ไขข้อสงสัย ทำไมอากาศร้อนแต่ยังเป็นภูมิแพ้อากาศ ในช่วงฤดูร้อน หลายๆ คนที่เป็นภูมิแพ้อาจสังเกตได้ว่าตัวเองมีน้ำมูกลดลงหรือแทบจะไม่มีเลย แต่กลับมีอาการเลือดกำเดาไหลหรือคัดจมูกจากโรคเยื่อบุโพรงจมูกอักเสบ จึงทำให้เกิดข้อสงสัยว่า อากาศร้อนขึ้นแต่ทำไมจึงป่วยอยู่ ความจริงแล้ว ผู้ที่เป็นภูมิแพ้หรือเป็นโรคเยื่อบุโพรงจมูกอักเสบจากภูมิแพ้ เยื่อจมูกจะมีความไวต่อสิ่งกระตุ้นต่างๆ มากกว่าคนทั่วไป โดยไวต่อทั้งอากาศเย็นจัดและอากาศร้อนจัด ไวต่ออากาศที่เปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลัน และไวต่อค่ามลพิษในอากาศร่วมด้วย เมื่อส่องดูด้านในจมูก จึงเห็นเยื่อจมูกบวมและซีด เป็นสาเหตุให้ทางเดินหายใจแคบขึ้น นำไปสู่อาการหายใจลำบาก คัดจมูกนั่นเอง และหลอดเลือดในเยื่อจมูกได้รับผลกระทบร่วมด้วย จึงทำให้เกิดอาการเลือดกำเดาไหลได้บ่อยในผู้ที่เป็นภูมิแพ้ครับ นอกจากอาการทางเดินหายใจแล้ว อาจมีผื่นคันตามผิวหนังมากขึ้นในฤดูร้อน ซึ่งมักเกิดขึ้นจากการระคายเคืองจากเหงื่อ มักเกิดตามคอ หลัง และข้อพับต่างๆ เราสามารถลดการระคายเคืองด้วยการอาบน้ำบ่อยๆ และใช้ผ้านุ่มชุบน้ำซับเหงื่อตามจุดระคายเคืองเบาๆ วิธีป้องกันอาการภูมิแพ้ทางเดินหายใจในช่วงอากาศร้อนก็คือ การควบคุมอุณหภูมิให้คงที่เท่าที่ทำได้ เปิดเครื่องปรับอากาศ 25-27 องศา และควรปรับอุณหภูมิร่างกายเตรียมพร้อมก่อนออกไปด้านนอกที่ร้อนจัด หลีกเลี่ยงการเปิดเครื่องปรับอากาศหรือพัดลมเป่าโดนตัวและเท้า หากมีค่ามลพิษในอากาศสูง สามารถใช้เครื่องฟอกอากาศช่วยได้อีกทางนึงครับ นอกจากนี้ สิ่งสำคัญในการลดการกำเริบของภูมิแพ้ คือ เน้นการออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอเป็นประจำทุกวัน อย่างน้อย 45 นาทีต่อวัน พักผ่อนอย่างน้อยวันละ 8 […]