คำพูดติดปากเวลาเห็นเด็ก ๆ มีแผลพุพอง หรือแผลหายแล้วทิ้งรอยดำไว้ตามที่ส่วนต่าง ๆ ของร่างกายว่า “น้ำเหลืองไม่ดี” คนเป็นพ่อเป็นแม่ได้ยินแบบนี้ก็คงไม่สบายใจใช่ไหมครับ ภาวะน้ำเหลืองไม่ดีเช่นนี้จริง ๆ ไม่ได้เกิดจากปัจจัยภายในอย่างเดียว ยังเกี่ยวกับปัจจัยภายนอกด้วย วันนี้ชวนพ่อแม่ทำความรู้จักกับโรคนี้ และการป้องกันอย่างมีประสิทธิภาพด้วยการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันกันครับ

น้ำเหลืองไม่ดีคืออะไร?

เป็นภาวะหนึ่งที่มีการติดเชื้อที่ผิวหนัง มักเกิดจากเชื้อแบคทีเรีย ซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคนไม่ว่าจะเด็กหรือผู้ใหญ่ เพียงแต่จะพบในเด็กมากกว่าเพราะภูมิคุ้มกันของเด็กยังพัฒนาไม่สมบูรณ์นัก โดยมี 2 ปัจจัยด้วยกันที่ทำให้เกิดภาวะติดเชื้อที่ผิวหนัง หรือ น้ำเหลืองไม่ดี ได้แก่

1. ปัจจัยภายนอก การที่เด็กไปสัมผัสสิ่งของที่มีเชื้อแบคทีเรียปะปนอยู่ ไม่ว่าจะเป็นดิน ทราย พงหญ้า แมลงกัดต่อย แล้วเกิดการถลอก มีรอยแผล เชื้อโรคก็จะเข้าสู่ร่างกายได้

2. ปัจจัยภายใน ระบบภูมิคุ้มกันของเด็กยังแข็งแรงไม่พอ และภูมิคุ้มกันในร่างกายอาจจะยังไม่เคยรู้จักกับแบคทีเรียชนิดนี้มาก่อน จึงทำให้ไม่สามารถสร้างกลไกมาปกป้อง และกำจัดเชื้อแบคทีเรียชนิดนี้ได้

อาการหากติดเชื้อที่ผิวหนังที่พ่อแม่ต้องสังเกต

– บริเวณผิวหนังมีตุ่ม ผื่นแดง และอาจจะกระจายตัวไปตามบริเวณอื่น ๆ

– คัน แสบ ยิ่งเกาจะยิ่งลุกลาม

– เมื่อแผลแห้งจะกลายเป็นสะเก็ดสีเหลือง และเปลี่ยนเป็นสีดำ

– บริเวณแผลที่หายแล้วอาจจะกลายเป็นแผลเป็นได้

การรักษาน้ำเหลืองไม่ดี หายได้หากไม่ละเลย

หากสังเกตเห็นลูกมีอาการดังกล่าว พ่อแม่จะต้องรีบพาลูกไปหาหมอ เพื่อเข้ารับการรักษา โดยแพทย์จะทำการวินิจฉัยและให้ยาปฏิชีวนะเพื่อช่วยยับยั้งการเติบโตของเชื้อแบคทีเรีย รวมไปถึงยาทาบริเวณแผล เพื่อช่วยบรรเทาอาการคันและลุกลาม โดยในช่วงนี้พ่อแม่จะต้องเอาใจใส่ลูกเป็นพิเศษเนื่องจากลูกจะงอแงเพราะทรมานจากอาการคันและแสบบริเวณผิว ต้องใจเย็น ๆ นะครับ เพราะภาวะนี้หากรักษาให้ดีก็จะหายดีได้

ป้องกันน้ำเหลืองไม่ดีด้วยการเพิ่มภูมิคุ้มกันให้ลูก

ทางหนึ่งที่จะป้องกันภาวะติดเชื้อที่ผิวหนังได้คือต้องสร้างเกราะป้องกันให้เด็ก ๆ ให้เขามีภูมิคุ้มกันที่แข็งแรง สามารถปกป้องจากสิ่งแปลกปลอมอย่างไวรัส แบคทีเรีย ปรสิตต่าง ๆ ได้ ซึ่งหนึ่งในวิธีที่ได้ประสิทธิภาพและปลอดภัยคือการเลือกรับประทานสารสกัด เช่น เบต้ากลูแคน, สารสกัดจากน้ำมันปลา (โอเมก้า 3), สารสกัดกาแลกโต โอลิโกแซ็กคาไรด์ (GOS), สารสกัดจากเอลเดอร์เบอร์รี รวมถึง สารสกัดจากข้าวบาเล่ย์ญี่ปุ่น (GABA) ซึ่งเด็ก ๆ ทานได้ทุกวันหลังรับประทานอาหาร ช่วยป้องกันหวัด การติดเชื้อ รวมไปถึงลดการอักเสบของเนื้อเยื่อได้ดีด้วย ซึ่งเบต้ากลูแคนจะเข้าไปทำงานกับเซลล์เม็ดเลือดขาวโดยตรง ทำให้กลไกการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันของเด็กพัฒนาและพร้อมที่จะดูแลและปกป้องเด็ก ๆ ได้อย่างดีขึ้น