หลายหน่วยงานด้านสารธารณสุขได้ออกมาเตือนกรณีฝุ่น PM2.5 เพิ่มขึ้นในปริมาณสูงทั่วประเทศ โดยเฉพาะกับกลุ่มเปราะบางอย่างเด็ก ผู้สูงอายุ หรือผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัว เพราะกลุ่มคนเหล่านี้เสี่ยงที่จะได้รับผลกระทบมากกว่าคนอื่น โดยเฉพาะเด็กที่มีความสามารถในการป้องกันตัวเองต่ำ ทั้งยังต้องออกจากบ้านเพื่อไปโรงเรียน และทำกิจกรรมกลางแจ้ง มาดูว่าพ่อแม่จะมีวิธีป้องกันให้ลูก ๆ อย่างไรเพื่อไม่ให้ภูมิคุ้มกันตก เด็กเสี่ยงที่ภูมิคุ้มกันตกได้ง่ายกว่าผู้ใหญ่ เนื่องจากเด็กอยู่ในช่วงพัฒนาการทางด้านร่างกาย ทำให้อวัยวะหลาย ๆ ส่วนยังไม่สามารถทำงานได้อย่างเต็มที่เท่าในวัยผู้ใหญ่ โดยเฉพาะภูมิคุ้มกันที่ยังไม่แข็งแรง การที่ต้องเผชิญกับมลภาวะที่ส่งผลต่อร่างกายโดยตรง เสี่ยงที่เด็กจะได้รับผลกระทบมากกว่าหลายเท่า ทั้งร่างกายอาจจะยังไม่เคยเจอกับสิ่งแปลกปลอมต่าง ๆ จากไวรัส แบคทีเรีย ปรสิต ฯลฯ นั่นจึงทำให้ภูมิคุ้มกันในเด็กอ่อนแอและพ่อแม่ต้องเฝ้าระมัดระวัง PM2.5 ทำให้เด็กอยู่ในสภาวะอ่อนแอและภูมิคุ้มกันตกได้ง่ายขึ้น เนื่องจากเด็กอยู่ในวัยที่ร่างกายและอวัยวะต่าง ๆ กำลังเติบโต ปอดกำลังขยายตัว ทำให้พวกเขาหายใจถี่และเร็วกว่าวัยผู้ใหญ่ กิจกรรมกลางแจ้งแม้จะช่วยพัฒนาการของเด็ก แต่เมื่ออากาศเต็มไปด้วยฝุ่นก็จะทำให้เด็กสูดเอาฝุ่นละอองขนาดเล็กนี้เข้าปอดได้มากและลึกกว่าผู้ใหญ่เสียอีก ที่สำคัญฝุ่นเล็กเหล่านี้ยังสามารถเข้าสู่เซลล์ กระแสเลือด และสมอง ผ่านระบบทางเดินหายใจได้ นอกจากจะส่งผลต่อพัฒนาการด้านต่าง ๆ ของเด็กแล้ว ยังส่งผลต่อสุขภาพระยะสั้นและระยะยาวได้ด้วย เด็กที่มีปัญหาในเรื่องทางเดินหายใจ เช่น เป็นภูมิแพ้ โรคหอบหืด และโรคทางเดินหายใจอื่น ๆ จะมีอาการทันทีหลังเผชิญกับฝุ่นเป็นเวลานาน เช่น ไอ น้ำมูกไหล […]