พฤติกรรมทำร้าย ‘สมอง’ ที่คุณไม่รู้ตัว

สมอง

รู้ก่อนสาย! เช็คพฤติกรรมที่อาจทำร้ายสมอง

ในยุคที่มีแต่เรื่องเครียดแบบนี้ ไม่ว่าจะเป็นข่าวสารหรือสถานการณ์บ้านเมืองที่ทำให้เราเครียดไม่รู้ตัวอยู่บ่อยๆ รวมถึงพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่อาจจะไม่ดีต่อสุขภาพสมอง สาเหตุเหล่านี้อาจส่งผลให้เซลล์สมองของเราเสื่อมได้ครับ วันนี้ยัวร์มีเช็คลิสต์ 12 ข้อ ที่ให้คุณได้ลองเช็คตัวเองกันดูว่า ตัวเราเองมีพฤติกรรมทำลายสมองมากแค่ไหนครับ

1.        ไม่ทานอาหารเช้า เพราะอาหารเช้าเป็นสิ่งสำคัญและจำเป็นมากในการเริ่มต้นทำงาน การไม่ทานอาหารเช้า จะทำให้มีสารอาหารไปเลี้ยงสมองไม่พอ เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้สมองเสื่อมได้

2.        ชอบทานอาหารและเครื่องดื่มที่มีรสหวานจัด การทานน้ำตาลที่มากเกินไป นอกจากจะเป็นสาเหตุของการเกิดโรคอ้วน โรคเบาหวาน และโรคความดันโลหิตสูงแล้ว ยังขัดขวางการดูดซึมโปรตีนและสารอาหารที่เป็นประโยชน์ ซึ่งจะส่งผลต่อการพัฒนาของสมอง และในระยะยาวอาจเพิ่มความเสี่ยงโรคสมองเสื่อมได้

3.        ชอบทานอาหารที่ผ่านกระบวนการแปรรูปสูง (Highly processed foods) อาหารเหล่านี้มักมีน้ำตาล เกลือ และไขมันอิ่มตัวในปริมาณสูง ทำให้ร่างกายได้รับ น้ำตาล โซเดียม ไขมัน รวมทั้งแคลอรี่มากเกินกว่าปริมาณที่แนะนำต่อวัน ซึ่งอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพและเสี่ยงต่อปัญหาสุขภาพต่างๆ เช่น โรคอ้วน โรคเบาหวาน และโรคความดันโลหิตสูง ซึ่งนำไปสู่โรคหลอดเลือดสมองได้ นอกจากนี้ผลการวิจัยยังพบความสัมพันธ์ของการทานอาหารที่ผ่านกระบวนการแปรรูปสูงในปริมาณที่มากเกินไปกับการเสื่อมของเนื้อเยื่อสมองด้วย

4.        สูบบุหรี่บ่อยๆและสูบเป็นประจำ ซึ่งบุหรี่มีสารนิโคตินและสารพิษอื่นๆ ที่ทำให้หลอดเลือดแดงตีบตัน ส่งผลทำให้กล้ามเนื้อหัวใจตาย เกิดหัวใจวายกะทันหัน หลอดเลือดสมองตีบตัน และทำให้เป็นอัมพฤกษ์ อัมพาตได้ นอกจากนี้อาจทำให้เซลล์สมองฝ่อและเสื่อมได้ง่ายกว่าปกติ โดยการสูบบุหรี่เพียงวันละ 1 – 2 มวน เพิ่มความเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดสมองได้มากกว่าคนที่ไม่สูบบุหรี่ และผู้ได้รับควันมือสองก็มีความเสี่ยงเพิ่มด้วยเช่นกัน ซึ่งคนที่เลิกสูบบุหรี่ได้ จะลดความเสี่ยงการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดสมองได้ถึง ร้อยละ 30 – 50

5.        ดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์บ่อยๆเป็นประจำ ส่งผลต่อขนาดของสมอง โดยทำให้สมองส่วนฮิปโปแคมปัส (hippocampus) หดตัว ซึ่งสมองส่วนนี้เกี่ยวข้องกับความจำ จึงส่งผลให้ความจำเสื่อม ความคิดเลอะเลือน ระยะยาวจะทำให้สมองเสื่อม

6.        ชอบใช้สมองทำงานหรือทำกิจกรรมต่างๆขณะที่อดนอนหรือไม่สบาย เพราะการใช้สมองในช่วงเวลาที่ร่างกายไม่พร้อม จะยิ่งทำให้สมองอ่อนแอ

7.        อดนอนบ่อยๆเป็นเวลานานๆเพราะการอดนอนเป็นประจำ ทำให้สมองไม่ได้พักผ่อนและอาจทำให้เซลล์สมองตายได้

8.        ชอบนอนคลุมโปงเพราะ ทำให้สมองได้รับคาร์บอนไดออกไซด์มากกว่าออกซิเจน ซึ่งส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำงานของสมอง

9.        เก็บตัวไม่พบปะผู้คน พบว่า สมองมีกระบวนการทำงานในการแก้ปัญหาที่ช้าลง

10.        ได้รับอากาศที่เป็นพิษและมลภาวะต่างๆมากเกินไป เพราะทำให้ร่างกายไม่สามารถนำออกซิเจนไปเลี้ยงสมองได้เพียงพอ ทำให้ประสิทธิภาพการทำงานของสมองลดลง

11.        ไม่ชอบใช้ความคิดส่งผลให้การทำงานของสมองลดลง เพราะไม่ได้ถูกใช้งาน บ่อยๆ เข้าจะสูญเสียเซลล์สมอง หรือเส้นใยประสาท ยิ่งไม่ใช่บ่อยเท่าไร สมองก็จะเริ่มฝ่อมากขึ้นเรื่อยๆ

12.        เครียดสะสมเป็นเวลานานๆทำให้การไหลเวียนเลือดไปเลี้ยงสมองลดลง เกิดอาการมึนงง ความจำแย่ลง และมีความเสี่ยงเป็นโรคอัลไซเมอร์ได้

สำหรับใครที่ไม่อยากข้องเกี่ยวโรคอัลไซเมอร์ในตอนแก่ละก็ แม้ปัจจุบันจะยังไม่มีวิธีการรักษาโรคอัลไซเมอร์ให้หายขาดได้ก็ตาม แต่อย่าเพิ่งหมดหวัง เพราะคุณเองสามารถชะลอความเสื่อมของสมองได้ตั้งแต่วันนี้ด้วยวิธีการง่าย ๆ เพียง 6 วิธีดังต่อไปนี้ครับ

1.        หมั่นเรียนรู้สิ่งใหม่อยู่เสมอ ควบคู่ไปกับการออกกำลังสมอง เช่น เล่นเกมลับสมองฝึกความจำ ฝึกคำนวณตัวเลข รวมถึงการเล่นดนตรีประเภทต่าง ๆ ก็ช่วยได้

2.        ออกกำลังกาย มีประโยชน์เรื่องการคลายเครียดและลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหลอดเลือด โดยการออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอหรือการบำรุงหัวใจ เพียงวันละ 20 – 30 นาที อย่างน้อย 4 วันต่อสัปดาห์

3.        รับประทานอาหารบำรุงสมอง โดยเฉพาะอาหารที่อุดมด้วยธาตุเหล็ก วิตามินบี 12 เอ ซี อี ซีลีเนียม รวมถึงเบต้ากลูแคน ที่มีสรรพคุณช่วยเพิ่มภูมิต้านทานให้เข้มแข็ง และทำให้ร่างกายของเราหายเหนื่อยล้า ส่งผลให้ความเครียดลดลง ลดอาการปวดหัว และจิตใจสดชื่นแจ่มใสขึ้นได้อีกครั้ง อีกทั้งยังกระตุ้นระบบประสาทให้ทำหน้าที่กำจัดสิ่งสกปรกออกจากเซลล์สมอง ทำให้มีความจำดีขึ้น ลดโอกาสการเป็นอัลไซเมอร์

4.        การเข้าสังคม เราไม่ได้พูดถึงงานสังคมหรูหราฟุ่มเฟือยใด ๆ แต่สิ่งที่กำลังกล่าวถึงคือ การพบปะผู้คน พูดคุย โต้ตอบบทสนทนาอย่างสม่ำเสมอ ไม่เก็บตัวเงียบอยู่คนเดียว สามารถช่วยยืดอายุสมองได้

5.        หมั่นตรวจสอบความดันโลหิตอยู่เสมอ เพราะส่งผลกระทบถึงสมองโดยตรง และให้ลด ละ เลิกกิจกรรมต่าง ๆ ที่ส่งผลต่อความดันโลหิตได้ เช่น การดื่มแอลกอฮอล์ การสูบบุหรี่ และการใช้สารเสพติด

6.        นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ไม่ควรเข้านอนเกินสี่ทุ่มถึงห้าทุ่ม และควรนอนให้ได้อย่างน้อย 7 ชั่วโมงต่อวันในสถานที่เงียบสงบ เพื่อให้การนอนมีคุณภาพมากที่สุด

หากปฏิบัติตาม 6 ข้อที่ยัวร์นำมาฝากกัน เพียงเท่านี้สามารถลดความเสี่ยงของการเป็นโรคสมองเสื่อมหรืออัลไซเมอร์ได้แล้วล่ะครับ

Leave a comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *

TOP