หลายคนอาจจะยังไม่ทราบว่าบทบาทหน้าที่สำคัญของโปรตีนเป็นมากกว่าแค่สร้างและซ่อมแซมกล้ามเนื้อ แต่เป็นหนึ่งในสารอาหารหลักที่มีบทบาทสำคัญในการเสริมสร้างและซ่อมแซมระบบภูมิคุ้มกันด้วย โดยการมีระบบภูมิคุ้มกันที่แข็งแรงเป็นปัจจัยสำคัญในการปกป้องร่างกายจากโรคภัยต่าง ๆ โดยเฉพาะในช่วงที่สภาพอากาศเปลี่ยนแปลงหรือในช่วงที่เชื้อไวรัสระบาดได้ง่าย หากร่างกายได้รับโปรตีนไม่เพียงพออาจส่งผลให้ภูมิคุ้มกันอ่อนแอลงและเสี่ยงต่อการติดเชื้อได้ง่ายขึ้น โปรตีนกับระบบภูมิคุ้มกันสัมพันธ์กันอย่างแยกไม่ได้ โปรตีนเป็นโครงสร้างพื้นฐานของเซลล์และเนื้อเยื่อในร่างกายรวมถึงเซลล์เม็ดเลือดขาว ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญในการต่อสู้กับเชื้อโรค นอกจากนี้โปรตีนยังเป็นองค์ประกอบสำคัญของแอนติบอดี เอนไซม์ และไซโตไคน์ที่ทำหน้าที่ควบคุมการตอบสนองของระบบภูมิคุ้มกัน 1. โปรตีนช่วยสร้างแอนติบอดี แอนติบอดีเป็นโปรตีนชนิดหนึ่งที่ร่างกายสร้างขึ้นเพื่อต่อสู้กับเชื้อโรคและสิ่งแปลกปลอม หากได้รับโปรตีนอย่างเพียงพอ ร่างกายจะสามารถสร้างแอนติบอดีได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยป้องกันและกำจัดเชื้อโรคได้ดียิ่งขึ้น 2. โปรตีนกับการเสริมสร้างเซลล์เม็ดเลือดขาว เซลล์เม็ดเลือดขาวมีบทบาทสำคัญในการตรวจจับและทำลายเชื้อโรค โปรตีนเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้ร่างกายผลิตเซลล์เม็ดเลือดขาวได้อย่างเพียงพอและแข็งแรง หากขาดโปรตีนอาจทำให้จำนวนเซลล์เม็ดเลือดขาวลดลง ส่งผลให้ภูมิคุ้มกันอ่อนแอได้ 3. โปรตีนช่วยลดการอักเสบ กรดอะมิโนที่ได้จากโปรตีนช่วยควบคุมกระบวนการอักเสบในร่างกาย โดยเฉพาะกรดอะมิโนชนิดจำเป็น เช่น อาร์จินีน และกลูตามีนซึ่งมีบทบาทในการฟื้นฟูเซลล์และเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย แหล่งโปรตีนที่ดีต่อภูมิคุ้มกัน เพื่อให้ร่างกายได้รับโปรตีนอย่างเพียงพอ ควรเลือกรับประทานอาหารที่มีโปรตีนคุณภาพสูง ได้แก่ โปรตีนจากพืช เช่น ถั่วลันเตา เมล็ดฟักทอง และข้าวกล้อง เป็นโปรตีนจากพืชที่ให้ปริมาณโปรตีนสูง และผู้ที่มีโอกาสแพ้ถั่วเหลืองสามารถทานได้ นอกจากนี้ควรรับประทานโปรตีนจากสัตว์ที่ไร้ไขมัน เช่น เนื้อปลา ไข่ไก่ อกไก่ เพื่อให้ได้รับสารอาหารจากโปรตีนอย่างหลากหลายตามโภชนาการ ทานโปรตีนเพื่อเสริมภูมิคุ้มกันให้เพียงพอตามน้ำหนักตัว […]
7 สิ่งเกี่ยวกับการกินโปรตีนให้เพียงพอซึ่งหลายคนไม่รู้
เชื่อว่าหลายคนทราบดีว่าโปรตีนเป็นสารอาหารที่สำคัญกับร่างกาย แต่การรับประทานโปรตีนอย่างเพียงพอยังเป็นสิ่งที่หลายคนยังสับสนและสงสัย ว่าควรรับประทานโปรตีนเท่าไหร่ และโปรตีนแบบไหนดีกว่ากัน วันนี้เราชวนไขข้อสงสัยกับ 7 เรื่องที่หลายคนไม่รู้เกี่ยวกับทานโปรตีนให้เพียงพอ สำคัญกับสุขภาพโดยรวมอย่างยิ่ง! 1. ร่างกายของเราไม่ได้ดูดซึมโปรตีนทั้งหมดที่ทานเข้าไป เมื่อเราบริโภคโปรตีนร่างกายจะต้องย่อยสลายให้เป็นกรดอะมิโนก่อนนำไปใช้ แต่ร่างกายมีการดูดซึมโปรตีนในแต่ละครั้งอย่างจำกัด หากได้รับโปรตีนมากเกินไป ส่วนเกินอาจถูกเปลี่ยนเป็นพลังงานหรือถูกขับออกจากร่างกายแทนที่จะถูกนำไปใช้สร้างกล้ามเนื้อแทน 2. โปรตีนจากพืชก็สามารถให้กรดอะมิโนครบถ้วนได้ หลายคนเข้าใจว่าโปรตีนจากสัตว์เป็นแหล่งโปรตีนที่ให้สารอาหารครบถ้วนต่อร่างกาย โดยเฉพาะกรดอะมิโน แต่จริง ๆ แล้วโปรตีนจากพืชก็สามารถให้กรดอะมิโนครบถ้วนได้เช่นกัน ด้วยการบริโภคอาหารจากพืชหลายชนิดร่วมกัน เช่น ถั่วลันเตา เมล็ดฟักทอง หรือข้าวกล้อง 3. ร่างกายสามารถสร้างกลูโคสจากโปรตีนได้ หากร่างกายขาดคาร์โบไฮเดรต ร่างกายสามารถเปลี่ยนโปรตีนเป็นกลูโคสผ่านกระบวนการที่เรียกว่า Gluconeogenesis กระบวนการนี้ช่วยให้ร่างกายมีพลังงานเพียงพอ นั่นจึงเป็นเหตุผลที่หากลดน้ำหนักแล้วเลี่ยงทานคาร์โบไฮเดรตจะได้รับพลังงานจากโปรตีนได้อย่างไรนั่นเอง 4. การทานโปรตีนที่มากเกินไปอาจไม่ได้ช่วยสร้างกล้ามเนื้อเสมอไป การสร้างกล้ามเนื้อไม่ได้ขึ้นอยู่กับปริมาณโปรตีนที่กินเข้าไปเพียงอย่างเดียว แต่ยังขึ้นอยู่กับการออกกำลังกายที่เหมาะสมด้วย หากทานโปรตีนมากเกินไปแต่ไม่ออกกำลังกายให้เหมาะสม โปรตีนส่วนเกินอาจถูกใช้เป็นพลังงานหรือถูกสะสมเป็นไขมันแทน ซึ่งอาจจะทำให้น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น รวมถึงไขมันเพิ่มขึ้น และมีสัดส่วนที่ดูตัวใหญ่หรือดูอ้วนขึ้นได้ 5. โปรตีนไม่ได้มีแค่ในเนื้อสัตว์และถั่ว แม้ว่าแหล่งโปรตีนที่รู้จักกันดีจะเป็นเนื้อสัตว์และถั่ว แต่โปรตีนยังพบได้ในอาหารอื่น ๆ เช่น ผักบางชนิด (บรอกโคลี ผักโขม) ธัญพืชเต็มเมล็ด (ข้าวกล้อง เมล็ดฟักทอง) และผลิตภัณฑ์จากนม […]
โรคหลอดเลือดสมอง เสี่ยงอัมพฤกษ์ อัมพาต อายุน้อยก็เสี่ยงได้
โรคหลอดเลือดสมอง (Stroke) เป็นหนึ่งในโรคที่ส่งผลร้ายแรงต่อสุขภาพและชีวิตประจำวันของผู้ป่วย โดยอาการที่เกิดจากโรคหลอดเลือดสมองสามารถนำไปสู่ภาวะอัมพฤกษ์ อัมพาต หรือสูญเสียการทำงานของสมองในบางส่วนได้ โรคนี้ไม่เพียงแต่เกิดในผู้สูงอายุเท่านั้น แต่ผู้ที่อยู่ในวัยหนุ่มสาวก็สามารถมีความเสี่ยงได้ หากไม่ได้ดูแลสุขภาพหรือมีพฤติกรรมเสี่ยง เช่น การทานอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพ หรือการไม่ออกกำลังกาย สาเหตุและปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดโรคหลอดเลือดสมอง โรคหลอดเลือดสมองเกิดจากการที่หลอดเลือดในสมองตีบตันหรือแตก ส่งผลให้สมองขาดเลือดไปหล่อเลี้ยง ซึ่งทำให้เนื้อสมองเสียหาย และเกิดการหยุดชะงักของการทำงานในส่วนที่ได้รับผลกระทบ ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดโรคหลอดเลือดสมองมีหลายปัจจัย เช่น 1. ความดันโลหิตสูง เป็นปัจจัยเสี่ยงหลักที่ทำให้เกิดโรคหลอดเลือดสมอง เพราะความดันโลหิตสูงจะทำให้หลอดเลือดเกิดการเสื่อมสภาพและเสี่ยงต่อการแตกได้ง่าย หลอดเลือดมีความยืดหยุ่นน้อยเพราะต้องทำงานหนักจากภาวะความดันของร่างกายที่ไม่สมดุล 2. ระดับไขมันในเลือดสูง จากการทานอาหารที่มีไขมันสูงหรือไม่ออกกำลังกายอาจทำให้เกิดการสะสมของไขมันในหลอดเลือด เป็นปัจจัยสำคัญที่เกิดจากพฤติกรรมของผู้ป่วยเองด้วย หลายคนอาจจะไม่รู้ตัวว่าตัวเองมีภาวะไขมันในเลือดสูงเนื่องจากคนที่มีภาวะนี้ไม่จำเป็นต้องเป็นคนอ้วนเสมอไป เพราะไขมันที่กระจายตัวในกระแสเลือดเกิดกับคนที่มีรูปร่างผอมบางก็ได้เช่นกัน 3. การสูบบุหรี่ สารพิษในบุหรี่สามารถทำให้หลอดเลือดแข็งตัวและเสื่อมสภาพได้ เพราะในควันบุหรี่มีสารพิษมากมายหลายชนิด และการสูบเข้าผ่านปอด นอกจากจะเกาะติดปอดแล้วจะปะปนในเลือดทำให้เลือดเป็นพิษ เลือดหนืด ซึ่งส่งผลต่อการไหลเวียนเลือดได้ด้วย 4. การไม่ออกกำลังกาย ส่งผลให้ระบบเลือดไหลเวียนได้ไม่ดี เนื่องจากการขาดการเคลื่อนไหวร่างกายทำให้การไหลเวียนของเลือดในร่างกายช้าลง เพิ่มความเสี่ยงของการเกิดลิ่มเลือด (blood clots) เสี่ยงที่ลิ่มเลือดอุดตันไปเลี้ยงสมอง 5. โรคเบาหวาน เบาหวานส่งผลให้การไหลเวียนเลือดผิดปกติและหลอดเลือดเสียหายได้ง่าย เนื่องจากไขมันที่สะสมในร่างกายไปสร้างความลำบากในการไหลเวียนเลือด เสี่ยงที่หลอดเลือดจะอุดตันจากไขมัน และทำให้เลือดไหลเวียนได้ยากขึ้น โรคหลอดเลือดสมองในอายุน้อย […]