เมื่อฤดูหนาวมาเยือนอากาศที่เย็นลงอาจทำให้ร่างกายของเด็ก ๆ เสี่ยงต่อการติดเชื้อและเจ็บป่วยได้ง่ายขึ้น โรคที่มักเกิดในช่วงนี้ เช่น ไข้หวัดใหญ่ ไข้หวัดธรรมดา หรือโรคทางเดินหายใจต่าง ๆ อาจทำให้เด็กป่วยบ่อยขึ้น ดังนั้น การดูแลลูกให้มีภูมิคุ้มกันที่แข็งแรงในช่วงหน้าหนาวเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยลดความเสี่ยงในการเจ็บป่วยให้ลูกได้ 1. การเสริมอาหารที่บำรุงภูมิคุ้มกัน อาหารที่ดีต่อร่างกายจะช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้ลูกแข็งแรง ป้องกันโรคต่าง ๆ ได้ดีขึ้น อาหารที่อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุต่าง ๆ มีความสำคัญในการช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย วิตามินซี: เป็นวิตามินที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของภูมิคุ้มกัน และป้องกันการติดเชื้อ เช่น ผลไม้ที่มีวิตามินซีสูง เช่น ส้ม ฝรั่ง หรืออะเซโรลา เชอร์รี วิตามินดี: ช่วยเพิ่มการตอบสนองของระบบภูมิคุ้มกันและลดการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ การให้ลูกทานอาหารที่มีวิตามินดี เช่น ปลาแซลมอน หรือการได้รับแสงแดดอ่อน ๆ ก็เป็นวิธีเสริมสร้างวิตามินดีให้กับร่างกาย โพรไบโอติกส์: การทานโยเกิร์ตหรืออาหารที่มีโพรไบโอติกส์ช่วยส่งเสริมการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันในลำไส้ ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการป้องกันโรค สารสกัดจากเบต้ากลูแคน: การให้ลูกทานสารสกัดจากเบต้ากลูแคน ช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันให้แข็งแรงขึ้น ช่วยปกป้องลูกจากสิ่งแปลกปลอมต่าง ๆ ทั้งไวรัส แบคทีเรีย ปรสิต ที่สามารถทำให้ร่างกายลูกป่วยได้ โดยจะเข้าไปดักจับ ทำลาย และให้ได้ร่างกายเรียนรู้กระบวนการสร้างภูมิคุ้มกันได้มากขึ้น การสร้างภูมิคุ้มกันให้แข็งแรงกับลูกเป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้ลูกป่วยยากขึ้นไม่ว่าจะฤดูไหน […]
เสริมด้วยอะไร ถึงช่วยป้องกันโรคหัวใจให้ลูกตั้งแต่เด็ก
โรคหัวใจไม่ใช่โรคที่เกิดขึ้นในผู้สูงอายุเท่านั้น แต่มีแนวโน้มที่จะเริ่มต้นตั้งแต่อายุยังน้อย โดยมีปัจจัยหลายประการที่สามารถส่งผลกระทบต่อสุขภาพหัวใจในอนาคต เช่น พฤติกรรมการกินอาหาร การออกกำลังกาย และการดูแลสุขภาพโดยรวม ดังนั้น การเสริมสร้างสุขภาพหัวใจให้ลูกตั้งแต่เด็กจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม เพราะการเริ่มต้นดูแลที่ดีในวัยเด็กสามารถลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจในอนาคตได้ 1. โภชนาการที่สมดุลและดีต่อสุขภาพหัวใจ อาหารที่ลูกทานมีผลโดยตรงต่อสุขภาพหัวใจในอนาคต ดังนั้นการส่งเสริมให้ลูกทานอาหารที่อุดมไปด้วยสารอาหารที่ดีและจำเป็นต่อการดูแลหัวใจเป็นสิ่งที่พ่อแม่ควรใส่ใจ เช่น – ไขมันดี อย่างโอเมก้า 3 เป็นกรดไขมันที่ช่วยลดการอักเสบในร่างกายและลดระดับคอเลสเตอรอลที่ไม่ดีในเลือด ซึ่งมีความสำคัญในการป้องกันโรคหัวใจ ควรส่งเสริมให้ลูกทานปลาทะเลน้ำลึก เช่น ปลาแซลมอน ปลาทูน่า หรือสารสกัดที่มีโอเมก้า 3 เป็นส่วนประกอบ – ผักและผลไม้ อุดมไปด้วยไฟเบอร์ วิตามิน และสารต้านอนุมูลอิสระ ที่ช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ ควรให้ลูกทานผักและผลไม้หลากหลายประเภททุกวัน โดยเฉพาะผักใบเขียว เช่น ผักโขม และผลไม้ที่มีวิตามินซีสูง เช่น ส้ม หรืออะเซโรลา เชอร์รี – ธัญพืชไม่ขัดสี เช่น ข้าวกล้อง ข้าวโอ๊ต ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลและปรับสมดุลการทำงานของระบบหัวใจหรือโปรตีนจากพืช เช่น ถั่วเมล็ดแห้ง ถั่วเหลือง และเต้าหู้ เป็นแหล่งโปรตีนที่ดี และช่วยลดการทำงานของลำไส้และควบคุมไขมันในเด็กอย่างเหมาะสม […]
เด็กก็เครียดเป็น พ่อแม่เป็นเซฟโซนให้ลูกได้อย่างไร?
ในโลกที่เต็มไปด้วยความกดดันและการแข่งขัน เด็กก็ได้รับผลกระทบจากความเครียดที่เกิดขึ้นรอบตัวได้เหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็นความเครียดจากการเรียน การเปรียบเทียบตัวเองกับผู้อื่น หรือแม้กระทั่งความกังวลในเรื่องอนาคต ความเครียดในเด็กอาจส่งผลกระทบต่อทั้งร่างกายและจิตใจ หากไม่ได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม พ่อแม่จึงมีบทบาทสำคัญในการช่วยให้ลูก ๆ สามารถจัดการกับความเครียดและสร้างพื้นที่ปลอดภัยสำหรับลูกได้ครับ มาดูกันครับว่าจะมีวิธีไหนบ้าง ทำไมเด็กถึงเครียด? แม้ว่าเด็กจะยังไม่ได้รับภาระหรือปัญหาทางการเงินเหมือนผู้ใหญ่ แต่การเครียดของเด็กนั้นเกิดจากหลายปัจจัยที่อาจส่งผลต่อจิตใจของเขาได้ เช่น 1. การเรียน การทำการบ้าน การสอบ การทดสอบกิจกรรม อาจทำให้เด็กมีความกดดันมากขึ้น โดยเฉพาะเมื่อเด็กต้องการทำให้พ่อแม่หรือครูพึงพอใจ 2. ความคาดหวังจากพ่อแม่ บางครั้งความคาดหวังจากพ่อแม่ในการประสบความสำเร็จในด้านต่าง ๆ ที่พ่อแม่อาจจะทำให้เกิดขึ้นโดยไม่รู้ตัว อาจทำให้เด็กเกิดความรู้สึกเครียดและไม่สามารถพัฒนาตัวเองได้เต็มที่ 3. สภาพแวดล้อมทางสังคม การเปรียบเทียบตัวเองกับเพื่อนหรือการถูกกลั่นแกล้งในโรงเรียนสามารถทำให้เด็กเกิดความเครียดและความวิตกกังวลได้ 4. การเปลี่ยนแปลงในชีวิต เช่น การย้ายโรงเรียน การแยกจากเพื่อน หรือการเปลี่ยนแปลงทางครอบครัว พ่อแม่สามารถเป็นพื้นที่ปลอดภัยให้ลูกได้อย่างไร การสร้างพื้นที่ปลอดภัยหรือ “เซฟโซน” ให้กับลูกคือการช่วยลูกให้รู้สึกได้รับความรักและการสนับสนุนจากครอบครัวอย่างเต็มที่ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยลดความเครียดและทำให้ลูกสามารถเผชิญกับสถานการณ์ที่ท้าทายได้ แม้ไม่มีพ่อแม่คอยช่วยเหลือก็ตาม 1. การรับฟังลูกอย่างตั้งใจและเต็มใจ การรับฟังลูกอย่างเต็มที่โดยไม่ตัดสินหรือวิจารณ์ทันที เป็นหนึ่งในวิธีที่ดีที่สุดในการช่วยให้ลูกคลายความเครียด ลูกจะรู้สึกว่าเขาสามารถพูดออกมาได้อย่างอิสระและไม่ถูกกดดัน พ่อแม่ควรเปิดใจรับฟังทุกเรื่องราวที่ลูกอยากเล่า ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กหรือใหญ่ พ่อแม่อย่าใจร้อนให้เวลาลูกพูด หากลูกต้องการความช่วยเหลือหลังจากนั้น ค่อย […]