วิธีออกกำลังกายกระตุ้นการทำงานของหัวใจและหลอดเลือด

วิธีออกกำลังกาย

การออกกำลังกายควรเป็นหนึ่งในกิจวัตรประจำวันของคนเรา แต่เนื่องด้วยการใช้ชีวิต ไม่ว่าจะการทำงาน การเรียน ส่งผลให้หลายคนละเลยการออกกำลังกายไป ซึ่งการไม่ออกกำลังกายเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้หัวใจและหลอดเลือดทำงานไม่ได้ถูกกระตุ้นให้ทำงาน และเมื่ออายุมากขึ้นก็อาจจะมีปัญหาตามมาได้ วันนี้มาแชร์วิธีการออกกำลังกายเพื่อกระตุ้นการทำงานของหัวใจและหลอดเลือด ซึ่งเป็นวิธีที่ง่าย สามารถทำได้ทุกวัน จบปัญหาไม่มีเวลาได้เลยครับ

ข้อดีของการออกกำลังกายที่มีผลต่อหัวใจและหลอดเลือด

การออกกำลังกายจะช่วยกระตุ้นให้กล้ามเนื้อหัวใจสามารถสูบฉีดเลือดไปเลี้ยงยังส่วนต่าง ๆ ได้ดีขึ้น หากออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอจะช่วยป้องกันการเกิดโรคที่เกี่ยวกับหัวใจ ทั้งยังสามารถช่วยควบคุมน้ำหนักตัว ลดความเสี่ยงที่จะเป็นโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง เพิ่มความตื่นตัวในการใช้ชีวิต สร้างความสดชื่น ช่วยให้กล้ามเนื้อส่วนต่าง ๆ แข็งแรง กระชับ ช่วยให้แลดูอ่อนเยาว์ ลดภาวะความเครียดได้ด้วย ควรให้อัตราการเต้นของหัวใจขณะออกกำลังกายสูงสุด 60-80% จะได้ประโยชน์สูงสุด แต่คำนึงถึงความเหมาะสมของวัย และสภาพร่างกายด้วยนะครับ

วิธีออกกำลังกายเพื่อกระตุ้นการทำงานของหัวใจและหลอดเลือด

ควรเน้นไปที่การให้หัวใจได้เต้นสม่ำเสมอ ไม่ต้องออกแรงมากเกินไป ให้มีการหายใจโดยไม่ต้องเหนื่อยหอบ เป็นเหมือนการนวดหัวใจและหลอดเลือดให้ถูกกระตุ้นมากยิ่งขึ้น เช่น

1. การเต้นแอโรบิค เป็นการขยับร่างกายทุกส่วน ไม่ยากจนเกินไป และสามารถทำกับเพื่อน ๆ ได้ ช่วยเพิ่มความแข็งแรงของหัวใจ สามารถกระตุ้นให้หัวใจเต้นเร็วขึ้นได้ถึง 60-80% ทั้งยังกระตุ้นให้ไขมันถูกนำไปใช้เป็นพลังงานขณะออกกำลังกายด้วย ควรทำอย่างน้อยวันละ 20-30 นาที

2. การยกน้ำหนัก หรือ เวทเทรนนิ่ง ช่วยเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อทุกส่วนของร่างกาย หัวใจไม่ได้ทำงานเร็วมาก แต่มีความคงที่ ใช้เป็นดัมเบลหรือขวดน้ำเพิ่มน้ำหนัก ออกซิเจนจะเข้าไปหล่อเลี้ยงตามส่วนต่าง ๆ ของกล้ามเนื้อ และนำไขมันออกมาใช้งาน ช่วงแรกให้เริ่มจากน้ำหนักน้อย ๆ ไปก่อน ควรทำประมาณ 30 นาที/วัน ใครที่ไม่มีอุปกรณ์ก็อาจจะปรึกษาเทรนเอนร์ที่ฟิตเนสก่อนได้ จะได้ทำอย่างถูกต้องครับ

3. ปั่นจักรยาน แนะนำปั่นด้วยความเร็วคงที่ประมาณหนึ่งถึงจะกระตุ้นการทำงานของหัวใจและหลอดเลือดได้ ทั้งยังช่วยให้เพิ่มกล้ามเนื้อส่วนขาได้อีกด้วย ควรปั่นประมาณ 30-40 นาทีขึ้นไป หรือใครมีเครื่องปั่นจักรยานที่บ้านก็ควรปั่นประมาณ 1 ชั่วโมง ไต่ระดับความเร็วขึ้นได้หากร่างกายพร้อมครับ

4. โยคะ การเล่นโยคะเป็นการกำหนดลมหายใจไปพร้อม ๆ กับท่ากายบริหารและยืดกล้ามเนื้อ นอกจากจะช่วยให้เลือดลมไหลเวียนดีแล้ว จะช่วยให้กล้ามเนื้อยืดหยุ่นมากขึ้น และแข็งแรงอีกด้วยครับ ใครที่อยากลดน้ำหนักด้วยก็อาจจะลองเล่นโยคะร้อน จะช่วยกระตุ้นการเผาผลาญพลังงานได้ดี ลดน้ำหนักได้ครับ

5. ก่อนและหลังออกกำลังกายทุกครั้งต้องมีการวอร์มอัพและคูลดาวน์ เพื่อให้ร่างกายพร้อมออกกำลังกาย รวมถึงลดอาการบาดเจ็บหลังออกกำลังกายได้ด้วย ยิ่งคนเพิ่งเริ่มออกกำลังกายอาจจะมีอาการกล้ามเนื้ออักเสบหลังออกกำลังกายได้ การวอร์มอัพและคูลดาวน์จะช่วยได้มากเลยครับ

นอกจากออกกำลังกายแล้วการเลือกรับประทานอาหารก็ไม่แพ้กันนะครับ หลังออกกำลังกายแนะนำให้ทานน้ำในอุณหภูมิห้อง จะช่วยกระตุ้นให้การเผาผลาญร่างกายต่อไปได้อีกสักระยะ มื้ออาหารหลังออกกำลังกายเน้นเป็นเนื้อสัตว์ไขมันต่ำเพื่อเพิ่มโปรตีนให้ร่างกาย รวมถึงทานผักและผลไม้ ชดเชยวิตามินและเกลือแร่ที่สูญเสียไป และอย่าลืมทานสารสกัดจากฮอร์ธอร์และโคคิวเท็น บำรุงหัวใจและหลอดเลือดให้ประสิทธิภาพการทำงานคงที่และดีอย่างสม่ำเสมอ

Leave a comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *

TOP