ทุเรียนเป็นผลไม้ที่มีความนิยมอย่างมากในหลายประเทศแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะในประเทศไทยที่ยกให้ทุเรียนเป็นราชาแห่งผลไม้ ด้วยรสชาติที่หวานมันและกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ แต่ในขณะเดียวกันการบริโภคทุเรียนในปริมาณมากก็ส่งผลเสียต่อสุขภาพอาจเสี่ยงต่อการทำให้ภูมิคุ้มกันตกได้ สาเหตุมาจากอะไร และการทานทุเรียนเท่าไหร่ถึงจะอยู่ในปริมาณที่เหมาะสม สาเหตุที่ทุเรียนทำให้ภูมิคุ้มกันตก 1. ปริมาณน้ำตาลสูง: ทุเรียนมีปริมาณน้ำตาลสูง การบริโภคทุเรียนมากเกินไปจะทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งอาจนำไปสู่การอักเสบในร่างกายและมีผลกระทบต่อระบบภูมิคุ้มกัน การที่ระดับน้ำตาลในเลือดสูงยังสามารถส่งผลให้เกิดการสะสมของน้ำตาลในเซลล์เม็ดเลือดขาว ซึ่งทำให้เซลล์เหล่านี้ทำงานได้ไม่เต็มที่และลดประสิทธิภาพในการต่อสู้กับเชื้อโรค 2. ปริมาณพลังงานสูง: ทุเรียนมีปริมาณแคลอรีสูง การบริโภคทุเรียนในปริมาณมากจะเพิ่มพลังงานที่ร่างกายได้รับเกินความต้องการ ซึ่งอาจทำให้น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เสี่ยงที่จะเป็นโรคอ้วน ซึ่งถือเป็นหนึ่งในเป็นปัจจัยที่ทำให้ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอลงและเพิ่มความเสี่ยงในการติดเชื้อและเกิดโรคต่าง ๆ ได้ โดยเฉพาะโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NDCs) อื่น ๆ อีก เช่น โรคความดันโลหิตสูง โรคไขมันในเลือด โรคหัวใจ ฯลฯ 3. การบริโภคในปริมาณมาก: การทานทุเรียนในปริมาณมากอาจทำให้ร่างกายได้รับพลังงานและน้ำตาลสูงเกินไป แค่กินทุเรียนไม่กี่เม็ดก็อาจจะทำให้อิ่มได้ โดยไม่ได้ทานอาหารประเภทอื่น ๆ ทำให้หลายคนเลือกที่จะลดการบริโภคอาหารอื่น ๆ ที่มีสารอาหารสำคัญ เช่น ผักและผลไม้อื่น ๆ ที่มีวิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็นต่อการเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน การขาดสารอาหารเหล่านี้สามารถทำให้ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอลงได้ ทานทุเรียนอย่างไรถึงจะเหมาะสม แม้ว่าทุเรียนจะมีประโยชน์ต่อสุขภาพในบางด้าน เช่น มีวิตามิน C, โพแทสเซียม […]
โควิด-19 ระบาดใหม่ ทบทวนการดูแลสุขภาพภูมิคุ้มกัน
ในช่วงที่ผ่านมา สถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 ยังคงเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง ด้วยการปรากฏของสายพันธุ์ใหม่ที่มีการแพร่กระจายที่รวดเร็วและอาจมีผลกระทบต่อประสิทธิภาพของวัคซีน การดูแลสุขภาพและเสริมสร้างภูมิคุ้มกันจึงเป็นสิ่งสำคัญมากขึ้นกว่าเดิม ชวนมาทบทวนวิธีการดูแลสุขภาพและเสริมสร้างภูมิคุ้มกันเพื่อรับมือกับโควิดสายพันธุ์ใหม่กัน โควิด-19 2567 โควิดล่าสุดที่ระบาดอยู่ในไทยขณะนี้เป็นสายพันธุ์ JN.1 ที่เป็นสายพันธุ์ย่อยของโอมิครอน ซึ่งกลายพันธุ์มาจากสายพันธุ์ย่อยโอมิครอนอย่าง BA.2.86 อีกที ดังนั้นก็ยังไม่ใช่โควิดสายพันธุ์ใหม่อย่างที่กังวลกัน ทั้งนี้ โควิด JN.1 มีความสามารถในการแพร่กระจายเชื้อได้ง่ายและรวดเร็ว เนื่องจากดื้อต่อภูมิคุ้มกันมากกว่าสายพันธุ์อื่น ๆ หลายเท่า อีกทั้งสามารถติดเชื้อซ้ำได้ แต่ความรุนแรงของโรคไม่ได้เพิ่มขึ้นจากสายพันธุ์เดิม อาการเป็นอย่างไร? อาการของโควิดระลอกใหม่นี้อาจจะมีความแตกต่างจากเดิมบ้าง แต่อาการไม่รุนแรงเท่าที่กังวล เดิมจะมีอาการทางเดินหายใจส่วนล่าง หลอดลม และปอด กลายเป็นอาการของทางเดินหายใจส่วนบน คอ จมูก แทนมากกว่า โดยผู้ที่ติดเชื้อในประเทศมีอาการเด่น เช่น เจ็บคอมาก ๆ มีไข้ต่ำ มีน้ำมูก คัดจมูกเล็กน้อย จมูกได้กลิ่น อาการไออาจจะไม่ได้เด่นชัดเหมือนที่ผ่านมา สามารถรับประทานยาตามอาหาร และพักผ่อนให้เพียงพอ ก็จะสามารถหายจากการติดเชื้อได้ภายใน 5-7 วัน ทบทวนการดูแลตัวเองในช่วงโควิดระบาดอีกครั้ง – การสวมหน้ากากอนามัยเสมอ เมื่อต้องอยู่ในสถานที่ที่แออัด […]
โรค SLE ป้องกันได้ ด้วยการดูแลภูมิคุ้มกันตั้งแต่เนิ่น ๆ
โรค SLE หรือ Systemic Lupus Erythematosus เป็นโรคที่เกิดจากระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายทำงานผิดปกติ และโจมตีเซลล์และเนื้อเยื่อของตัวเอง ทำให้เกิดการอักเสบและทำลายอวัยวะต่าง ๆ เช่น ผิวหนัง ข้อ และไต โรคนี้เป็นโรคที่รักษาไม่หายขาด แต่สามารถควบคุมอาการได้ การป้องกันและดูแลระบบภูมิคุ้มกันตั้งแต่เนิ่น ๆ เป็นสิ่งสำคัญในการลดความเสี่ยงและควบคุมอาการของโรค SLE มาทำความรู้จักกับโรค SLE และสารสกัดเบต้ากลูแคนเพื่อการดูแลภูมิคุ้มกันกันครับ โรค SLE คืออะไร? SLE หรือ Systemic Lupus Erythematosus เป็นโรคภูมิคุ้มกันที่เกิดจากระบบภูมิคุ้มกันโจมตีเซลล์และเนื้อเยื่อของตัวเอง ทำให้เกิดการอักเสบและความเสียหายในหลายระบบของร่างกาย อาการของโรคนี้แตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล แต่สามารถแบ่งออกเป็นกลุ่มหลัก ๆ ได้แก่ 1. ผื่นผิวหนัง ผื่นแดงรูปผีเสื้อที่หน้า ผื่นผิวหนังที่เกิดจากการโดนแสงแดด 2. ข้ออักเสบ ปวดข้อและบวม โดยเฉพาะที่ข้อมือ ข้อนิ้ว และข้อเท้า 3. ระบบอวัยวะภายใน การอักเสบของไต ปอด หัวใจ และระบบประสาท โดยอาการของโรคจะแสดงออกแตกต่างกันไป […]