อากาศปลายปีเริ่มเอาแน่นอนไม่ได้นะครับ เดี๋ยวก็ร้อน เดี๋ยวฝนตก เดี๋ยวก็อากาศเย็นลง อาจจะทำให้ร่างกายปรับตัวไม่ทันและป่วยได้ง่าย ๆ โดยเฉพาะคนที่เป็นโรคภูมิแพ้ หรือไวต่อสิ่งเร้ารอบตัว อาจจะอาการกำเริบช่วงนี้ได้ง่าย ๆ นอกจากนี้ยังต้องระวังเรื่องมลภาวะจากฝุ่น PM2.5 ที่เริ่มกลับมาส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตของเราอีกครั้ง
มาดูกันครับว่าจะมีอาหารอะไรบ้างที่ช่วยคลายหนาว สร้างความอบอุ่น กันภูมิตกและกระตุ้นภูมิคุ้มกันกันบ้าง
1. ช็อกโกแลต
แนะนำเป็นช็อกโกแลตที่เป็นเครื่องดื่มร้อน เพราะนอกจากจะช่วยสร้างความอบอุ่นให้ร่างกายแล้ว ช็อกโกแลตยังเต็มไปด้วยสารที่กระตุ้นภูมิคุ้มกัน และมีสารต้านอนุมูลอิสระต่าง ๆ อีกมากมาย ทั้งยังมีคาเฟอีนที่ช่วยกระตุ้นความกระปรี้กระเปร่าให้ร่างกายในวันที่อากาศเย็น จนเราไม่อยากลุกไปทำงานหรือไปเรียน และหากรับประทานเป็นดาร์กช็อกโกแลตได้จะยิ่งดี เพราะช่วยบำรุงหัวใจและควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ด้วยครับ
2. ขิง
เป็นสมุนไพรพื้นบ้านที่หลายคนรู้จักดี มีฤทธิ์ร้อน เต็มไปด้วยสารเคอร์คูมินยังช่วยลดอาการอักเสบ กระตุ้นภูมิคุ้มกันให้ร่างกายแข็งแรง ป้องกันเราจากไวรัส แก้หวัด คัดจมูก บรรเทาอาหารไอ เจ็บคอ แถมยังแก้เรื่องท้องอืด ท้องเฟ้อได้อย่างดี หากอากาศเย็น ๆ ได้จิบน้ำขิงอุ่น ๆ รับรองว่าจะรู้สึกดีขึ้นอย่างมาก
3. เบต้ากลูแคน
สารสกัดที่ช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันได้ดีที่สุด เป็นทางเลือกสุขภาพของคนยุคใหม่ที่ใส่ใจเรื่องภูมิคุ้มกัน เพราะทั้งหาทานได้ง่าย สะดวก แนะนำเลือกซื้อชนิดเบต้า 1,3/1,6 D-กลูแคน ที่สกัดมาจากผนังเซลล์ของยีสต์ Saccharomyces Cerevisiae ซึ่งมีส่วนช่วยในการเสริมภูมิคุ้มกันให้แก่ร่างกายได้ดีที่สุดเท่าที่วงการวิทยาศาสตร์รู้จัก ควรเลือกชนิดที่สกัดจากธรรมชาติ 100% จะปลอดภัยที่สุด นอกจากนี้เบต้ากลูแคนยังเต็มไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ลดการอักเสบของเนื้อเยื่อ และป้องกันโรคร้ายให้เราได้ในอนาคตอีกด้วย แนะนำว่าควรรับประทานต่อเนื่อง ไม่ต้องรอให้สภาพอากาศแปรปรวน หากรับประทานตั้งแต่เนิ่น ๆ จะลดความเสี่ยงที่จะได้ป่วยได้น้อยลงครับ
4. นมถั่วเหลือง
ถั่วเหลืองนับเป็นโปรตีนจากพืชที่มีราคาไม่แพง แถมให้โปรตีนที่สูงมาก ให้พลังงานกับร่างกายได้ดี ดื่มแล้วไม่ต้องกลัวอ้วน เพราะในถั่วเหลืองมีไขมันไม่อิ่มตัว ดีต่อสุขภาพ แนะนำให้เลือกสูตรที่มีน้ำตาลน้อยจะดีที่สุดครับ นอกจากนี้ถั่วเหลืองยังอุดมไปด้วยวิตามินอีที่สามารถกระตุ้นระบบสารต้านอนุมูลอิสระได้ ทั้งยังช่วยเรื่องผิวพรรณ บำรุงเส้นผม ลดริ้วรอยได้อีกด้วย
5. น้ำเปล่า
การดื่มน้ำเปล่าในปริมาณ 2 ลิตร/วัน หรือประมาณ 6-8 แก้วเป็นเรื่องที่สำคัญและจำเป็นมาก เพราะช่วงที่อากาศเย็นลง หลายคนไม่อยากดื่มน้ำเพราะจะทำให้ปัสสาวะบ่อย เพราะเมื่ออากาศเย็นร่างกายเราไม่สามารถขับเหงื่อออกทางอื่นได้ จึงต้องขับทางปัสสาวะ ทำให้หลายคนดื่มน้ำไม่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย อาจจะส่งผลให้ผิวแห้ง แตก จากอากาศที่แห้งมากขึ้น การดื่มน้ำอุ่นหรือน้ำในอุณหภูมิห้องจะช่วยเพิ่มความอบอุ่นให้ร่างกาย และปกป้องไม่ให้ผิวเราแห้งลงได้ด้วย