หลายคนอาจจะมองว่าโปรตีนจากพืชเป็นเทรนด์การรับประทานอาหารสำหรับคนที่รักสุขภาพเท่านั้น แต่จริง ๆ แล้วโปรตีนจากพืชเป็นสารอาหารที่สามารถทดแทนโปรตีนจากสัตว์ได้ หากใครที่กำลังรู้สึกว่าการรับประทานโปรตีนจากสัตว์ส่งผลกระทบต่อสุขภาพ และกลัวร่างกายได้รับโปรตีนไม่เพียงพอ ไม่เพียงเท่านี้โปรตีนยังเป็นสิ่งจำเป็นไม่ว่าวัยไหนก็ต้องการโปรตีนอย่างเพียงพอ ทำไมโปรตีนถึงสำคัญต่อร่างกาย โปรตีนเป็นสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกายอย่างมาก เพราะทำหน้าที่ช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของร่างกายในทุกวัน เพราะเราใช้งานร่างกายของเราทุกวันเซลล์ก็จะลดลง โดยเฉพาะกล้ามเนื้อซึ่งมีส่วนสำคัญอย่างมากต่อร่างกาย อย่างเด็กที่กำลังพัฒนาส่วนต่าง ๆ ต้องการโปรตีนเพื่อการเจริญเติบโตของร่างกาย ผู้สูงอายุต้องการโปรตีนเพื่อพยุงกล้ามเนื้อจากที่อายุมากและกล้ามเนื้อเริ่มลดลงและสลายไป ส่วนวัยเรียนและวัยทำงานต้องการโปรตีนเพื่อให้พลังงานและความแข็งแรงของร่างกาย ที่สำคัญโปรตีนยังจำเป็นต่อผู้ที่ป่วยหรือกำลังรักษาโรค เพราะโปรตีนจะเข้าไปช่วยซ่อมแซมร่างกายตอนป่วยได้ดี มีผลต่อการรักษาไปในทางที่ดีขึ้น รวมไปถึงลดเสี่ยงที่จะเกิดภาวะแทรกซ้อนจากที่คนป่วยขาดสารอาหารด้วย ข้อดีของโปรตีนจากพืชที่เหมาะกับทุกวัย 1. โปรตีนจากพืชมีพลังงานและประสิทธิภาพใกล้เคียงกับโปรตีนจากสัตว์ ใครที่กลัวว่าทานโปรตีนจากพืชแล้วจะได้รับสารอาหารไม่เท่าโปรตีนจากสัตว์ จริง ๆ แล้วสารอาหารจะใกล้เคียงกัน แต่ถึงอย่างไรร่างกายก็ควรได้รับโปรตีนจากสัตว์เนื่องจากกรดอะมิโนบ้างชนิดที่แตกต่างกันครับ 2. โปรตีนจากพืชมีใยอาหาร ข้อดีอีกอย่างของโปรตีนจากพืชคือมีใยอาหาร ซึ่งช่วยเรื่องการขับถ่ายได้ดี ลดการอักเสบของลำไส้ ที่สำคัญการที่ร่างกายขับถ่ายได้ดีก็จะกระตุ้นการสร้างภูมิคุ้มกันได้ดียิ่งขึ้น โดยเฉพาะสำหรับเด็ก ๆ และผู้สูงอายุ ที่ควรมีระบบขับถ่ายที่ดีเพราะจะช่วยลดการป่วยและการติดเชื้อได้ 3. โปรตีนจากพืชไม่มีไขมัน ข้อดีที่สำคัญของโปรตีนจากพืชคือปราศจากคอเลสเตอรอลและไขมันเลว จึงทำให้คนที่รับประทานไม่ต้องกลัวที่จะอ้วนหรือน้ำหนักขึ้นได้ แต่ควรเลือกชนิดที่ไม่มีส่วนผสมของน้ำตาล หรือควรเป็นสารให้ความแทนน้ำตาลที่มาจากธรรมชาติ ที่สำคัญช่วยลดความเสี่ยงที่จะเป็นโรคหัวใจ โรคความดันโลหิต โรคเบาหวานได้ด้วยนะครับ 4. มีสารต้านอนุมูลอิสระช่วยป้องกันมะเร็ง โปรตีนจากพืช 100% ที่ทำจากธัญพืช […]
รวมแหล่งเพาะเชื้อสำหรับเด็ก ดูแลภูมิคุ้มกันให้ลูกสม่ำเสมอ
การดูแลสุขภาวะให้เด็กไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะเด็กมีความเปราะบาง และถูกกระตุ้นจากสิ่งเร้าภายนอกได้ง่าย นั่นเพราะภูมิคุ้มกันในเด็กนั้นยังไม่แข็งแรง ไม่สามารถทำงานได้อย่างเต็มที่ เหมือนกับร่างกายของผู้ใหญ่ ฉะนั้นการดูแลเด็กหนึ่งคนต้องรอบคอบและคิดเผื่อพวกเขาหลายเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องความสะอาด วันนี้ชวนดูแหล่งเพาะเชื้อโรคที่ควรหมั่นทำความสะอาด ไม่เช่นนั้นลูกอาจจะป่วยได้ มีการศึกษาว่าเชื้อโรคที่พบการปนเปื้อนมากที่สุดอยู่ในบ้าน โดยแบคทีเรียบางชนิดสามารถแบ่งตัวได้ทุก ๆ 20 นาที ในอุณหภูมิที่เหมาะสม ซึ่งปัจจัยเหล่านี้เองที่อาจจะทำให้ลูกป่วยโดยไม่รู้ตัว เพราะสามารถเข้าสู่ร่างกายของลูกและเสี่ยงติดเชื้อในรูปแบบต่าง ๆ เช่น ผิวหนัง บาดแผล ปัสสาวะ ปอด การรับประทานอาหาร เป็นต้น โดยเชื้อโรคที่พบบ่อย เช่น สแตฟฟิลโลคอคคัส ออเรียส (Staphylococcus aureus), ยีสต์และรา (Candida and Fungus), อีโคไล (E. coli), บาซิลลัส (Bacillus) และไวรัส SARS-CoV-2 หรือ ไวรัสโคโรน่า ที่ยังคงไม่หยุดการแพร่ระบาดก็ยังคงน่าเป็นกังวล แหล่งเพาะเชื้อสำหรับเด็ก ที่พ่อแม่ควรเฝ้าระวังและหมั่นดูแลความสะอาดให้ลูกอยู่เสมอ 1. ผ้าขนหนู/ผ้ากันเปื้อน ผ้าขนหนูที่เช็ดทำความสะอาดลูก ไม่ว่าจะเด็กเล็กหรือเด็กโต ควรทำความสะอาดทุกครั้งหลังใช้งาน […]
ฮีทสโตรกในเด็ก เสี่ยงลูกชัก หมดสติได้
ปิดเทอมหน้าร้อนเด็ก ๆ หลายคนรอคอยที่จะได้ออกจากบ้านไปทำกิจกรรมที่ชื่นชอบกลางแจ้งกับเพื่อน ๆ พ่อแม่ก็พร้อมสนับสนุน เพราะจะได้ส่งเสริมพัฒนาการด้านสำคัญ ๆ ของลูกหลายอย่าง แต่สิ่งหนึ่งที่ควรระวังคืออากาศที่ร้อนเกินไป โดยเฉพาะในปีนี้ประเทศไทยจะมีอุณหภูมิเฉลี่ยที่สูงขึ้นกว่าปีก่อนหลายองศา ซึ่งอาจจะส่งผลให้เด็กเป็นลมแดด หรือ โรคฮีทสโตรกได้ ฮีทสโตรกในเด็กก็เกิดขึ้นได้และอันตรายด้วย ไม่ว่าจะเด็กหรือผู้ใหญ่อุณหภูมิเฉลี่ยของร่างกายคนเราจะอยู่ที่ 36.1 – 37 องศาเซลเซียส (°C) แม้จะไม่ได้ทำกิจกรรมอะไรเลยร่างกายของเราก็มีความร้อนอยู่แล้ว เพราะมีกระบวนการเผาผลาญพลังงานอย่างสม่ำเสมอ หากเรายิ่งทำกิจกรรม เช่น ออกกำลังกาย วิ่งเล่น หรือต้องใช้พลังงานเยอะ ๆ ร่างกายก็จะพยายามทำให้อุณหภูมิกลับมาสู่สภาวะปกติให้เร็วที่สุดโดยการระบายความร้อนออกจากร่างกาย แต่หากเราอยู่ในสภาพอากาศที่ร้อนจัด หรือ ได้รับน้ำไม่เพียงพอร่างกายก็จะไม่สามารถถ่ายโอนความร้อนนี้ได้ อุณหภูมิในร่างกายก็จะสูงขึ้นจนเข้าสู่สภาวะโรคลมแดด หรือ ฮีทสโตรก (Heat stoke) ได้ ซึ่งในเด็กบางรายอาจจะถึงขั้นเป็นลมหมดสติ ช็อก หรือเสี่ยงถึงชีวิตได้ สังเกตอาการฮีทสโตรกของลูก ในช่วงเริ่มของการเป็นโรคลมแดด พ่อแม่อาจจะสังเกตได้ยากเพราะเมื่อเด็กมักจะแสดงอาการเมื่ออยู่ในช่วงวิกฤติแล้ว ดังนั้นควรจะอยู่ใกล้ชิดกับลูกเมื่อต้องทำกิจกรรมกลางแจ้ง เพราะความไร้เดียงสาของเด็กพวกเขาจะไม่ได้รู้สึกร้อนเพราะเพลิดเพลินกับกิจกรรมตรงหน้ามากกว่า 1. ลูกอ่อนเพลียอย่างเห็นได้ชัด เช่น ไปทำกิจกรรมว่ายน้ำแล้วขึ้นมา ลูกบอกว่าเหนื่อย ง่วงนอน ทั้งที่อาคารว่ายน้ำอยู่ในร่ม […]