ในสภาพอากาศที่ร้อนขึ้นทุก ๆ ปี ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าการดื่มเครื่องดื่มหรือของหวานเย็น ๆ เพื่อคลายร้อน ทำให้รู้สึกสดชื่นขึ้น นั่นเพราะร่างกายสูญเสียน้ำอาจจะจากเหงื่อออก ทำให้ร่างกายต้องการพลังงานมากขึ้น น้ำหวานหรือขนมหวานจึงตอบโจทย์ในช่วงหน้าร้อนได้ดี แต่การทานน้ำตาลมากเกินไปอาจนำไปสู่ผลกระทบร้ายแรงต่อสุขภาพได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการทำให้ภูมิคุ้มกันตกและเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคเรื้อรังในอนาคตได้ด้วย ทำไมการทานหวานถึงเสี่ยงภูมิคุ้มกันตก? น้ำตาลส่งผลต่อระบบภูมิคุ้มกันโดยตรง การบริโภคน้ำตาลมากเกินไปสามารถยับยั้งการทำงานของเซลล์เม็ดเลือดขาวซึ่งมีบทบาทในการต่อสู้กับเชื้อโรค นั่นหมายความว่าการทานอาหารหวานเป็นประจำอาจทำให้คุณเสี่ยงต่อการติดเชื้อง่ายขึ้นในระยะยาว หรือกระทั่งเสี่ยงที่จะเป็นโรคอ้วนหรือโรคเบาหวาน ซึ่งเป็นประตูสู่โรคไม่ติดต่อเรื้อรังอีกมากมายได้ด้วย น้ำตาลคือสาเหตุหลักของการเป็นโรคติดต่อเรื้อรัง การบริโภคน้ำตาลสูงเกี่ยวข้องกับโรคเรื้อรังหลายชนิด อย่าง โรคหัวใจ โรคเบาหวานชนิดที่ 2 และโรคอ้วน การทานน้ำตาลมากเกินไปสามารถเพิ่มระดับไตรกลีเซอไรด์ในเลือด ซึ่งเป็นตัวบ่งชี้ความเสี่ยงต่อโรคหัวใจ โรคความดันโลหิตสูง และโรคหลอดเลือดตีบตันได้ด้วย เนื่องจากน้ำตาลที่รับประทานเข้าไปหากร่างกายนำไปใช้ไม่หมดจะเปลี่ยนไปเป็นไขมันในเลือด ซึ่งไขมันเหล่านี้จะไม่มีสลายไปง่าย ๆ จะไปเกาะตามผนังหลอดเลือด ทำให้เส้นเลือดอุดตันและเสี่ยงที่จะหัวใจวายเฉียบพลันได้ด้วย น้ำตาลยังเสี่ยงทำให้เกิดการติดเชื้ออักเสบได้ง่าย น้ำตาลเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดการอักเสบในร่างกาย และการติดเชื้อได้ง่ายกว่าปกติ เพราะภูมิคุ้มกันไม่สามารถทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ อาจจะส่งผลให้ป่วยได้ง่าย เป็นแผลก็หายช้า เกิดภาวะการอักเสบตามร่างกายได้ง่าย โดยเฉพาะผู้สูงอายุที่อาจจะทำให้เกิดโรคข้ออักเสบได้อีกด้วย หน้าร้อนกับการทานในปริมาณน้ำตาลที่แนะนำ องค์การอนามัยโลกแนะนำว่าปริมาณน้ำตาลที่ควรบริโภคต่อวันไม่ควรเกิน 10% ของพลังงานรวม สำหรับผู้ใหญ่ที่บริโภคพลังงาน 2,000 กิโลแคลอรีต่อวัน ควรบริโภคน้ำตาลไม่เกิน 24 […]