ก่อนจะเลือกทานโปรตีนจากพืชต้องรู้อะไรบ้าง? หลายคนมักจะสงสัยในเรื่องนี้ ทั้งยังมีความกังวลว่าหากเลือกรับประทานโปรตีนจากพืชจะได้รับสารอาหารควรถ้วนหรือไม่ มาดูกันครับว่าสิ่งที่ควรรู้เพื่อให้มั่นใจว่าการบริโภคโปรตีนจากพืชนั้นเหมาะสมและได้รับสารอาหารที่มีประสิทธิภาพ 1. ทำความเข้าใจโปรตีนพืช โปรตีนจากพืชส่วนใหญ่มีกรดอะมิโนที่ไม่ครบถ้วนตามที่ร่างกายต้องการ ซึ่งกรดอะมิโนร่างกายไม่สามารถสร้างได้เอง ต้องได้รับจากการรับประทานอาหารเท่านั้น ดังนั้นการรับประทานโปรตีนจากพืชสามารถทานได้ทุกวัน แต่ควรทานร่วมกับอาหารอื่น ๆ ที่หลากหลาย และครบถ้วนตามโภชนาการ ก็จะได้รับสารอาหารที่เหมาะสม 2. แหล่งโปรตีนจากพืชมีความหลากหลาย สิ่งที่ควรรู้อีกหนึ่งอย่าง คือ โปรตีนจากพืชมีแหล่งที่มีที่ค่อนข้างหลากหลาย และให้โปรตีนให้ปริมาณที่แตกต่างกัน เช่น ถั่วต่าง ๆ, เมล็ดจากพืช, ธัญพืช, โปรตีนจากพืชแปรรูป หรือผักบางชนิดที่โปรตีนสูง อย่างผักใบเขียวต่าง ๆ ซึ่งการที่แหล่งโปรตีนจากพืชหลากหลายทำให้ผู้บริโภคคิดว่าทุกแหล่งที่มาให้ปริมาณและประสิทธิภาพที่ไม่แตกต่างกัน แต่จริง ๆ แล้วมีความแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง โปรตีนจากถั่วลันตา เมล็ดฟักทอง และข้าวกล้อง เป็นแหล่งโปรตีนที่มีคุณภาพ ให้โปรตีนสูง อีกทั้งยังมีการศึกษาว่าโปรตีนจากพืชบางชนิดมีสารก่อภูมิแพ้ทำให้หลายคนทานแล้วแพ้ได้ด้วย ซึ่งโปรตีนจากแหล่งที่มาจากพืชทั้งสามชนิดนี้ไม่มีหรืออาจจะมีในบางคนที่จำนวนน้อยมาก ๆ ทั้งยังมีสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดความเสี่ยงที่จะเป็นโรคมะเร็ง โรคติดต่อเรื้อรังได้อีกด้วย ไม่มีคอเลสเตอรอล สำหรับผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนักก็สามารถทานได้ ที่สำคัญมีส่วนช่วยกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน ช่วยให้ร่างกายแข็งแรง 3. ปริมาณการบริโภคโปรตีน […]
อากาศร้อนกระทบผู้ป่วยหลายโรค เสี่ยงเสียชีวิตเฉียบพลัน
เมื่ออุณหภูมิสูงขึ้นผลกระทบที่ตามมาไม่เพียงแค่ทำให้รู้สึกไม่สบายตัว หลายคนที่มีภูมิคุ้มกันต่ำยังอาจจะส่งผลให้ป่วยง่าย โดยเฉพาะผู้ที่มีโรคประจำตัวจะได้รับผลกระทบมากกว่าคนทั่วไป อย่างผู้ป่วยที่มีโรคเรื้อรัง เช่น โรคหัวใจ โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิต และโรคปอด ซึ่งอาจเสี่ยงต่อการเสียชีวิตเฉียบพลันได้ มาเข้าใจถึงสาเหตุและการป้องกันกันครับ โรคประจำตัวการเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคลมแดด (Heat Stroke) ภาวะลมร้อน หรือ การเกิดโรคลมแดด (Heat Stroke) จะเกิดขึ้นเมื่อร่างกายไม่สามารถควบคุมอุณหภูมิได้เหมาะสม เนื่องจากอากาศภายนอกร่างกายที่สูงจัดจนเกิดไป ซึ่งอาจนำไปสู่อาการรุนแรง เช่น วิงเวียนศีรษะ ชัก และอาจส่งผลให้หัวใจวายจนเสี่ยงที่จะเสียชีวิตได้ ผู้ป่วยโรคเรื้อรังมักมีภูมิคุ้มกันที่ลดลง ทำให้เสี่ยงต่อภาวะลมร้อนมากกว่าคนทั่วไปอีกด้วย ในภาวะนี้ต้องอาศัยการปฐมพยาบาลเบื้องต้นอย่างเหมาะสม และต้องหลีกเลี่ยงสถานที่ที่อากาศร้อนจัดสำหรับผู้ป่วยโรคเรื้อรังโดยเด็ดขาด อากาศร้อนส่งผลกระทบต่อการทำงานของหัวใจ อากาศร้อนเพิ่มภาระให้กับหัวใจ เนื่องจากต้องทำงานหนักขึ้นเพื่อรักษาอุณหภูมิร่างกายให้เหมาะสม สำหรับผู้ป่วยโรคหัวใจ โรคความดันโลหิตสูง สภาพแวดล้อมที่ร้อนจัดอาจทำให้เกิดอาการแทรกซ้อน เช่น หมดสติ ช็อก และหัวใจวายเฉียบพลันได้ โดยเฉพาะผู้ที่เป็นโรคความดันโลหิตสูง มักไม่ค่อยรู้ว่าตัวเองเป็นโรคนี้ เพราะอาการไม่ได้แน่ชัดจึงเสี่ยงที่จะได้รับผลกระทบจากอากาศร้อน หัวใจสูบฉีดเลือดไม่ปกติ และเสี่ยงที่จะช็อกและเป็นอัมพฤกษ์หรืออัมพาตได้ ผู้ป่วยโรคเบาหวานเฝ้าระวังอากาศเป็นพิเศษ ผู้ป่วยเบาหวานต้องระมัดระวังในหน้าร้อนเป็นพิเศษ เนื่องจากความร้อนสามารถทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดผันผวน นอกจากนี้ความร้อนยังส่งผลต่อการทำงานของอินซูลินในร่างกายด้วย ฉะนั้นผู้ป่วยเบาหวานต้องรักษาระดับน้ำตาลในเลือดในสมดุลอยู่เสมอ อากาศร้อนเพิ่มความเสี่ยงต่อภาวะขาดน้ำ […]
ดูแลตัวเองจากภายใน เสริมภูมิคุ้มกันไว้รับหน้าร้อน
ต้องยอมรับว่าสภาพอากาศในปัจจุบันส่งผลต่อการดำเนินชีวิตอย่างมาก การจะหลีกเลี่ยงทำได้ยากเพราะเราไม่สามารถไปปรับเปลี่ยนสภาพอากาศได้ การดูแลสุขภาพและเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกายจึงเป็นสิ่งสำคัญและจำเป็นที่จะละเลยไม่ได้ เพื่อป้องกันโรคที่อาจเกิดขึ้นจากความร้อนและเพื่อรักษาความสมดุลของร่างกายในช่วงที่อากาศร้อนจัด มีวิธีอะไรบ้างมาดูกันครับ 1. ดื่มน้ำให้เพียงพอ การรักษาความสมดุลน้ำในร่างกายถือเป็นกุญแจสำคัญในการดูแลสุขภาพ เพราะร่างกายต้องการน้ำเพื่อช่วยในการควบคุมอุณหภูมิร่างกายและให้ระบบต่าง ๆ ภายในร่างกายให้ทำงานได้อย่างเหมาะสม การดื่มน้ำเปล่าประมาณ 8-10 แก้วต่อวันหรือมากกว่านั้นในวันที่อากาศร้อนมากเป็นสิ่งที่ไม่ควรละเลย ควรระมัดระวังไม่ให้ตัวเองขาดน้ำ หรืออยู่ในสถานที่ที่อากาศร้อนจัดเป็นเวลานาน อุณหภูมิที่สูงจัดอาจจะเสี่ยงเป็นโรคลมแดด หรือผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคหัวใจ โรคความดันโลหิต เสี่ยงที่จะหัวใจวายเฉียบพลันได้ 2. รับประทานอาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง อาหารที่อุดมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น ผักและผลไม้สด ช่วยปกป้องเซลล์จากความเสียหายและเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน เช่น แครอท ผักโขม ผลไม้เช่น ส้ม แอปเปิ้ล และพืชตระกูลเบอร์รี หรือใครที่ต้องการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันอย่างมีประสิทธิภาพสามารถทานสารสกัดจากเบต้ากลูแคนได้ เป็นหนึ่งในสารสกัดที่ได้รับการยอมรับในวงการวิทยาศาสตร์ว่าสามารถเสริมสร้างภูมิคุ้มกันได้อย่างมีประสิทธิภาพเช่นเดียวกัน โดยเฉพาะชนิดเบต้า 1,3/1,6 D-กลูแคนจะเป็นสายพันธุ์ที่มีประสิทธิภาพ ช่วยให้การทำงานและบำรุงเซลล์เม็ดเลือดขาว และเพิ่มจำนวนเม็ดเลือดขาวให้พร้อมทำงานเมื่อมีสิ่งแปลกปลอมเข้ามาในร่างกาย ทั้งยังลดการอักเสบการติดเชื้อได้ดี นอกจากนี้ยังช่วยลดระดับไขมันคอเลสเตอรอลในเลือดลง เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidant) และจากงานวิจัยทั่วโลก เบต้ากลูแคนยังมีส่วนช่วยสำหรับผู้ป่วยโรคมะเร็งอีกด้วย 3. การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ การออกกำลังกายช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดและส่งเสริมการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน อย่างไรก็ตาม […]