โรคแพนิก (Panic Disorder) เป็นอาการที่เกิดจากการวิตกกังวลและความเครียดสูง ซึ่งมักจะทำให้เกิดอาการหายใจไม่ออก เหงื่อออกมาก กลัวว่าจะเสียชีวิต หรือเกิดอาการช็อกทางร่างกาย อาการเหล่านี้อาจเกิดขึ้นแบบไม่คาดคิด และสามารถกระทบต่อคุณภาพชีวิตได้อย่างมาก อย่างไรก็ตามหากไม่ได้รับการดูแลหรือจัดการอย่างเหมาะสม อาการแพนิกอาจส่งผลเสียต่อร่างกายในระยะยาว โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจในอนาคต อาการแพนิกคืออะไร? อาการแพนิกเกิดขึ้นเมื่อบุคคลประสบกับความวิตกกังวลที่มากเกินไปและรู้สึกถึงอาการกลัวในระดับที่ทำให้เกิดอาการทางร่างกาย เช่น หายใจถี่ ช็อก หรือปวดท้อง มักจะมีอาการเฉียบพลันที่เกิดขึ้นโดยไม่มีสัญญาณเตือนล่วงหน้า ซึ่งทำให้ผู้ที่ประสบปัญหานี้รู้สึกกลัวและเครียดอยู่ตลอดเวลา อาการแพนิกเกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงของสารสื่อประสาทในสมองซึ่งส่งผลทำให้ผู้ป่วยมีอาการสับสน มึนงง และส่งผลต่อร่างกายในด้านอื่น ๆ เช่น ประสบอุบัติเหตุได้ ความสัมพันธ์ระหว่างอาการแพนิกและโรคหัวใจ แม้ว่าอาการแพนิกจะไม่ทำให้เกิดโรคหัวใจโดยตรง แต่การที่บุคคลมีอาการแพนิกเรื้อรังหรือเกิดอาการบ่อยครั้งสามารถเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจในอนาคตได้ การตอบสนองต่อความเครียดที่เกิดจากอาการแพนิกสามารถเพิ่มระดับฮอร์โมนความเครียดในร่างกาย เช่น คอร์ติซอล ซึ่งอาจทำให้หลอดเลือดตีบตันและเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจ นอกจากนี้ยังมีผลต่อการเพิ่มความดันโลหิตและการเกิดอาการผิดปกติในจังหวะการเต้นของหัวใจ ซึ่งสามารถทำให้หัวใจทำงานหนักขึ้นและเป็นสาเหตุที่เพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจ การป้องกันความเสี่ยงจากการเกิดโรคหัวใจ อาการแพนิกสามารถรักษาได้ด้วยการรับประทานยา เพื่อไปปรับสมดุลของสารสื่อประสาทในสมองมีความจำเป็น และใช้เวลาในการรักษาประมาณ 8-12 เดือน โดยขึ้นอยู่กับปัจจัยกระตุ้นให้เกิดโรคของแต่ละบุคคล จากการศึกษาพบว่าประมาณ 1 ใน 3 ของผู้ที่เป็นโรคนี้สามารถหายขาดได้ สิ่งสำคัญกับการรับมือกับโรคนี้ต้องบริหารจัดการความเครียดที่สะสมให้ดี และก็จะช่วยลดปัจจัยความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจในอนาคตได้ด้วย การทานสารสกัดจาก […]
โรคติดต่อที่เกิดจากภูมิคุ้มกันตก หน้าหนาวยิ่งต้องระวัง!
อากาศเย็นชื้นและแห้งสามารถส่งผลกระทบต่อระบบภูมิคุ้มกันของเราได้โดยตรง คนที่มีภูมิคุ้มกันต่ำหรือมีโรคที่เกี่ยวกับภูมิคุ้มกันมักมีจะมีโอกาสติดเชื้อโรคได้ง่ายขึ้น ซึ่งอาจทำให้สุขภาพในช่วงนี้แย่ลงได้ ดังนั้นการเข้าใจและป้องกันโรคติดต่อในช่วงหน้าหนาวจึงเป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันจากสารสกัดจากเบต้ากลูแคน (Beta Glucan) ที่สามารถกระตุ้นการสร้างภูมิคุ้มกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ โรคติดต่อที่พบบ่อยในช่วงหน้าหนาว 1. ไข้หวัดและไข้หวัดใหญ่ ไข้หวัดและไข้หวัดใหญ่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสในระบบทางเดินหายใจ อากาศเย็นทำให้ไวรัสเหล่านี้แพร่กระจายได้ง่ายขึ้น อาการที่พบบ่อยคือ ไอ จาม น้ำมูกไหล และมีไข้ 2. ปอดบวม โรคปอดบวมเป็นการอักเสบของปอดที่เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียหรือไวรัส ผู้ที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ เช่น ผู้สูงอายุหรือผู้ที่มีโรคประจำตัว มีความเสี่ยงสูงที่จะป่วยด้วยโรคนี้ 3. โรคมือ เท้า ปาก โรคนี้พบมากในเด็กเล็ก เกิดจากเชื้อไวรัสกลุ่มเอนเทอโรไวรัส (Enterovirus) ซึ่งสามารถแพร่กระจายผ่านการสัมผัสโดยตรงกับน้ำลายหรือของเล่นที่ปนเปื้อนเชื้อ 4. เชื้อราและการติดเชื้อทางผิวหนัง ความชื้นในอากาศหนาวอาจทำให้เชื้อราเจริญเติบโตได้ดี ส่งผลให้ผู้ที่มีภูมิคุ้มกันต่ำเสี่ยงต่อการติดเชื้อรา เช่น เชื้อราในปากหรือบนผิวหนัง ทำไมภูมิคุ้มกันจึงตกในช่วงหน้าหนาว? 1. อากาศเย็น อุณหภูมิต่ำทำให้หลอดเลือดหดตัวและลดประสิทธิภาพของระบบภูมิคุ้มกันตามไปด้วย 2. ขาดวิตามินดี ในหน้าหนาว แสงแดดน้อยลงอาจทำให้ร่างกายได้รับวิตามินดีไม่เพียงพอ ซึ่งมีผลต่อระบบภูมิคุ้มกันได้เหมือนกัน หรือเพราะอากาศหนาวทำให้หลายคนเลือกที่จะอยู่ในบ้านมากกว่าไปทำกิจกรรมกลางแจ้งก็อาจจะได้รับผลกระทบตรงนี้ได้ 3. การอยู่ในพื้นที่ปิดหรือแออัด เพิ่มความเสี่ยงต่อการแพร่กระจายเชื้อโรคได้มากกว่า เช่น […]