นอกจากอาหารที่ช่วยเรื่องภูมิคุ้มกัน เครื่องดื่มก็เป็นอีกปัจจัยสำคัญไม่แพ้กัน แม้น้ำเปล่าควรจะเป็นเครื่องดื่มที่ต้องดื่มให้เพียงพอ แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าเครื่องดื่มประเภทอื่น ๆ ก็ได้รับความนิยม มีรายงานว่าอุตสาหกรรมเครื่องดื่มของไทยเติบโตขึ้นมาก โดยเฉพาะเครื่องดื่มในกลุ่มไม่มีแอลกอฮอล์ น้ำอัดลม เครื่องดื่มชูกำลัง น้ำผลไม้ แล้วเครื่องดื่มไหนที่เพิ่ม / ลด ภูมิคุ้มกัน ก่อนสั่งก่อนซื้อต้องดูให้ดี
เครื่องดื่ม “ลด” ภูมิคุ้มกัน
เครื่องดื่มที่ลดภูมิคุ้มกันมักจะเต็มไปด้วยน้ำตาล และให้สารอาหารที่ไม่จำเป็นต่อร่างกาย หรือเกินความจำเป็นต่อร่างกาย จนร่างกายไม่สามารถดูดซึมไปใช้ได้ เช่น
– น้ำอัดลม ในน้ำอัดลมประกอบไปด้วย น้ำตาล กรดคาร์บอนิก กรดฟอสฟอริก คาเฟอีน สีและกลิ่นหรือรส รวมถึงสารกันบูด ในน้ำอัดลมปริมาณ 100 มิลลิลิตร จะมีน้ำตาลประมาณ 10.6 กรัม หรือให้พลังงาน 42 กิโลแคลอรี ถ้าดื่มน้ำอัดลมประมาณ 1 ลิตร จะให้พลังงานประมาณ 420 กิโลแคลอรีเลยทีเดียว
– เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ติดต่อกันเป็นเวลานาน ส่งผลต่อการทำงานของตับ โดยปกติตับจะขจัดสารพิษและขับของเสียออกได้เอง แต่หากดื่มเป็นประจำจะทำให้เกิดผังผืดและทำให้เกิดไขมันในตับ นอกจากนี้การดื่มแอลกอฮอล์ส่งผลให้เลือดไหลเวียนรวดเร็วกว่าปกติ ทำให้หัวใจทำงานหนักขึ้น ทั้งน้ำตาลในเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ยังทำให้เกิดไขมันในหลอดเลือดได้ด้วย เสี่ยงเกิดโรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ และโรคหลอดเลือดด้วย
– คาเฟอีน การดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนสูงในปริมาณมากอาจจะส่งผลให้นอนไม่หลับ ซึ่งการไม่ได้พักผ่อนอย่างเพียงพอส่งผลต่อภูมิคุ้มกันโดยตรง อาจจะทำให้ภูมิคุ้มกันตก อ่อนเพลีย และป่วยได้ อีกทั้งคาเฟอีนยังส่งผลต่อระบบประสาทส่วนกลาง ทำให้เสพติด และทำให้หัวใจเต้นเร็วขึ้น เสี่ยงที่อนาคตจะเป็นโรคหัวใจได้ เครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนสูงและน้ำตาลสูง เช่น เครื่องดื่มชูกำลัง เครื่องดื่มหลังเล่นกีฬา หรือเครื่องดื่มแก้อาการเมาค้าง เป็นต้น
– เครื่องดื่มที่ผสมวิตามิน เครื่องดื่มไร้แอลกอฮอล์ที่กำลังเป็นที่นิยม มีวิตามินผสมอยู่ในปริมาณที่แตกต่างกัน แนะนำให้อ่านฉลากก่อนซื้อ เนื่องจากร่างกายของเราควรได้รับวิตามินประเภทต่าง ๆ ในปริมาณที่แตกต่างกัน หากได้รับเกิน ร่างกายอาจจะแย่งกันดูดซึม หรืออาจจะทำให้ได้รับวิตามินที่จำเป็นไม่เพียงพอได้ครับ
เครื่องดื่ม “เพิ่ม” ภูมิคุ้มกัน
– เครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของเบต้ากลูแคน เพราะเบต้ากลูแคนเป็นสารสกัดที่ช่วยกระตุ้นการสร้างภูมิคุ้มกันระดับเซลล์ได้ และเป็นหนึ่งในสารสกัดที่กระตุ้นการสร้างภูมิคุ้มกันได้ดีและมีประสิทธิภาพมากที่สุด หากร่างกายได้รับสารสกัดจากเบต้ากลูแคนเป็นประจำจะทำให้ร่างกายแข็งแรงโดยภาพรวม และสมดุลมากยิ่งขึ้น
– ชาเขียว ในชาเขียวมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ชื่อว่าแคซีทีน ที่ช่วยลดการอักเสบ และมีสารแอลธีอะนีน ซึ่งอาจมีส่วนช่วยในการกระตุ้นกลไกการสร้างภูมิคุ้มกันของทีเซลล์ด้วย ซึ่งสามารถช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกัน ลดความเสี่ยงโรคเรื้อรังอย่างโรคมะเร็งได้ด้วย แนะนำให้ดื่มชาเขียวไม่มีน้ำตาลด้วยนะครับ
– น้ำขิง ขิงมีสารต้านอนุมูลอิสระหลายชนิด ซึ่งสามารถกระตุ้นให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันได้อย่างดี ในช่วงโควิด-19 ทางการแพทย์แนะนำให้ดื่มน้ำขิงเพื่อเพิ่มภูมิคุ้มกันและลดเสี่ยงการติดเชื้อได้ดี ทั้งยังมีประสิทธิภาพลดการอักเสบ เจ็บคอ และอาการไข้ได้ด้วย
– กาแฟดำ ในกาแฟดำมีสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น วิตามิน B2, B3, B5, แมงกานีส, โพแทสเซียม และแมกนีเซียม ซึ่งเป็นสารสำคัญที่ช่วยเสริมระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย ลดการเสียหายของเซลล์ และลดการอักเสบได้ดีด้วย แม้ในกาแฟจะมีคาเฟอีน แนะนำให้รับประทานช่วงเช้าเพื่อให้ร่างกายใช้พลังงานให้หมด จะได้ไม่ส่งผลต่อการนอนครับ
– น้ำเปล่า การดื่มน้ำเปล่าให้เพียงพอต่อร่างกาย ส่งผลให้ร่างกายสมดุลและช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันทำงานได้อย่างปกติ และไม่ควรปล่อยให้ร่างกายขาดน้ำโดยเด็ดขาด เพราะน้ำมีผลต่อสมดุลของร่างกายอย่างมาก