การเสริมสร้างภูมิคุ้มกันเป็นสิ่งจำเป็นอย่างมากในยุคนี้ ไม่ใช่แค่ป้องกันโรคติดต่อ โดยเฉพาะโรคโควิด-19 ที่ทำให้คนหันมาสนใจการส่งเสริมการภูมิคุ้มกันร่างกายมากยิ่งขึ้น จึงทำให้เบต้ากลูแคนเป็นหนึ่งในสารสกัดสายสุขภาพนิยมสูงมากยิ่งขึ้น แต่อีกหนึ่งผลพลอยได้ที่สำคัญคือเบต้ากลูแคนสามารถป้องกันโรคไม่ติดต่อได้ด้วย มาดูวิธีการทำงานกันครับ เบต้ากลูแคนเสริมภูมิป้องกันโรคติดต่อ โรคติดต่อมักจะเกิดจากเชื้อโรคที่เป็นปัจจัยภายนอกที่เราไม่สามารถควบคุมได้ อย่างการแพร่ระบาดของโคโรนาไวรัส ที่เป็นโรคเกี่ยวกับทางเดินหายใจ ซึ่งภูมิคุ้มกันในร่างกายมีส่วนสำคัญอย่างมากในการป้องกันเราจากการติดเชื้อด้วยครับ ซึ่งเบต้ากลูแคนนับเป็นสารอาหารที่สามารถกระตุ้นการสร้างภูมิคุ้มกันได้ดีจนเป็นที่ยอมรับของวงการวิทยาศาสตร์ในปัจจุบัน ซึ่งเมื่อร่างกายมีภูมิคุ้มกันเพิ่มมากขึ้นก็จะมีประสิทธิภาพในการปกป้องร่างกายจากสิ่งแปลกปลอม ด้วยการค้นหา ดักจับ และกำจัดสิ่งแปลกปลอมที่เข้าสู่ร่างกายของเราก่อนที่จะทำให้ป่วย เบต้ากลูแคนป้องกันโรคไม่ติดต่อ (NCDs) อีกหนึ่งจุดเด่นของสารสกัดเบต้ากลูแคนคือการมีสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพสูง สามารถลดความเสี่ยงโรคไม่ติดต่อ อาทิ โรคมะเร็ง เพราะสามารถเข้าไปช่วยให้เซลล์ต่าง ๆ ทำงานได้อย่างดี ลดความผิดพลาดของการแบ่งตัวเซลล์ที่ผิดปกติ และภูมิคุ้มกันก็จะเข้าไปทำลายเซลล์ที่ผิดปกตินั้นก่อนที่จะกลายพันธุ์ไปเป็นเซลล์ร้าย หรือ โรคเบาหวานและโรคคอเลสเตอรอลสูงได้ มีการศึกษาว่าเบต้ากลูแคนสามารถช่วยควบคุมน้ำตาลในเลือดได้ ซึ่งนี่เป็นหนึ่งในสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ในกลุ่มคนทั่วไป ทั้งยังช่วยควบคุมคอเลสเตอรอล และความเสี่ยงที่จะเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจและหลอดเลือดสมองด้วย การรับประทานสารสกัดจากเบต้ากลูแคนเป็นประจำมีโอกาสที่จะลดความเสี่ยงที่จะเป็นโรคอ้วน เบาหวาน ลงได้ ควบคู่ไปกับการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม การทำงานของเบต้ากลูแคนทำงานกับระบบภูมิคุ้มกันโดยตรง – กระตุ้นเซลล์ภูมิคุ้มกันเม็ดเลือดขาวขนาดใหญ่ – กระตุ้นเซลล์ภูมิคุ้มกันเม็ดเลือดขาว นิวโตรฟิล – กระตุ้นเซลล์ภูมิคุ้มกัน เอ็น เค เซลล์ (Natural […]
ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับฝีดาษลิง ป้องกันได้แค่มีภูมิคุ้มกันแข็งแรง
หลังจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ก็อาจจะทำให้หลายคนเป็นกังวลกับโรคติดต่อเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะโรคฝีดาษลิง หรือ Monkeypox Virus (MPXV) ซึ่งเริ่มมีรายงานผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้นในปีที่ผ่านมา วันนี้ชวนมาทำความรู้จักกับโรคนี้ เพื่อลดความเข้าใจผิด รวมไปถึงวิธีป้องกันอย่างถูกต้องกันดีกว่าครับ โรคฝีดาษลิงคืออะไร ความน่าเป็นกังวลคืออะไรบ้าง? โรคนี้เกิดจากการติดเชื้อไวรัสชนิดหนึ่งในลิงซึ่งถูกพบในปี ค.ศ.1958 ครั้งนั้นนักวิทยาศาสตร์พบว่ามีการระบาดเกิดขึ้นในลิงที่ใช้เป็นสัตว์ทดลอง โดยผู้ป่วยรายแรกค้นพบเมื่อ ค.ศ.1970 เป็นเด็กผู้ชายอายุ 9 ขวบ จากประเทศคองโก ซึ่งทำให้โรคนี้แพร่ระบาดในแถมแอฟริกา จนแพร่กระจายมาในโซนยุโรปและอเมริกา รวมถึงเอเชียด้วย แต่ไวรัสของโรคนี้นับว่ามีการกลายพันธุ์น้อยมาก ถ้าเทียบกับโคโรนาไวรัส จึงทำให้การแพร่ระบาดเป็นไปได้ช้าและไม่กระจายเป็นวงกว้างอย่างที่หลายคนกังวลว่าจะซ้ำรอยกับโควิด-19 โรคฝีดาษลิงติดต่อกันง่ายหรือไม่? โดยปกติแล้วโรคนี้จะเกิดจากการสัมผัสที่ใกล้ชิดมาก ๆ เช่น การมีเพศสัมพันธ์ การอยู่ใกล้ชิดและมีกิจกรรมร่วมกัน ภายในพื้นที่อาศัยที่คับแคบ อย่างห้องเช่า อพาร์ตเมนต์ หรือคอนโด เพราะมีการสัมผัสกัน การใช้อุปกรณ์ต่าง ๆ ร่วมกัน รวมไปถึงเสื้อผ้าและที่นอนด้วย แต่โอกาสที่จะติดต่อผ่านการหายใจยังน้อยมาก และตัวเชื้อไม่ได้แพร่ได้ไกล โรคฝีดาษลิงใช้เวลาฟักตัวนานเท่าไหร่ และจะรู้ได้อย่างไรว่าติดเชื้อนี้? โรคฝีดาษลิงใช้เวลาในการฟักเชื้อประมาณ 5 – 21 วัน […]
อาหารที่ช่วยขับถ่าย เพิ่มภูมิคุ้มกัน เสริมความสมดุลสุขภาพ
หลายคนเข้าใจว่าอาหารที่ช่วยขับถ่ายต้องเป็นผักหรือผลไม้เท่านั้น แต่จริง ๆ แล้ว อาหารที่ช่วยเรื่องขับถ่ายไม่จำเป็นต้องมีไฟเบอร์สูงเสมอไป เพราะสิ่งหนึ่งที่สำคัญสำหรับการขับถ่ายคือการสร้างสมดุลของจุลินทรีย์ในร่างกาย ได้แก่ พรีและโพรไบโอติกส์ ซึ่งนับว่าเป็นเรื่องสำคัญที่หลาย ๆ คนละเลย และส่งผลให้การขับถ่ายไม่เป็นปกติ และอาจจะสร้างปัญหาด้านสุขภาพตามมาได้ มาแนะนำอาหารที่ช่วยเรื่องการขับถ่ายให้ดีขึ้นเพื่อส่งเสริมความสมดุลสุขภาพกันครับ 1. ข้าวซ้อมมือ / ข้าวไม่ขัดสี ในอาหารในหมวดคาร์โบไฮเดรต เช่น ข้าว แป้ง ขนมปังโฮลวีต เต็มไปด้วยใยอาหารชนิดละลายน้ำได้ และไม่ละลายน้ำ ซึ่งทั้งสองชนิดช่วยในการขับถ่าย ทำให้มวลสารในลำไส้ใหญ่เมื่อย่อยแล้วเคลื่อนตัวได้ดี เพราะมีเมือกที่เป็นตัวช่วย ซึ่งใครที่กำลังคิดว่าแป้งไม่ช่วยเรื่องการย่อยอาหารอาจจะต้องคิดใหม่ เพราะแป้งที่ไม่ขัดสีสามารถช่วยการขับถ่ายได้ดีทีเดียวครับ 2. ธัญพืชชนิดต่าง ๆ ธัญพืช ถั่วชนิดต่าง ๆ หรือเม็ดผลไม้ที่มาจากเปลือกแข็ง เป็นแหล่งรวมของใยอาหารชั้นดี ทั้งยังมีวิตามินและแร่ธาตุสูง กระตุ้นให้เกิดการสร้างภูมิคุ้มกันในร่างกาย หรือใครจะเลือกเป็นนมทางเลือก อย่างนมอัลมอนด์ นมโอ๊ต หรือนมพิสตาชิโอก็ได้เหมือนกัน 3. โยเกิร์ต / นมเปรี้ยว กระบวนการทำโยเกิร์ตและนมเปรี้ยวเกิดจากการหมักนมขาดมันเนย ซึ่งทำให้มีจุลินทรีย์และแบคทีเรียที่จำเป็นต่อการย่อยและลำไส้ใหญ่ ลดอาการท้องผูก และช่วยให้การขับถ่ายเป็นไปได้ปกติมากขึ้น […]