ในโลกที่เต็มไปด้วยความกดดันและการแข่งขัน เด็กก็ได้รับผลกระทบจากความเครียดที่เกิดขึ้นรอบตัวได้เหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็นความเครียดจากการเรียน การเปรียบเทียบตัวเองกับผู้อื่น หรือแม้กระทั่งความกังวลในเรื่องอนาคต ความเครียดในเด็กอาจส่งผลกระทบต่อทั้งร่างกายและจิตใจ หากไม่ได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม พ่อแม่จึงมีบทบาทสำคัญในการช่วยให้ลูก ๆ สามารถจัดการกับความเครียดและสร้างพื้นที่ปลอดภัยสำหรับลูกได้ครับ มาดูกันครับว่าจะมีวิธีไหนบ้าง
ทำไมเด็กถึงเครียด?
แม้ว่าเด็กจะยังไม่ได้รับภาระหรือปัญหาทางการเงินเหมือนผู้ใหญ่ แต่การเครียดของเด็กนั้นเกิดจากหลายปัจจัยที่อาจส่งผลต่อจิตใจของเขาได้ เช่น
1. การเรียน การทำการบ้าน การสอบ การทดสอบกิจกรรม อาจทำให้เด็กมีความกดดันมากขึ้น โดยเฉพาะเมื่อเด็กต้องการทำให้พ่อแม่หรือครูพึงพอใจ
2. ความคาดหวังจากพ่อแม่ บางครั้งความคาดหวังจากพ่อแม่ในการประสบความสำเร็จในด้านต่าง ๆ ที่พ่อแม่อาจจะทำให้เกิดขึ้นโดยไม่รู้ตัว อาจทำให้เด็กเกิดความรู้สึกเครียดและไม่สามารถพัฒนาตัวเองได้เต็มที่
3. สภาพแวดล้อมทางสังคม การเปรียบเทียบตัวเองกับเพื่อนหรือการถูกกลั่นแกล้งในโรงเรียนสามารถทำให้เด็กเกิดความเครียดและความวิตกกังวลได้
4. การเปลี่ยนแปลงในชีวิต เช่น การย้ายโรงเรียน การแยกจากเพื่อน หรือการเปลี่ยนแปลงทางครอบครัว
พ่อแม่สามารถเป็นพื้นที่ปลอดภัยให้ลูกได้อย่างไร
การสร้างพื้นที่ปลอดภัยหรือ “เซฟโซน” ให้กับลูกคือการช่วยลูกให้รู้สึกได้รับความรักและการสนับสนุนจากครอบครัวอย่างเต็มที่ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยลดความเครียดและทำให้ลูกสามารถเผชิญกับสถานการณ์ที่ท้าทายได้ แม้ไม่มีพ่อแม่คอยช่วยเหลือก็ตาม
1. การรับฟังลูกอย่างตั้งใจและเต็มใจ
การรับฟังลูกอย่างเต็มที่โดยไม่ตัดสินหรือวิจารณ์ทันที เป็นหนึ่งในวิธีที่ดีที่สุดในการช่วยให้ลูกคลายความเครียด ลูกจะรู้สึกว่าเขาสามารถพูดออกมาได้อย่างอิสระและไม่ถูกกดดัน พ่อแม่ควรเปิดใจรับฟังทุกเรื่องราวที่ลูกอยากเล่า ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กหรือใหญ่ พ่อแม่อย่าใจร้อนให้เวลาลูกพูด หากลูกต้องการความช่วยเหลือหลังจากนั้น ค่อย ๆ ให้คำแนะนำที่เหมาะสม
2. ให้การยอมรับและสนับสนุน
ความรู้สึกว่าพ่อแม่ยอมรับในตัวเขาอย่างแท้จริงจะช่วยให้ลูกมีความมั่นใจและไม่เครียดกับความคาดหวังเกินไป พ่อแม่ไม่ควรเปรียบเทียบลูกกับเด็กคนอื่น ๆ หรือมุ่งเน้นที่ความสำเร็จมากเกินไป ควรสนับสนุนลูกในการพัฒนาในสิ่งที่เขาสนใจและทำได้ดีที่สุด พ่อแม่ควรพูดคุยกับลูกเกี่ยวกับความสำเร็จเล็ก ๆ น้อย ๆ ในชีวิต และยกย่องความพยายามมากกว่าผลลัพธ์ไม่ว่าจะออกมาในแง่ไหน แต่ควรเป็นส่วนในการสนับสนุนกำลังใจให้พวกเขา
3. สอนให้รู้จักการจัดการความเครียด
การสอนลูกเกี่ยวกับการจัดการความเครียดตั้งแต่ยังเด็กจะช่วยให้เขามีเครื่องมือในการรับมือกับสถานการณ์ต่าง ๆ ในชีวิต เช่น การฝึกให้ลูกเข้าใจในสภาวะความเครียด การฝึกการหายใจ การขอความช่วยเหลือจากผู้ใหญ่ใกล้ตัว หรือการทำกิจกรรมที่เขาชอบ เช่น การวาดรูป หรือการเล่นกีฬา รวมถึงการให้เวลาพักผ่อนอย่างเพียงพอ
4. การให้พื้นที่ส่วนตัว
แม้ว่าเด็กจะอยู่ในบ้าน แต่การมีพื้นที่ส่วนตัวที่เขาสามารถทำกิจกรรมที่ชอบหรือผ่อนคลายได้เอง เช่น การอ่านหนังสือ หรือการเล่นเกม ก็เป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยลดความเครียด พ่อแม่ควรให้พื้นที่นี้แก่ลูกและเคารพในความต้องการของเขาด้วยการทำข้อตกลง เพื่อให้พื้นที่ให้ลูกได้ทั้งทำกิจกรรมและสร้างโอกาสให้เขาได้ตัดสินใจด้วยตัวเอง โดยไม่ต้องทำตามกฎหรือคำสั่งตลอดเวลา
5. การเสริมสร้างความสัมพันธ์ที่มั่นคง
การมีความสัมพันธ์ที่มั่นคงกับพ่อแม่จะทำให้ลูกรู้สึกปลอดภัยและได้รับการสนับสนุนเสมอ ความใกล้ชิดและความรักที่แสดงออกมาอย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้ลูกสามารถเปิดใจและพูดคุยเกี่ยวกับความเครียดที่เขากำลังเผชิญ ซึ่งการสร้างความสัมพันธ์ในครอบครัวอาจจะทำผ่านกิจกรรมที่สามารถทำร่วมกันได้ เช่น ทำอาหาร ดูภาพยนตร์ ออกไปเดินที่สวนสาธารณะ ฯลฯ
การที่เด็กจะสามารถจัดการกับความเครียดได้ดีนั้น พ่อแม่มีบทบาทสำคัญในการช่วยสร้างพื้นที่ปลอดภัยที่เต็มไปด้วยความรักและการสนับสนุน ควรให้โอกาสลูกได้พูดคุยเกี่ยวกับความเครียดได้โดยไม่ถูกตัดสิน ให้การยอมรับและส่งเสริมความมั่นใจในตัวลูก รวมถึงการดูแลด้านร่างกายอื่น ๆ ทั้งการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ การพักผ่อนอย่างเพียงพอ ก็เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ลูกมีสุขภาพแข็งแรงและสามารถรับมือกับสิ่งที่เกิดขึ้นได้
นอกจากนี้การรับสารสกัดและวิตามินอย่างเหมาะสมกับมีส่วนด้วย เช่น การทานน้ำมันปลาที่มี DHA ช่วยบำรุงสมองและระบบประสาท หรือสารสกัดจากข้าวบาร์เลย์ญี่ปุ่น (GABA) ก็มีส่วนช่วยให้ลูกมีสมาธิในการเรียนรู้ ช่วยให้ลูกผ่อนคลาย และนอนหลับได้ดี ช่วยลดความเครียดให้ลูกได้อีกทางหนึ่ง
หากพ่อแม่คนไหนต้องการสารสกัดที่สามารถดูแลสุขภาพของลูกได้อย่างครอบคลุม สามารถติดต่อทีม YOUR เพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติ่ม ได้ฟรีทาง Inbox m.me/yourofficialthailand หรือ Line : @Yourthailand