Case Studies

แม้ว่าอาการป่วยบ่อยในเด็กจะเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ง่าย แต่พ่อแม่ไม่ควรมองข้ามและละเลยเป็นอันขาด เพราะหากไม่สังเกตหรือรีบดูแลลูกอาจจะเป็นโรคที่เป็นได้ยาก และรักษาได้ยากก็ได้ อย่างโรคปอดอักเสบ ซึ่งเป็นหนึ่งในโรคอันตรายร้ายแรงที่พบบ่อยในเด็ก นอกจากโรคนี้แล้ว ยังมีโรคอื่น ๆ ที่เป็นยากแต่หายยากในเด็ก วันนี้จะพาพ่อแม่ทุกคนมารู้จักกับโรคเหล่านี้และวิธีดูแลลูกน้อยอย่างถูกวิธี   1. โรคปอดอักเสบ (Pneumonia) โรคปอดอักเสบเป็นการติดเชื้อในปอดที่สามารถเกิดจากเชื้อไวรัส แบคทีเรีย หรือเชื้อรา ส่งผลให้ถุงลมในปอดเกิดการอักเสบและเต็มไปด้วยของเหลวส่งผลให้หายใจลำบาก อาการที่พบบ่อยคือ ไข้สูง ไอหนัก หายใจเร็วหรือหอบเหนื่อย โรคนี้อาจมีความรุนแรงขึ้นในเด็กเล็ก โดยเฉพาะเด็กที่มีภูมิคุ้มกันอ่อนแอหรือมีปัญหาสุขภาพอื่นๆ การรักษา: โรคปอดอักเสบต้องได้รับการรักษาทางการแพทย์อย่างถูกวิธี เช่น การใช้ยาปฏิชีวนะในกรณีที่เกิดจากแบคทีเรีย หรือการใช้ยาต้านไวรัสหากเกิดจากไวรัส การป้องกัน: – การฉีดวัคซีนป้องกันปอดอักเสบ เช่น วัคซีน PCV (Pneumococcal Conjugate Vaccine) – หมั่นล้างมือและรักษาความสะอาดเพื่อลดการติดเชื้อและหลีกเลี่ยงการพาเด็กไปสถานที่แออัดหรือติดเชื้อ   2. โรคไข้สมองอักเสบ (Encephalitis) ไข้สมองอักเสบ เป็นการอักเสบของเนื้อเยื่อสมองซึ่งมักเกิดจากการติดเชื้อไวรัส อาการที่พบบ่อยคือ ไข้สูง อาการสับสน อ่อนแรง ชัก หรือมีปัญหากับการพูดและการเคลื่อนไหว โรคนี้เป็นอันตรายเพราะอาจนำไปสู่ความเสียหายถาวรของสมองหรือการเสียชีวิตหากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที การรักษา: […]

เมื่อเข้าสู่ฤดูฝนพ่อแม่ยิ่งต้องใส่ใจในสุขภาพของลูกมากขึ้น เพราะเด็กจะมีภูมิต้านทานที่น้อยลงกับสภาพอากาศที่แปรปรวนน้อยลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเด็กที่ไปโรงเรียนแล้วหรือเด็กเล็กที่ต้องอยู่ในสถานเลี้ยงเด็ก ต้องระวังเรื่องโรคติดต่อ อย่าง “โรคตาแดง” แม้จะดูไม่อันตรายในสายตาผู้ใหญ่ แต่สำหรับเด็กยิ่งห้ามละเลย!   โรคตาแดงในเด็กน่าเป็นกังวลอย่างไร โรคตาแดง หรือที่เรียกกันทั่วไปว่าเยื่อตาขาวอักเสบ เป็นภาวะที่เยื่อตาขาวเกิดการอักเสบและทำให้ตาดูแดง โดยเกิดจากการติดเชื้อไวรัส แบคทีเรีย หรือสารก่อภูมิแพ้ โรคตาแดงเป็นโรคที่พบได้บ่อยในเด็ก และแม้ว่าอาจดูเหมือนเป็นโรคที่ไม่ร้ายแรง แต่ความจริงแล้วอาจมีผลกระทบต่อสุขภาพและคุณภาพชีวิตของเด็กมากกว่าที่คิด เพราะแม้ว่าโรคตาแดงมักจะหายไปเองใน 1-2 สัปดาห์ แต่ถ้าไม่ได้รับการดูแลที่เหมาะสม อาจเกิดภาวะแทรกซ้อน เช่น การติดเชื้อแบคทีเรียที่รุนแรงขึ้น หรือการแพร่กระจายของการติดเชื้อไปยังส่วนอื่นของร่างกาย นอกจากนี้การตาแดงยังอาจทำให้เด็กเกิดความไม่สบาย ทำให้ไม่สามารถทำกิจกรรมตามปกติได้ เช่น การเรียนหนังสือ หรือการเล่นกับเพื่อน   สาเหตุของโรคตาแดง การติดเชื้อไวรัส เช่น adenovirus เป็นสาเหตุที่พบได้บ่อยที่สุด การติดเชื้อแบคทีเรีย เช่น Staphylococcus aureus, Streptococcus pneumoniae สารก่อภูมิแพ้ เช่น ฝุ่น, เกสรดอกไม้, สารเคมีในน้ำตาเทียมหรือสบู่   โดยไม่สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่า แต่สิ่งแปลกปลอมเหล่านี้มักปนเปื้อนอยู่กับสิ่งสกปรก และเกาะตามข้าวของเครื่องใช้ของเด็ก รวมไปถึงอยู่ในดิน ในหญ้า […]

ตอนลูกป่วยพ่อแม่ก็หนักใจและ แต่เวลาพ่อแม่ป่วยน่าหนักใจกว่า ว่าจะทำอย่างไรให้ลูกปลอดภัยและป้องกันการติดเชื้อจากพ่อแม่ เนื่องจากลูกมักจะอยู่ใกล้ชิดกับพ่อแม่ตลอดเวลา โดยเฉพาะเด็กเล็ก จึงมีโอกาสติดเชื้อจากพ่อแม่ได้ง่ายๆ ดังนั้น การดูแลลูกให้ปลอดภัยในช่วงเวลาที่พ่อแม่ป่วยจึงเป็นเรื่องที่ควรใส่ใจอย่างมาก   การปฏิบัติตัวเมื่อพ่อแม่ป่วย และลดเสี่ยงลูกติดเชื้อไปด้วย ความน่ากังวลเมื่อผู้ใหญ่ติดเชื้อโรคหนึ่ง ความรุนแรงอาจจะเทียบไม่ได้เลยเมื่อเทียบกับเด็กติดเชื้อโรคเดียวกัน นั่นเพราะเด็กมีภูมิคุ้มกันยังเจริญเติบโตไม่เต็มที่ อยู่ในช่วงที่กำลังทำความรู้จักกับเชื้อโรคต่าง ๆ ทำให้เด็กมีภูมิคุ้มกันกับเชื้อโรคได้น้อย ติดเชื้อง่าย และอาจจะเสี่ยงที่จะอาการหนักกว่าวัยผู้ใหญ่ ฉะนั้นเมื่อพ่อแม่ป่วยต้องป้องกันไม่ให้ลูกติดไปด้วย 1. สวมใส่หน้ากากอนามัย การใส่หน้ากากอนามัยเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการป้องกันการแพร่เชื้อที่สุด ทั้งคนป่วยและคนอื่น ๆ ในครอบครัว เป็นไปได้พ่อแม่ควรสวมใส่หน้ากากอนามัยเมื่ออยู่ใกล้ลูกตลอดเวลา หรือตลอดช่วงที่ต้องรักษาอาการป่วย โดยเฉพาะบ้านที่มีลูกอายุน้อยกว่า 2 ปี ที่ไม่สามารถสวมใส่หน้ากากอนามัยได้ เนื่องจากเด็กเล็กระดับนี้ระบบการหายใจยังเจริญเติบโตไม่เต็มที่ 2. รักษาระยะห่าง ต้องลดการมีปฏิสัมพันธ์กับลูกให้น้อยลงเพื่อลดโอกาสในการแพร่เชื้อโรค อาจจะเป็นเรื่องยากสำหรับเด็กที่เริ่มรู้เรื่องโดยเฉพาะในวัย 3-4 ขวบ จะติดการอยู่ใกล้ชิดพ่อแม่อย่างมาก พ่อแม่ควรใช้วิธีการสื่อสารและทำความเข้าใจกับลูก แม้ว่าเด็กวัยนี้จะงอแงเมื่อต้องห่างพ่อแม่ แต่พวกเขาก็สามารถเรียนรู้ที่จะเข้าใจสถานการณ์ต่าง ๆ ได้ดี 3. หมั่นล้างมือ การหมั่นล้างมือเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการลดการแพร่ระบาดของเชื้อโรคได้ดี พ่อแม่ควรล้างมือด้วยสบู่หรือผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะหลังสัมผัสกับของเล่นของลูกหรือหลังจากการใช้ห้องน้ำร่วมกับคนอื่นในบ้าน 4. หลีกเลี่ยงการสัมผัสใกล้ชิด เลี่ยงการหอม กอด หรือสัมผัสใกล้ชิดกับลูก […]