“ควันบุหรี่” ทำลายภูมิคุ้มกัน เสี่ยงมะเร็งเร็วขึ้น

ควันบุหรี่

หลายคนอาจจะรู้อยู่แล้วว่าบุหรี่ไม่มีประโยชน์ต่อร่างกาย แถมยังให้โทษมหันต์อีกด้วย แต่ก็มีหลายคนที่ได้หลงเข้าไปแล้วลิ้มลองแล้วเสพติดนิโคตินในบุหรี่แล้วเลิกไม่ได้ ซึ่งการยากบุหรี่ยากพอๆ กับเลิกติดกาแฟนั่นแหละครับ แต่เหตุผลที่ YOUR กำลังจะอธิบายต่อไปนี้คือ บุหรี่นั้นอันตรายถึงขั้นทำลายเซลล์ร่างกายของเราได้ และเสี่ยงที่จะเสียชีวิตจากโควิด รวมถึงเป็นตัวที่เร่งให้กับโรคร้ายอย่างมะเร็งด้วยนะครับ

อันตรายยิ่งกว่านิโคตินในบุหรี่ คือ “ควันบุหรี่”

นิโคตินในบุหรี่เป็นสารที่ทำให้เกิดการเสพติด ซึ่งนับเป็นสารเสพติดที่ส่งผลต่อประสาทส่วนกลาง หากเด็กหรือเยาวชนใช้งานอาจจะส่งผลต่อการเจริญเติบโตของสมอง และสำหรับผู้สูงอายุอาจจะส่งผลต่อการเต้นของหัวใจ แต่สิ่งที่อันตรายกว่านั้นคือควันบุหรี่ที่เกิดจากการเผาไหม้ด้วยอุณหภูมิสูง ประกอบไปด้วยสารพิษที่อันตรายต่อร่างกายถึง 7,000 ชนิด โดยจะไปเกาะตามผนังหลอดเลือด ไหลเข้าสู่กระแสเลือด และหมุนเวียนในร่างกาย หากสูบบุหรี่ทุกวันสารเหล่านี้ก็จะสะสมในร่างกาย จนก่อให้เกิดโรคร้ายต่างๆ และโรคยอดฮิตคือโรคมะเร็งปอด ถุงลมโป่งพอง มะเร็งปาก โรคหัวใจ ฯลฯ

บุหรี่ทำภูมิคุ้มกันโควิดลดลง และทำลายเซลล์ภูมิคุ้มกัน

ไม่เพียงเท่านี้มีงานวิจัยว่าการสูบบุหรี่จะทำให้ประสิทธิภาพวัคซีนป้องกันโควิดน้อยลงอีกด้วย โดยภูมิคุ้มกันของคนที่ฉีดวัคซีนครบโดสแล้วและเป็นคนที่สูบบุหรี่ ระดับภูมิคุ้มกันเชื้อไวรัสต่ำกว่าคนที่ไม่สูบบุหรี่ถึง 40% เลยทีเดียว ไม่เพียงเท่านี้ควันบุหรี่ยังไปยับยั้งการทำลายเซลล์ที่เกี่ยวกับการทำงานของเม็ดเลือดขาว ส่งผลให้ประสิทธิภาพในการกำจัดสิ่งแปลกปลอม เช่น อนุภาคฝุ่น เชื้อแบคทีเรีย และสารก่อภูมิแพ้ต่างๆ เข้าถึงร่างกายได้ง่ายขึ้น คนสูบบุหรี่ก็อาจจะมีภูมิคุ้มกันที่ต่ำกว่าคนทั่วไปอีกด้วยครับ

แค่เลิกบุหรี่ 1 วัน ร่างกายก็เปลี่ยนไป

มีหลักฐานว่าแค่เลิกบุหรี่ได้ 1 วันร่างกายก็เริ่มรับรู้ถึงความเปลี่ยนแปลง เช่น หายใจคล่องขึ้น ไม่ไอ ไม่เหนื่อยง่าย เสียงลมหายใจลดลง แต่การเลิกบุหรี่ไม่ได้ทำได้ง่าย บางคนสูบเป็นสิบปี นอกจากจะต้องมีความตั้งใจแน่วแน่แล้ว ต้องหาแรงบันดาลใจครับ เช่นทำเพื่อใครสักคน อย่างการทำเพื่อลูก ทำเพื่อภรรยา ทำเพื่อคนในครอบครัว ที่ยังอยากอยู่กับเราไปนานๆ หรือใช้บริการศูนย์เลิกบุหรี่ของหน่วยงานใกล้บ้าน

ของหวานตัวช่วยอีกหนึ่งทางในการเลิกบุหรี่

การใช้ตัวช่วยบางอย่างก็สามารถลดความต้องการบุหรี่ได้ เช่น ขนมหวาน ลูกอม น้ำอัดลม หมากฝรั่ง เพราะน้ำตาลสามารถเพิ่มพลังงานให้กับร่างกายได้ทันที คนที่เลิกบุหรี่ใหม่ๆ จะรู้สึกเพลีย อ่อนล้า การรับประทานน้ำตาลจะเป็นการเพิ่มพลังงานให้ร่างกาย และรู้สึกอยากสูบบุหรี่ได้

ที่สำคัญอย่าลืมทานเบต้ากลูแคน เพื่อเสริมสร้างให้ร่างกายมีภูมิคุ้มกันปกติ ในช่วงที่เลิกบุหรี่ใหม่ๆ จะรู้สึกอ่อนเพลียมาก อาจจะส่งผลให้ร่างกายป่วยง่าย อ่อนแอกว่าปกติ เบต้ากลูแคนให้ไปกระตุ้นให้เซลล์เม็ดเลือดขาวที่เคยบกพร่องไปกลับมาทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ และห่างไกลโรคร้ายโดยเฉพาะมะเร็งครับ

Leave a comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *

TOP