้วยสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงแล้ว ยังต้องเพิ่มการดูแลภูมิคุ้มกันให้มากขึ้นด้วย เพราะโรคที่มาพร้อมหน้าฝนก็น่ากังวลไม่ใช่น้อยเลย หากช่วงนี้ปล่อยให้ตัวเองภูมิคุ้มกันตก ยิ่งเสี่ยงที่จะติดเป็นโรคเหล่านี้ได้ครับ มาดูกันว่าโรคอะไรที่น่าเป็นกังวลในช่วงหน้าฝนบ้าง แล้วเราจะทำยังไงให้ภูมิคุ้มกันแข็งแรงขึ้น โรคไข้หวัดใหญ่ แม้จะเป็นโรคที่ได้ยินชื่อบ่อย ๆ แต่ก็ยังถือเป็นโรคที่วางใจไม่ได้เลยครับ แม้จะมีวัคซีนป้องกันแล้ว แต่ยังต้องได้รับการฉีดกระตุ้นทุกปี เพราะไวรัสไข้หวัดใหญ่นั้นมีการกลายพันธุ์อยู่เสมอ อีกทั้งการเข้าถึงวัคซีนก็มีข้อจำกัดอีกด้วย เพราะไม่ใช่วัคซีนที่สามารถฉีดฟรีได้ และเมื่อฝนตกอากาศชื้นขึ้นยิ่งทำให้เชื้อไวรัสเติบโตและแพร่พันธุ์ได้ง่ายมากขึ้น สามารถติดต่อกันได้ผ่านสารคัดหลั่งต่าง ๆ หากป่วยแล้วจะมีอาการปวดตามเนื้อตัว เป็นไข้สูงใน 2 – 3 วันแรก ทั้งยังปวดหัวมาก อาเจียน บางคนมีอาการท้องเสียร่วมด้วย ซึ่งอาการจะคล้ายโควิด-19 มาก หากมีอาการเหล่านี้แต่ตรวจ ATK ไม่ขึ้น ก็ควรรีบไปพบแพทย์ได้เลยครับ เพราะความกังวลของไข้หวัดใหญ่นอกจากตัวไวรัสเองแล้ว อาการแทรกซ้อนก็น่าเป็นกังวลเช่นกัน โรคไข้เลือดออก แม้ส่วนใหญ่โรคนี้มักจะเกิดในเด็กเพราะมีภูมิคุ้มกันที่ต่ำกว่าวัยผู้ใหญ่ แต่ก็ไม่ใช่ว่าโรคนี้เกิดกับผู้ใหญ่ไม่ได้ เพราะหากบางคนไม่เคยเป็นไข้หวัดใหญ่ก็จะไม่มีภูมิคุ้มกัน ไข้เลือดออกเกิดจากยุงลายตัวเมียเป็นพาหะในการส่งต่อเชื้อไวรัสเดงกี่ (Dengue Virus) ซึ่งอาการจะใกล้เคียงกับไข้หวัดธรรมดามาก ๆ มีไข้สูงประมาณ 2 – 7 วัน เบื่ออาหาร หน้าแดง […]
“มะเร็งเต้านม” ลดเสี่ยงได้ด้วยการเสริมภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย
แม้ว่าโรคมะเร็งจะสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกเพศ แต่มะเร็งเต้านมถือเป็นภัยคุกคามที่ไม่มีผู้หญิงคนไหนอยากเผชิญ ทั้งยังเป็นชนิดมะเร็งที่พบได้บ่อยเป็นอันดับหนึ่งของผู้หญิงทั่วโลกและในไทยเองด้วย สถิติการเสียชีวิตยังต้องเฝ้าระวัง แต่สิ่งหนึ่งที่สามารถป้องกันและลดเสี่ยงโรคมะเร็งเต้านมได้คือการสร้างภูมิกันของร่างกายให้แข็งแรงสม่ำเสมอ เพราะนี่จะเป็นอีกวิธีที่สามารถทำได้ตั้งแต่วันนี้ ทำไมมะเร็งเต้านมถึงเกี่ยวกับภูมิคุ้มกัน ปัจจัยในการเกิดโรคมะเร็งมีหลายอย่าง เช่น พันธุกรรม อาหารการกิน การป่วยเป็นโรคที่นำไปสู่โรคมะเร็ง พฤติกรรมการใช้ชีวิต ซึ่งสิ่งเหล่าล้วนเป็นปัจจัยที่ก่อให้เกิดเซลล์มะเร็ง เพราะไปกระตุ้นให้เซลล์ทำงานผิดพลาดจะกลายพันธุ์เป็นเซลล์ร้ายในร่างกาย และค่อย ๆ ขยายเซลล์จนลุกลามไปยังอวัยวะต่าง ๆ จนส่งผลให้อวัยวะและร่างกายทำงานผิดพลาดและส่งผลต่อการดำเนินชีวิตในที่สุด มีการศึกษาว่าหนึ่งในปัจจัยที่จะทำให้เซลล์ที่ทำงานผิดพลาดไม่กลายไปเป็นเซลล์มะเร็ง คือ ระบบภูมิคุ้มกันที่แข็งแรง นั่นเพราะหากเกิดความผิดปกติที่เซลล์ใดเซลล์หนึ่ง หากเซลล์ระบบภูมิคุ้มกันตรวจพบ ก็จะสามารถทำลายเซลล์นั้นได้ก่อนที่จะกลายพันธุ์ไปเป็นมะเร็ง ซึ่งกลายมาเป็นนวัตกรรมใหม่ในการรักษาโรคมะเร็งเต้านมในปัจจุบัน ทั้งได้ถูกนำมารักษาผู้ป่วยโรคนี้ และมีแนวโน้มในการรักษาค่อนข้างดีอีกด้วย การรักษาโรคมะเร็งเต้านมด้วยภูมิคุ้มกันบำบัด นวัตกรรมการรักษามะเร็งเต้านมด้วยภูมิคุ้มกันบำบัด มีหลักการคือใช้เซลล์ของร่างกายหรือเซลล์ของระบบภูมิคุ้มกันของตัวผู้ป่วยเองเป็นตัวควบคุมในการกำจัดเซลล์มะเร็ง ซึ่งหลังจากได้รับการรักษาผู้ป่วยจะได้รับผลข้างเคียงน้อยกว่าการรักษาแบบเดิมที่ใช้เคมีหรือฉายแสง เพราะเซลล์ในร่างกายใกล้เคียงถูกทำลายไปด้วย วิธีนี้ผู้ป่วยจะต้องมีการดูแลตัวเองอย่างดี เพราะต้องดูแลระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายให้สามารถต่อสู้กับโรคได้ เสริมสร้างภูมิคุ้มกันในร่างกายด้วย “เบต้ากลูแคน” ที่มีประสิทธิภาพ การเสริมสร้างภูมิคุ้มกันในร่างกายให้ได้ประสิทธิภาพต้องประกอบไปด้วย การรับประทานอาหารที่ถูกหลักโภชนาการ พฤติกรรมการกินและการออกกำลังกาย ลดเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยงอย่างสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์ และการพักผ่อนอย่างเพียงพอ แต่ด้วยปัจจัยปัจจุบันอาจจะทำให้ไม่สามารถทำทุกอย่างได้ดี ตัวช่วยหนึ่งคือการรับประทานสารสกัดจากเบต้ากลูแคน โดยเฉพาะเบต้ากลูแคนที่สกัดมาจากผนังเซลล์ของยีสต์ Saccharomyces Cerevisiae ซึ่งเป็นสารสกัดที่ได้ชื่อว่าสามารถเสริมสร้างภูมิคุ้มกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังสะดวกและปลอดภัย เลือกเป็นเบต้ากลูแคนที่มีความบริสุทธิ์ ชนิดเบต้า 1,3/1,6 D-กลูแคน […]
โรคเบาหวานและการเสริมภูมิคุ้มกันเกี่ยวข้องกันอย่างไร?
เชื่อว่าหลายคนเห็นหัวข้อแล้วอาจจะเกิดคำถามว่า ทำไมโรคเบาหวานถึงเกี่ยวข้องกับระบบภูมิคุ้มกัน ดูเหมือนจะห่างไกลกัน แต่ที่จริงแล้วมีความเกี่ยวข้องกันแทบจะแยกไม่ออก เพราะระบบภูมิคุ้มกันของเรามีหน้าที่สำคัญคือป้องกันเราจากสิ่งแปลกปลอมภายนอก หากเรามีภูมิคุ้มกันที่แข็งแรงมากพอ โอกาสที่เราจะเสี่ยงเป็นโรคติดต่อ หรือโรคไม่ติดต่อก็ลดน้อยลงไปด้วยครับ ผู้ป่วยเบาหวานมีโอกาสที่ภูมิคุ้มกันตกได้ง่ายกว่าคนปกติ ปัญหาที่ผู้ป่วยเบาหวานต้องเฝ้าระมัดระวังเป็นพิเศษ คือ การควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้คงที่ นั่นเพราะหากน้ำตาลในเลือดสูงกว่าปกติ ก็อาจจะเสี่ยงที่ภูมิคุ้มกันในร่างกายไม่สามารถทำงานได้อย่างเต็มที่ เพราะน้ำตาลในกระแสเลือดสูงนั่นเอง จึงทำให้ผู้ป่วยโรคเบาหวานที่ไม่สามารถควบคุมน้ำตาลให้คงที่ได้ มีโอกาสที่จะมีโรคแทรกซ้อน ไม่ว่าจะติดเชื้อไวรัส แบคทีเรีย หรือสิ่งแปลกปลอมได้ง่ายกว่าปกติอีกด้วย นี่เลยเป็นเหตุผลที่สำคัญว่าทำไมการกระตุ้นภูมิคุ้มกันในผู้ป่วยที่เป็นโรคเบาหวานถึงมีความจำเป็นอย่างมาก โรคเบาหวานชนิดที่ 1 เกิดจากภูมิคุ้มกันในร่างกายทำลายเซลล์อินซูลินในตับ แม้จะเป็นชนิดเบาหวานที่ไม่ได้พบเจอบ่อยเท่ากับโรคเบาหวานชนิดที่ 2 แต่กลับเป็นชนิดเบาหวานที่ค่อนข้างมีความรุนแรง และมักจะเกิดขึ้นในเด็กและวัยรุ่น ต้องรักษาด้วยการฉีดอินซูลิน และหากขาดอินซูลินอาจจะทำให้เกิดภาวะหมดสติจากน้ำตาล และกรดกีโตนคั่งในเลือดได้ ที่สำคัญหากตรวจรักษาช้าอาจจะเจอภาวะแทรกซ้อนซึ่งทำให้อาการหนักและเรื้อรัง การดูแลผู้ป่วยโรคเบาหวานต้องส่งเสริมให้ระบบภูมิคุ้มกันทำงานได้เต็มที่ การกระตุ้นภูมิคุ้มกันสำหรับดูแลผู้ป่วยโรคเบาหวาน สามารถทำได้หลายวิธี เช่น 1. การรับประทานสารสกัดเบต้ากลูแคน นับเป็นหนึ่งในวิธีที่สะดวก ปลอดภัย และมีประสิทธิภาพในการกระตุ้นภูมิคุ้มกันได้สูง เนื่องจากเบต้ากลูแคนสามารถกระตุ้นเม็ดเลือดขาวที่ทำงานกับระบบภูมิคุ้มกันโดยตรงได้ดี บำรุงให้กลไกการสร้างภูมิคุ้มกันมีประสิทธิภาพ ทั้งยังเต็มไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ มีการศึกษาว่าเบต้ากลูแคนสามารถช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดดีกว่าคนที่ไม่รับประทานด้วย ทั้งยังช่วยควบคุมคอเลสเตอรอล รวมไปถึงยังช่วยลดการอักเสบของเนื้อเยื่อได้ดี ที่สำคัญลดความเสี่ยงในการเป็นโรคมะเร็งได้ด้วยครับ 2. เลือกรับประทานอาหารที่ช่วยเสริมภูมิคุ้มกัน เช่น ผักใบเขียว เนื้อสัตว์ไม่ติดมัน ธัญพืชที่มีประโยชน์ รวมไปถึงผลไม้ที่มีวิตามินซี […]










