จำเป็นไหม? ที่ลูกต้องถ่ายทุกวัน เพื่อความสมดุลของร่างกาย

ถ่ายทุกวัน

ปัญหาการขับถ่ายของลูกเป็นหนึ่งในปัญหาที่พ่อแม่หลายคนหนักใจ เพราะการที่ลูกไม่ถ่ายนั้นหมายถึงปัญหาสุขภาพของเด็ก ๆ ที่น่าเป็นกังวล โดยเฉพาะในเด็กที่ยังสื่อสารได้ไม่ดี หรือยังไม่สามารถบอกความเจ็บปวดของตัวเองได้ ทำให้พ่อแม่ต้องคอยสังเกตและใส่ใจมากยิ่งขึ้น แล้วจริง ๆ จำเป็นไหมที่เด็กต้องถ่ายทุกวัน หรือลูกไม่ถ่ายนานเท่าไหร่ถึงจะเรียกได้ว่าผิดปกติ รวมถึงทำยังไงจะให้ลูกขับถ่ายได้ปกติ วันนี้มีคำแนะนำมาฝากครับ

 

ลูกขับถ่ายแบบไหนถึงเรียกว่าปกติและไม่ปกติ จำเป็นต้องถ่ายทุกวันมั๊ย?

สำหรับเด็กทารกการขับถ่ายในช่วงแรกคลอดจะถี่ประมาณวันละ 3 – 4 ครั้ง แต่พอพ้น 6 เดือนก็จะเริ่มน้อยลงเป็น 1 – 2 ครั้งต่อวัน ส่วนเด็กเล็กจะมีความถี่ห่างออกไปอีก บางคนอาจจะถ่ายวันละครั้งหรือวันเว้นวัน สิ่งที่พ่อแม่ควรสังเกตลูกว่าท้องผูกหรือไม่ คือ ถ่ายน้อย ใช้แรงเบ่งมาก อุจจาระเป็นก้อนแข็ง เริ่มมีปัญหาเรื่องการกิน กินน้อยลง ฯลฯ นั่นเพราะลูกกำลังไม่สบายตัว หรือสังเกตภาวะทางอารมณ์ เช่น หงุดหงิดง่าย งอแงมากกว่าปกติ นอนหลับ นั่นอาจจะเป็นเพราะลูกรู้สึกไม่สบายตัวที่ไม่ได้ถ่ายก็ได้

 

ภาวะท้องผูกหรือถ่ายยากของลูกเกิดจากอะไร?

สาเหตุหลัก ๆ มักมาจากอาหารที่ลูกรับประทานเข้าไปมีเส้นใยอาหารที่น้อย เมื่อย่อยจนหมดแล้วไม่เหลือกากใยที่ทำให้ขับถ่ายได้ อีกทั้งยังถ่ายยากเนื่องจากมวลสารแข็งเกินไป พ่อแม่ต้องใส่ใจเรื่องนี้เป็นพิเศษ หากลูกไม่ชอบรับประทานผัก ก็ควรเน้นให้ทานผลไม้ หรือข้าวที่ไม่ขัดสี เพราะอาหารเหล่านี้มีเส้นใยอาหารสูง ช่วยเรื่องขับถ่ายได้ดี ทั้งยังช่วยลดการติดเชื้อที่ลำไส้ และมีประโยชน์ต่อร่างกายและการเจริญเติบโตของลูกด้วย ที่สำคัญพ่อแม่ไม่ควรตามใจลูกจนเกินไป เพราะเด็ก ๆ มักชอบทานอาหารตามใจปาก โดยเฉพาะอาหารที่น้ำตาลสูงเพราะอาหารเหล่านี้ให้พลังงานอย่างเดียว แต่ไม่ค่อยมีประโยชน์ต่อร่างกายลูกเท่าไหร่ ควรให้ทานแต่พอดีจะดีกว่า

 

ผลเสียที่ลูกขับถ่ายผิดปกติ

นอกจากความผิดปกติของภาวะร่างกายโดยรวม และอารมณ์ของลูกที่แปรปรวนแล้ว ก็หนีไม่พ้นเรื่องภูมิคุ้มกันในร่างกายของลูกก็จะต่ำลง มีโอกาสที่ลูกจะป่วยได้ง่ายกว่าปกติ เพราะการขับถ่ายถือเป็นหนึ่งในกระบวนการที่รักษาสมดุลสำคัญของร่างกายเด็กเลยก็ว่าได้ หากปล่อยให้ลูกท้องผูกบ่อย ๆ ลูกก็อาจจะป่วยง่ายกว่าเด็กคนอื่นเพราะภูมิคุ้มกันไม่แข็งแรงด้วย

 

ป้องกันลูกท้องผูกด้วยอะไรได้บ้าง?

1. ควรให้ลูกรับประทานสารสกัดกาแลกโต โอลิโกแซ็กคาไรด์ หรือ GOS เป็นหนึ่งในสารสกัดที่เต็มไปด้วยจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ต่อลำไส้ ช่วยเรื่องการขับถ่าย ลดการติดเชื้อที่ลำไส้ เข้าไปสร้างเมือกเพื่อให้มวลสารเคลื่อนที่ง่าย ลูกไม่ท้องผูก ขับถ่ายง่ายมากขึ้น อีกทั้งยังช่วยกระตุ้นการสร้างภูมิคุ้มกันในเด็กได้ดีอีกด้วย

2. รับประทานอาหารที่หลากหลาย เด็ก ๆ อาจจะปฏิเสธอาหารที่มีเส้นใยสูงอย่างผักหรือผลไม้ แม่ ๆ ควรหาอาหารที่มีเส้นใยสูงประเภทอื่นแทน เช่น ธัญพืช เช่น นมทางเลือก อย่างนมอัลมอนด์ นมโอ๊ต เป็นต้น หรือให้ทานเป็นสารสกัดที่มีวิตามินซีสูงก็ช่วยได้ เช่น สารสกัดจากเอลเดอร์เบอร์รี สารสกัดจากอะเซโรลา เชอร์รี หรือข้าวบาร์เล่ย์ เป็นต้น

3. ดื่มน้ำให้มากขึ้น ในวัยกำลังเรียนรู้พวกเขามักจะห่วงเล่นจนลืมรับประทานอาหารหรือดื่มน้ำ พ่อแม่ควรเตือนให้ลูกดื่มน้ำบ่อย ๆ เพราะการเล่นมาก ๆ ร่างกายจะสูญเสียน้ำจากเหงื่อออก นั่นอาจจะทำให้ลูกประสบปัญหาท้องผูก ถ่ายยาก ตามมาเพราะร่างกายไม่มีน้ำเพียงพอนั่นเอง

Leave a comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *

TOP