หากลูกชอบมีอาการเลือดกำเดาไหลบ่อย ๆ พ่อแม่ไม่ควรนิ่งนอนใจ และมองว่าเป็นเรื่องปกติที่อาจจะเกิดขึ้นในเด็กได้ เพราะนี่สามารถเป็นสัญญาณบางอย่างของสุขภาพของลูกก็เป็นได้ วันนี้ชวนพ่อแม่มาดูว่าเลือดกำเดาในเด็กเกิดจากสาเหตุอะไร และต้องดูแลรวมถึงหาแนวทางป้องกันอย่างไรได้บ้าง สาเหตุที่เลือดกำเดาไหล เกิดจากหลอดเลือดขนาดเล็กหรือเส้นเลือดฝอยซึ่งมีอยู่เป็นจำนวนมากภายในบริเวณโพรงจมูกแตก ฉีกขาด จนทำให้มีเลือดไหลออกทางโพรงจมูก อาการไม่ได้ร้ายแรง สามารถทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้นก็สามารถเลือดหยุดไหลได้ ซึ่งอาจมีสาเหตุดังนี้ 1. จมูกแห้งเกินไป เนื่องจากการอยู่ในสภาพอากาศแห้ง หรือการใช้เครื่องปรับอากาศทำให้เยื่อบุจมูกแห้งและแตกง่าย 2. มีการบาดเจ็บภายในจมูก ที่เกิดจากการแคะจมูกหรือการกระแทกที่จมูก 3. การติดเชื้อในจมูก การติดเชื้อไวรัสหรือแบคทีเรียที่ทำให้เยื่อบุจมูกอักเสบ อาจจะทำให้เลือดออกได้ 4. ภูมิแพ้ การแพ้ฝุ่นละออง สารเคมี หรือสารอื่นๆ ที่ทำให้เยื่อบุจมูกอักเสบ ซึ่งหากเลือดกำเดาไหลเป็นอาการที่น่าเป็นกังวลในเด็ก 5. เส้นเลือดที่ผนังจมูกบาง เด็กบางคนมีเส้นเลือดที่ผนังจมูกบางและไวต่อการแตก โดยปกติจะดีขึ้นหากกล้ามเนื้อและหลอดเลือดแข็งแรงขึ้น เลือดกำเดาไหลแบบไหนที่ไม่ปกติ หากลูกเลือดกำเดาไหลบ่อย ให้สังเกตว่ามีเลือดไหลออกมากผิดปกติหรือไม่ เพราะหากเลือดไหลเยอะมากกว่าปกติ หรือหยุดไหลช้ากว่าปกติ อาจเป็นสัญญาณเตือนถึงการมีเลือดออกภายในหรือโรคร้ายแรงที่มีความซับซ้อน สังเกตว่าเลือดกำเดาไหลไม่หยุด ไหลมาก หรือไหลเกินกว่า 5 นาที ได้รับอุบัติเหตุหรือได้รับแรงกระแทกบริเวณศีรษะ ใบหน้า หรือจมูก เลือดกำเดาไหลออกมาเป็นลิ่มเลือด สีตัวซีด ปากซีด […]
“เด็กอ้วน” อันตรายในเด็ก ความน่ารักที่ไม่ดีต่อสุขภาพลูก
ภาพลักษณ์ของเด็กอ้วนมักจะเป็นที่ถูกอกถูกใจ และสร้างความน่าเอ็นดูให้ทั้งพ่อแม่ ญาติ และผู้พบเห็น แต่รู้หรือไม่ว่าพ่อแม่กำลังทำร้ายลูกทางอ้อมอยู่ เพราะความน่ารักของเด็กที่มีรูปร่างมีอันตรายที่แฝงอยู่ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาทางสุขภาพร่างกายหรือจิตใจ ความอ้วนในเด็กถือเป็นปัญหาที่ควรได้รับการดูแลและแก้ไขอย่างจริงจัง มาดูกันว่าอันตรายที่พ่อแม่ยื่นให้เด็กน้อยนั้นมาอะไรบ้าง และทำไมถึงควรแก้ปัญหาอย่างจริงจัง แบบไหนถึงเรียกว่าเด็กอ้วน การเจริญเติบโตของเด็กมีเกณฑ์มาตรฐานในการวัด สำหรับเกณฑ์น้ำหนักปกติตามการเจริญเติบโตที่พ่อแม่สามารถคำนวณได้ หากน้อยกว่าหรือมากกว่าเกณฑ์ให้สังเกตว่าลูกจะมีร่างกายที่อ้วนท้วมขึ้นหรือไม่ 1. สูตรคำนวณน้ำหนักเด็ก อายุ 7-12 ปี น้ำหนัก (กก.) = (อายุ(ปี)คูณ 7)-5 หาร 2 เช่น อายุ 9 ปี น้ำหนัก (กก.) = (9 คูณ 7)-5 หาร 2 = 29 กก. น้ำหนักมาตรฐานในช่วงอายุ 9 ปี ควรอยู่ที่ประมาณ 29 กิโลกรัม 2. สูตรความสูงตามอายุ อายุ2-12ปี ความสูง(ซม.)=(6 คูณ อายุ(ปี))+77 เช่น […]
ลูกติดโรคตาแดงอย่าละเลย อาจจะเสี่ยงติดเชื้อ และอาการหนัก
เมื่อเข้าสู่ฤดูฝนพ่อแม่ยิ่งต้องใส่ใจในสุขภาพของลูกมากขึ้น เพราะเด็กจะมีภูมิต้านทานที่น้อยลงกับสภาพอากาศที่แปรปรวนน้อยลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเด็กที่ไปโรงเรียนแล้วหรือเด็กเล็กที่ต้องอยู่ในสถานเลี้ยงเด็ก ต้องระวังเรื่องโรคติดต่อ อย่าง “โรคตาแดง” แม้จะดูไม่อันตรายในสายตาผู้ใหญ่ แต่สำหรับเด็กยิ่งห้ามละเลย! โรคตาแดงในเด็กน่าเป็นกังวลอย่างไร โรคตาแดง หรือที่เรียกกันทั่วไปว่าเยื่อตาขาวอักเสบ เป็นภาวะที่เยื่อตาขาวเกิดการอักเสบและทำให้ตาดูแดง โดยเกิดจากการติดเชื้อไวรัส แบคทีเรีย หรือสารก่อภูมิแพ้ โรคตาแดงเป็นโรคที่พบได้บ่อยในเด็ก และแม้ว่าอาจดูเหมือนเป็นโรคที่ไม่ร้ายแรง แต่ความจริงแล้วอาจมีผลกระทบต่อสุขภาพและคุณภาพชีวิตของเด็กมากกว่าที่คิด เพราะแม้ว่าโรคตาแดงมักจะหายไปเองใน 1-2 สัปดาห์ แต่ถ้าไม่ได้รับการดูแลที่เหมาะสม อาจเกิดภาวะแทรกซ้อน เช่น การติดเชื้อแบคทีเรียที่รุนแรงขึ้น หรือการแพร่กระจายของการติดเชื้อไปยังส่วนอื่นของร่างกาย นอกจากนี้การตาแดงยังอาจทำให้เด็กเกิดความไม่สบาย ทำให้ไม่สามารถทำกิจกรรมตามปกติได้ เช่น การเรียนหนังสือ หรือการเล่นกับเพื่อน สาเหตุของโรคตาแดง การติดเชื้อไวรัส เช่น adenovirus เป็นสาเหตุที่พบได้บ่อยที่สุด การติดเชื้อแบคทีเรีย เช่น Staphylococcus aureus, Streptococcus pneumoniae สารก่อภูมิแพ้ เช่น ฝุ่น, เกสรดอกไม้, สารเคมีในน้ำตาเทียมหรือสบู่ โดยไม่สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่า แต่สิ่งแปลกปลอมเหล่านี้มักปนเปื้อนอยู่กับสิ่งสกปรก และเกาะตามข้าวของเครื่องใช้ของเด็ก รวมไปถึงอยู่ในดิน ในหญ้า […]