สำรวจภาวะเครียดลูกจากการนอน รู้ไหมเด็กก็มีความเครียด?

ภาวะเครียด

พฤติกรรมของลูกที่พ่อแม่ต้องสังเกตความเปลี่ยนแปลงในทุกวัน เช่น การรับประทานอาหาร การขับถ่าย อารมณ์ที่แสดงออก เช่น หงุดหงิด ก้าวร้าว ขาดสมาธิ หรือกระทั่งการเข้ากับเพื่อน การไม่อยากไปโรงเรียน หรือกระทั่งการนอนได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ ส่งผลให้ง่วงซึม ไม่ร่าเริง อาการเหล่านี้เพราะเด็กก็มี “ความเครียด” ได้เหมือนกัน มาสังเกตความเครียดของเด็กจากการนอน และวิธีแก้ปัญหากันครับ

 

จากการสำรวจเด็กอยู่ในวัยศึกษาตั้งแต่ระดับประถมเป็นต้นไปเริ่มมีความเครียดร้อยละ 5 – 20 โดยมีระดับความเครียดที่แตกต่างกันได้

ระดับที่ 1 – วิตกกังวลกับการเรียน ขาดสมาธิ รู้สึกไม่กระปรี้กระเปร่า ง่วงซึม อาจจะยังไม่กระทบกับการใช้ชีวิตมาก แต่พ่อแม่ควรแก้ไขปัญหาตั้งแต่อยู่ในระดับนี้ไม่ควรปล่อยไว้

ระดับที่ 2 – ส่งผลต่อการเรียน และคนรอบข้าง เช่น มีอาการหงุดหงิด โกรธง่าย โมโหร้าย เริ่มแยกตัว และเงียบขรึม

ระดับที่ 3 – เด็กไม่มีสมาธิเรียน ไม่อยากไปเรียน ผลการเรียนตกต่ำ มีอาการซึมเศร้า ร่างกายเหนื่อยล้า

 

สังเกตลูกมีภาวะเครียดจากการนอน

– ลูกนอนหลับยาก นอนดึก

– ละเมอ ตื่นกลางดึก

– หายใจเสียงดัง พลิกตัวบ่อยขณะนอน

– ไม่อยากตื่น ตื่นยาก ง่วงซึม และงัวเงีย

 

หากลูกมีอาการเหล่านี้สะสม เด็กอาจจะกำลังเครียดในระดับที่ 1 ได้ หากพ่อแม่สามารถแก้ปัญหาที่สาเหตุได้ก็จะทำให้ลูกไม่ต้องเครียดในระดับที่ 2 – 3 เพราะอาจจะส่งผลต่อการใช้ชีวิตของลูก โดยเฉพาะการเรียนรู้และการเข้าสังคมแก้ปัญหาลูกเครียดด้วยวิธีเหล่านี้

 

1. ส่งเสริมบรรยากาศการนอนให้ลูก

การนอนสำหรับเด็กถือเป็นสิ่งสำคัญมาก นอกจากจะจำเป็นต่อการเจริญเติบโตของร่างกายแล้ว การนอนยังสามารถลดภาวะเครียดให้เด็กได้เป็นอย่างดี หากเด็กได้นอนหลับอย่างเต็มอิ่มและมีคุณภาพจะช่วยลดความเครียดมาก แนะนำพ่อแม่ให้ลูกรับประทานสารสกัดจากข้าวบาร์เล่ย์ญี่ปุ่น (GABA) จะช่วยให้ลูกหลับได้ดี มีสมาธิ ทั้งยังช่วยพัฒนาการด้านสมองและประสาทอีกด้วย

 

2. ไม่กดดัน ไม่ตำหนิ เป็นที่ปรึกษาให้ลูกอย่างเปิดใจ

เมื่อพ่อแม่สังเกตเห็นพฤติกรรมของลูกเปลี่ยนไป ให้พ่อแม่ทำตัวเป็นที่ปรึกษาที่ดีให้ลูกสามารถพูดคุยเรื่องที่กังวลได้ เพราะอาจจะเป็นเรื่องการเรียนที่ลูกถูกครูหรือตัวเองกดดัน พ่อแม่ควรให้กำลังใจ หรือเรื่องที่ถูกเพื่อนรังแก ก็ควรให้โอกาสที่ลูกจะได้ขอคำแนะนำ หรือปรึกษาคุณครูเพื่อหาทางออกร่วมกัน

 

3. ให้เวลากับลูกมากขึ้น พร้อมกับให้ทานอาหารและสารสกัดที่มีประโยชน์

พ่อแม่ไม่ควรละเลยและมองเรื่องความเครียดเล็กน้อยของเด็กเป็นเรื่องไร้สาระหรือเป็นเรื่องของเด็ก ควรให้เวลากับลูกมากขึ้น สร้างช่วงเวลาแห่งครอบครัว และแสดงออกถึงความรักและความอบอุ่น เพราะให้ครอบครัวเป็นที่พึ่งและพื้นที่ปลอดภัยให้พวกเขา นอกจากนี้พ่อแม่ยังสามารถให้ลูกรับประทานสารสกัดที่มีประโยชน์ต่อร่างกายได้ เช่น สารสกัดจาก GOS เพื่อช่วยเรื่องการขับถ่าย จะได้ลดความเครียดและอารมณ์ดี, สารสกัดจากเบต้ากลูแคน ช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง, สารสกัดจากเอลเดอร์เบอร์รีและอะเซโรลา เชอร์รี ป้องกันหวัดและอาการป่วยต่าง ๆ รวมไปถึง Omega 3 หรือน้ำมันปลา ช่วยเรื่องพัฒนาการทางสมองและการเรียนรู้ให้ลูกได้ดียิ่งขึ้น

Leave a comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *

TOP