Case Studies

การดื่มน้ำดูจะเป็นกิจวัตรประจำวันที่เราทำกันอยู่แล้วใช่มั้ยครับ? แต่หลาย ๆ คนมีปัญหาคือการลืมดื่มน้ำระหว่างวัน ไม่ว่าจะด้วยภารกิจการงานที่ยุ่งมาก ต้องโฟกัสกับการเรียนจนไม่สามารถปลีกตัวไปดื่มน้ำได้ หรือบางคนไม่ชอบดื่มน้ำเปล่า ต้องดื่มน้ำที่มีรสชาติเท่านั้น ซึ่งปัญหาเหล่านี้ทำให้หลายคนดื่มน้ำไม่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย และอาจจะนำไปสู่ปัญหาสุขภาพได้ วันนี้จะมาแนะนำวิธีการดื่มน้ำให้เพียงพอ และยังช่วยรักษาภูมิคุ้มกันในร่างกายได้ด้วย ดื่มน้ำไม่พอจะส่งผลร่างกายอย่างไร? เนื่องจากร่างกายของเราประกอบด้วยน้ำถึง 60% โดยเฉพาะเลือดที่ไหลเวียนไปหล่อเลี้ยงอวัยวะต่าง ๆ ของร่างกาย รวมถึงเป็นองค์ประกอบของเซลล์ของอวัยวะต่าง ๆ อีกด้วย หากร่างกายของเราได้รับน้ำไม่เพียงพอก็อาจจะส่งผลต่อการทำงานของอวัยวะต่าง ๆ โดยเฉพาะสมองและหัวใจ ทั้งยังจะทำให้ผิวแห้ง เหี่ยว ไม่เต่งตึง ผมร่วง เกิดปัญหาโรคผิวหนัง รวมไปถึงการทำงานของกล้ามเนื้อและกระดูก หรือกระทั่งทำให้การทำงานของระบบการขับถ่าย และการย่อยอาหารไม่ได้ประสิทธิภาพเท่าที่ควร สังเกตอย่างไรว่าดื่มน้ำไม่เพียงพอ? วิธีการสังเกตว่าเราดื่มน้ำเพียงพอหรือไม่ ง่าย ๆ เลยครับ คือ ให้ดูสีปัสสาวะหากมีสีเข้ม มีกลิ่นฉุน หรือสีขุ่นมาก นั่นแปลว่าร่างกายของคุณดื่มน้ำไม่เพียงพอ และต้องรีบดื่มน้ำทันที ปริมาณของน้ำที่ควรดื่มให้เพียงพอ ปริมาณที่แนะนำในการดื่มต่อวัน คือ 2 ลิตร ประมาณ 6-8 แก้ว ยังถือว่าเป็นปริมาณที่ไม่ได้มากและน้อยไปต่อความต้องการของร่างกาย แต่หากออกกำลังกาย ร่างกายเจ็บป่วย หรือท้องเสีย […]

สถานการณ์โลกร้อนขึ้นทำให้สภาพอากาศทั่วโลกเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว แน่นอนว่าการกระทำของมนุษย์มีส่วนสำคัญอย่างมากที่เร่งปฏิกิริยานี้ เห็นได้ชัดจากปัญหา “ฝุ่น PM2.5” ซึ่งเกิดการกระบวนการเผาไหม้ที่ไม่สมบูรณ์ของโรงงานอุตสาหกรรม รถยนต์ กระบวนการกำจัดขยะ การเผาที่เพื่อทำการเกษตร ฯลฯ ซึ่งเหล่านี้เป็นปัญหาที่ประสบพบเจอกันหลายประเทศทั่วโลก ส่งผลให้เกิดผลกระทบกับสุขภาพของผู้คน โดยเฉพาะโรคที่เกี่ยวกับทางเดินหายใจ และโรคร้ายอย่างมะเร็งปอด ฝุ่น PM2.5 ส่งผลกระทบโดยตรงต่อร่างกาย เมื่อเราต้องหายใจเอาอากาศที่มีมลพิษหรือฝุ่น PM.25 เข้าไปในร่างกาย ด้วยอนุภาคที่เล็กจนมองไม่เห็นด้วยตาเปล่า ไม่มีสี ไม่มีกลิ่น ทำให้เราไม่รู้ได้เลยว่าในหนึ่ง ๆ วันเราหายใจเอามลพิษเข้าร่างกายไปเท่าไหร่ และด้วยความที่เล็กมาก ๆ ฝุ่นจิ๋วนี้ก็จะเข้าไปจับกับผนังปอด ปะปนเข้าไปในกระแสเลือด ซึ่งส่งผลให้เกิดโรคเกี่ยวกับระบบหายใจ โดยเฉพาะคนเป็นภูมิแพ้หรือโรคโพรงจมูกอักเสบจะได้รับผลกระทบก่อนคนทั่วไป และในระยะยาวอาจจะเสี่ยงเกิดโรคมะเร็งปอดได้อีกด้วย สถิติที่น่าเป็นกังวล คนป่วยเป็นโรคมะเร็งปอดจาก PM2.5 มากขึ้น เมื่อปี 2559 ข้อมูลจาก WHO ได้รายงานว่ามีคนที่เสียชีวิตก่อนวัยอันควรจากการได้รับผลจากพิษทางอากาศและฝุ่นละลอง PM2.5 มากถึง 4.2 ล้านคนต่อปี ซึ่งการเสียชีวิตมีความเกี่ยวโยงกับการสัมผัสมลพิษทางอากาศซึ่งเป็นต้นตอของโรคต่าง ๆ นอกจากนี้ยังมีงานวิจัยจาก ESMO Congress 2022 ในเดือน ก.ย. 2565 […]