เมื่อพูดถึงปัญหาความดันโลหิต คนส่วนใหญ่มักนึกถึง “ความดันโลหิตสูง” เป็นอันดับแรก เนื่องจากเป็นภาวะที่เพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือด แต่รู้หรือไม่ว่า “ความดันโลหิตต่ำ” ก็เป็นปัญหาสุขภาพที่อันตรายไม่แพ้กัน หากไม่ได้รับการดูแลหรือรักษาอย่างเหมาะสม อาจก่อให้เกิดผลกระทบร้ายแรงต่อระบบไหลเวียนเลือดและอวัยวะสำคัญในร่างกาย ความดันโลหิตต่ำคืออะไร? ความดันโลหิตต่ำ (Hypotension) เกิดขึ้นเมื่อค่าความดันโลหิตในร่างกายต่ำกว่าปกติ โดยค่าปกติของความดันโลหิตควรอยู่ในช่วง 120/80 มิลลิเมตรปรอท แต่ถ้าความดันโลหิตลดลงต่ำกว่า 90/60 มิลลิเมตรปรอท อาจถือว่าเป็นความดันโลหิตต่ำ ในบางคนอาจไม่มีอาการผิดปกติใด ๆ แต่หากความดันต่ำเกินไป อาจทำให้เกิดอาการเวียนศีรษะ หน้ามืด และหมดสติได้ อันตรายจากความดันต่ำ ถึงแม้ว่าความดันโลหิตต่ำอาจดูเหมือนไม่อันตรายเท่ากับความดันโลหิตสูง แต่ความดันโลหิตต่ำสามารถสร้างปัญหาสุขภาพได้มากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเกิดขึ้นอย่างเฉียบพลัน หรือเกิดในระยะเวลานานโดยไม่ได้รับการรักษา – เวียนศีรษะ หน้ามืด และหมดสติ เมื่อความดันโลหิตลดลงต่ำ ร่างกายจะไม่สามารถส่งเลือดไปเลี้ยงสมองได้เพียงพอ ทำให้เกิดอาการเวียนศีรษะ หน้ามืด หรือหมดสติ ซึ่งอาจเกิดอุบัติเหตุได้หากเกิดขึ้นในสถานการณ์ที่ไม่เหมาะสม เช่น ขณะขับรถหรือขึ้นบันได – หัวใจและไตทำงานไม่เต็มประสิทธิภาพ ความดันโลหิตต่ำส่งผลให้การไหลเวียนของเลือดไม่เพียงพอต่อการส่งออกซิเจนและสารอาหารไปยังอวัยวะสำคัญ เช่น หัวใจและไต หากเป็นระยะเวลานาน อวัยวะเหล่านี้อาจทำงานผิดปกติและนำไปสู่ภาวะหัวใจล้มเหลวหรือไตวายได้ – ภาวะช็อกจากการไหลเวียนเลือดไม่เพียงพอ […]
ทำไมคนอายุน้อยก็เสี่ยงเป็นโรคความดันโลหิตสูง
โรคความดันโลหิตสูง (Hypertension) เป็นภาวะที่มีความดันเลือดในหลอดเลือดสูงกว่าปกติ ซึ่งปกติแล้วเรามักจะเห็นผู้ป่วยโรคนี้กับวัยกลางคนหรือผู้สูงอายุ แต่ในปัจจุบันพบว่าคนหนุ่มสาวและวัยรุ่นก็สามารถเสี่ยงเป็นโรคนี้ได้เช่นกัน เรามาดูกันว่าทำไมคนที่อายุยังน้อยถึงมีความเสี่ยงต่อโรคความดันโลหิตสูง รวมถึงวิธีการป้องกันและดูแลสุขภาพที่ควรทำตั้งแต่ตอนนี้ ปัจจัยที่ทำให้คนอายุน้อยเสี่ยงเป็นโรคความดันโลหิตสูงเกิดจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตเป็นปัจจัยหลัก 1. การบริโภคอาหารที่มีโซเดียมสูง การทานอาหารฟาสต์ฟู้ด ขนมขบเคี้ยว และอาหารที่มีรสเค็มจัดเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นโรคความดันโลหิตสูงได้มากขึ้น โดยหากสังเกตอาหารยอดฮิตในปัจจุบันมักเป็นอาหารที่มีความเค็มสูง รสจัด ซึ่งอาหารรสเหล่านี้มักจะทำให้ผู้คนบริโภคมากขึ้นโดยไม่รู้ตัว เพราะอาหารที่มีโซเดียมสูงเปิดการรับรสได้ดี จึงทำให้ผู้บริโภคสัมผัสถึงรสอาหารได้มากขึ้น และรับประทานในปริมาณที่มากขึ้นเช่นกัน 2. การบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนสูง การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จะทำให้ร่างกายผลิตฮอร์โมนแอลโดสเตอโรน (aldosterone) สูงขึ้น ทำให้ร่างกายมีการสะสมน้ำและโซเดียมมากกว่าปกติ หากดื่มเป็นประจำก็จะเกิดโรคความดันโลหิตสูงได้ ส่วนการดื่มคาเฟอีนเป็นประจำจะทำให้หัวใจทำงานหนักขึ้น เนื่องจากคาเฟอีนจะไปกระตุ้นระบบประสาทส่วนกลาง นอกจากจะทำให้ติดแล้ว ยังทำให้ร่างกายตื่นตัว การดื่มคาเฟอีนในปริมาณมากในเวลาใกล้เคียงกัน เพราะอาจทำให้ความดันโลหิตทั้งขณะหัวใจบีบตัวและคลายตัวเพิ่มขึ้นด้วย 3. การไม่ออกกำลังกาย ในคนที่มีความดันโลหิตอยู่ในเกณฑ์ปกติ การออกกำลังกายจะช่วยลดความดันโลหิตให้อยู่ในระดับที่ดีได้ มีการศึกษาว่าการออกกำลังกายแบบแอโรบิค (Aerobic) สามารถช่วยลดความดันโลหิตในค่า Systolic ได้ประมาณ 2-3 mmHG และยังพบว่าถ้าความดันโลหิตลดลงอย่างน้อย 2 mmHG จะส่งผลให้ลดความเสี่ยงต่อการเกิดหลอดเลือดสมองตีบหรือแตกได้ (Stroke ) ได้ถึงร้อยละ 14 และลดความเสี่ยงต่อการที่จะเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจได้ร้อยละ 9 การออกกำลังจึงเป็นหนึ่งปัจจัยที่สำคัญในการรักษา […]
ผู้ป่วยโรคความดัน โรคหัวใจ ยิ่งอากาศร้อน ยิ่งต้องใส่ใจ
ปัจจัยด้านสภาพอากาศในปัจจุบันมีผลต่อการใช้ชีวิตอย่างมากนะครับ โดยเฉพาะอากาศร้อนที่นอกจากจะทำให้เรารู้สึกไม่สบายตัวแล้ว ยังส่งผลกระทบต่อปัญหาสุขภาพของเราได้ โดยเฉพาะผู้ที่มีโรคประจำตัวที่เป็นโรคเรื้อรัง เช่น โรคความดันโลหิตหรือโรคหัวใจ ที่อุณหภูมิยิ่งสูงยิ่งทำให้หัวใจทำงานหนักมากขึ้น ซึ่งเสี่ยงเกิดภาวะแทรกซ้อนและส่งผลอันตรายกับผู้ป่วยได้ เรามาทำความเข้าใจและใส่ใจสุขภาพของผู้ป่วยไปด้วยกันครับ อากาศร้อนเพิ่มความเสี่ยงให้กับผู้ป่วย เมื่ออุณหภูมิสูงขึ้นทำให้หัวใจต้องทำงานหนักขึ้นเพื่อช่วยในการระบายความร้อนของร่างกาย ซึ่งส่งผลให้การไหลเวียนของเลือด และการทำงานของหัวใจมีประสิทธิภาพน้อยลง ที่สำคัญสำหรับผู้ป่วยที่เป็นโรคเกี่ยวกับความดันโลหิตหรือโรคหัวใจที่เสี่ยงกล้ามเนื้อหลอดเลือดหัวใจทำงานได้ไม่เต็มที่ อาจนำไปสู่อาการหัวใจวายได้ในผู้ที่มีปัญหาหัวใจและความดันอยู่แล้วได้ด้วย ผู้ป่วยสองโรคนี้จึงควรหลีกเลี่ยงอากาศร้อนมากกว่าคนทั่วไป อากาศร้อนทำให้ความดันโลหิตเพิ่มขึ้น ยิ่งอากาศร้อนยิ่งเสี่ยงต่อภาวะขาดน้ำ โดยเฉพาะผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัวอย่างความดันโลหิตไม่ว่าจะสูงหรือต่ำ ยิ่งเสี่ยงที่จะเกิดภาวะขาดน้ำ และอาจจะนำไปสู่โรคลดแดดได้ เพราะเหงื่อออกมาก และร่างกายต้องปรับอุณหภูมิให้ปกติเมื่อต้องอยู่ในที่ที่อากาศร้อนจัด ซึ่งผู้ป่วยความดันโลหิตสูงจะมีความผิดปกติของการไหลเวียนเลือดอยู่แล้ว ยิ่งเสี่ยงที่จะเป็นโรคลมแดดได้มากกว่าคนทั่วไป ลดความเสี่ยงให้ผู้ป่วยโรคหัวใจและโรคความดันโลหิตในช่วงหน้าร้อน 1. ดื่มน้ำเพียงพอ ผู้ป่วยความดันและหัวใจควรดื่มน้ำมาก ๆ เพื่อช่วยรักษาอุณหภูมิร่างกายให้คงที่และชดเชยการสูญเสียน้ำจากเหงื่อ 2. หลีกเลี่ยงการไปกลางแจ้งในเวลาที่อากาศร้อนจัด พยายามอยู่ในที่ที่มีอากาศเย็น เช่น ใช้เครื่องปรับอากาศหรือพัดลม และหลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหรือทำกิจกรรมกลางแจ้งในเวลากลางวันที่อากาศร้อน 3. ใส่เสื้อผ้าที่เหมาะสม สวมใส่เสื้อผ้าที่ทำจากผ้าธรรมชาติ เช่น ผ้าฝ้าย ที่หลวมและสบาย เพื่อช่วยให้ระบายอากาศได้ดี 4. เลือกรับประทานอาหารฤทธิ์เย็นที่ช่วยบำรุงหัวใจ เช่น ต้มจืดตำลึง ต้มจืดมะระ ผัดบวบ แตงโม ช่วยให้คลายร้อนและรักษาสมดุลอุณหภูมิของร่างกายได้ดีขึ้น […]










