ชวนสังเกต “ลูกภูมิคุ้มกันตก”​ มีอาการและจะดูแลลูกอย่างไร?

ภูมิคุ้มกันตก

เวลาลูกป่วยทีไรคนเป็นพ่อแม่รู้สึกแย่ยิ่งกว่าป่วยเอง นั่นเพราะความเป็นห่วงและกลัวว่าลูกจะมีอาการรุนแรง หากเลือกได้ก็ไม่มีพ่อแม่คนไหนอยากเห็นลูกเจ็บป่วยจริงไหมครับ? ส่วนหนึ่งก็เพราะเด็กยังมีความเปราะบางทางภูมิคุ้มกัน เพราะระบบร่างกายยังไม่เจริญเติบโตเต็มที่ จึงทำให้เวลาป่วยพ่อแม่จะกังวล เพราะมีโอกาสที่จะป่วยหนักได้แม้จะเป็นโรคธรรมดาอย่างไข้หวัดก็ตาม วันนี้ชวนพ่อแม่ป้องกันลูกภูมิตกและป่วยง่ายกันครับ

ภูมิคุ้มกันตกในเด็กเกิดจากอะไรได้บ้าง?

กระบวนการสร้างภูมิคุ้มกันของเด็กจะเกิดขึ้นตั้งแต่เป็นทารกในครรภ์ โดยได้รับแอนติบอดีจากแม่ ซึ่งหากแม่แข็งแรงมากแอนติบอดีที่ทารกจะได้รับไปก็จะยิ่งแข็งแรงตามไปด้วย ซึ่งพอเด็กคลอดภูมิคุ้มกันก็จะถูกส่งผ่านน้ำนมแม่หากแม่สามารถให้นมลูกได้ร่างกายของเด็กก็จะค่อย ๆ สร้างกลไกของระบบภูมิคุ้มกัน แต่ระหว่างนี้พ่อแม่ก็จะต้องพาไปรับวัคซีนเพื่อกระตุ้นให้ร่างกายรู้จักกับเชื้อโรคและสร้างระบบภูมิคุ้มกันของตัวเองได้ดียิ่งขึ้น แต่ทั้งหมดทั้งมวลนั้นจะต้องขึ้นอยู่กับการดูแลเลี้ยงดู อาหาร การนอนหลับ สภาพแวดล้อมที่อยู่อาศัย ความเครียดของเด็ก เพราะสิ่งเหล่านี้สามารถทำให้เด็กภูมิตกได้ทั้งนั้น

ตัวอย่างที่เห็นเด่นชัด เช่น เวลาเด็กตากฝน การโดนละอองฝนเล็กน้อยอาจจะทำให้เด็กเป็นหวัดหรือเป็นไข้ได้ สาเหตุมาจากร่างกายของพวกเขายังไม่สามารถปรับเปลี่ยนอุณหภูมิร่างกายได้ทัน เมื่อโดนอากาศเปลี่ยนแปลงกะทันหันอาจจะทำให้ภูมิคุ้มกันไม่สามารถปกป้องพวกเขาได้ทันท่วงที และไม่กี่ชั่วโมงต่อมาก็อาจจะป่วยได้ หรือช่วงเวลาที่เด็กมีความเครียด จากภาวะกดดันจากการเรียน การเข้าสังคม ความสัมพันธ์ระหว่างครอบครัว สภาพจิตใจอ่อนแอก็อาจจะทำให้พวกเขานอนหลับได้ไม่สนิท จนสะสมแล้วป่วยได้ในที่สุด ความเปราะบางของวัยเด็กภูมิคุ้มกันจึงเป็นสิ่งที่มีค่าและจำเป็นต่อการเจริญเติบโตอย่างมาก

เราจะสังเกตลูกว่าภูมิคุ้มกันตกได้อย่างไร?

ปัจจุบันมีเครื่องมือทางการแพทย์ที่สามารถตรวจภูมิคุ้มกันในร่างกายได้ โดยค้นหาค่าลิมโฟไซต์ ซึ่งระดับปกติจะอยู่ที่ 1,000 – 4,800 ลิมโฟไซต์ ต่อปริมาณเลือดทุก ๆ 1 ไมโครลิตร ส่วนในเด็กนั้นจะมีลิมโฟไซต์อยู่ระหว่าง 3,000 ถึง 9,500 ลิมโฟไซต์ ต่อปริมาณเลือดทุกๆ 1 ไมโครลิตร แต่การตรวจก็เป็นเพียงผลระยะสั้นเท่านั้น พ่อแม่ต้องหมั่นสังเกตอาการลูกดังนี้

– ดูอ่อนเพลีย ง่วงซึม ตื่นยาก

– เป็นหวัดบ่อย แม้สภาพแวดล้อมจะไม่เปลี่ยน

– เบื่ออาหาร แม้แต่อาหารจานโปรดก็ไม่อยากทาน

– ท้องเสีย ท้องร่วง หรือท้องผูก

สำหรับเด็กทารกแม่ที่สามารถให้นมลูกได้ควรให้ลูกดื่มนมแม่ เพราะในนมแม่มีพรีไบโอติกส์ ที่ช่วยกระตุ้นการสร้างภูมิคุ้มกันได้ดี ช่วยเรื่องการขับถ่าย ลดการท้องผูกและท้องเสีย สำหรับเด็กวัยกำลังเรียนรู้สามารถให้รับประทานสารสกัด GOS ได้เช่นกันเพราะเป็รพรีไบโอติกส์ ที่มีโครงสร้างคล้ายกันกับน้ำนมแม่ หรือรับประทานสารสกัดจากเบต้ากลูแคน ควบคู่กันไปด้วย เพื่อกระตุ้นให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกัน โดยไม่ต้องให้ลูกป่วย ทั้งยังป้องกันการเป็นหวัด ลดความเสี่ยงที่ร่างกายจะถูกกระตุ้นจากสิ่งเร้า โดยเฉพาะสิ่งแปลกปลอมที่เด็กรับมือได้อย่าง อย่าง เชื้อโรค แบคทีเรีย และไวรัสต่าง ๆ การมีภูมิคุ้มกันที่เข้มแข็งอยู่เสมอจะปกป้องเด็ก ๆ ได้เป็นอย่างดี

Leave a comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *

TOP