เมื่อ Work Life ไร้ Balance จะเกิดอะไร!!

Balance

โหมงานหนักไม่พัก เสี่ยงโรคหัวใจ

การขยันทำงาน ถือเป็นเรื่องที่ดีครับ  เพราะแสดงถึงการรู้จักหน้าที่และมีความรับผิดชอบ แต่ถ้าหากความขยันของคุณนั้นมีเกินความพอดี ไม่มี Work Life Balance ก็จะส่งเสียต่อตัวคุณเองได้เช่นกัน โดยเฉพาะเรื่องสุขภาพ 

หลายๆ คนคิดว่า ค่อยมานอนพักชดเชยในวันหยุดแทนได้นั้น ไม่เป็นความจริงครับ เพราะมีผลการศึกษาจากคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัย Johns Hopkins ยืนยันแล้วว่า การนอนไม่เพียงพอระหว่างสัปดาห์ และกักตุนมานอนชดเชยในช่วงวันหยุดแทนนั้น “ไม่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายแต่อย่างใด”  เพราะนอกจากจะไม่ช่วยแก้ปัญหาการพักผ่อนไม่พอแล้ว ยังจะเพิ่มความเสี่ยงเรื่องความอ้วน โรคเบาหวาน รวมทั้งความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ และอื่นๆ ได้ด้วย

อีกทั้งทำงานต่อเนื่องไม่ได้พัก ทำงานหนักเกินไป เสี่ยงเป็นโรคหัวใจอีกด้วย

งานวิจัยในวารสาร Annals of Internal Medicine ระบุว่า “ผู้ที่ทำงานต่อเนื่องกว่า 11 ชั่วโมงต่อวัน มีโอกาสที่จะเป็นโรคหัวใจมากกว่าผู้ที่ทำงาน 7-8 ชั่วโมงต่อวัน” เรียกได้ว่ายิ่งทำงานมาก ก็ยิ่งเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นโรคหัวใจมาก

โดยงานวิจัยนี้ใช้เวลานานถึง 12 ปี คอยติดตามคนทำงาน 7,000 คน ผลที่ออกมาสรุปได้ว่า ผู้ที่ทำงานอย่างต่ำ 11 ชั่วโมงต่อวัน มีโอกาสเป็นโรคหัวใจล้มเหลวมากกว่าผู้ที่ทำงานต่ำกว่า 8 ชั่วโมง นอกจากนี้ยังมีปัญหาเกี่ยวกับระบบการเผาผลาญ พ่วงด้วยอาการนอนไม่หลับอีกด้วย

ยังมีข้อมูลจาก คณะเวชศาสตร์ป้องกัน มหาวิทยาลัยแห่งชาติโซล เกาหลีใต้ ที่ได้ตีพิมพ์ลงบทความในวารสาร “เวชศาสตร์อุตสาหกรรมอเมริกัน” สรุปได้ว่า

ผู้ที่ทำงาน 61-70 ชม./สัปดาห์ จะมีโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดโรคสูงกว่าปกติร้อยละ 42

ผู้ที่ทำงาน 71-80 ชม./สัปดาห์ จะมีโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดโรคสูงกว่าปกติร้อยละ 63

ผู้ที่ทำงานมากกว่า 80 ชม./สัปดาห์ จะเสี่ยงมากถึงร้อยละ 90 หรือเกือบเท่าตัวครับ

สำหรับใครที่กำลังขยันทำงานมากเกินไป และรู้สึกว่า Work Life ไม่ Balance รวมถึงมีสัญญาณเตือนจากร่างกายระหว่างการทำงาน อาทิ  แน่นหน้าอก ปวดแขน ปวดต้นคอ ใจสั่น หัวใจเต้นเร็วกว่าปกติ หายใจไม่ทัน และเหนื่อยง่าย แนะนำว่าควรหยุดพักจากทำงาน แล้วรีบไปพบแพทย์โดยด่วน เพราะอาจร้ายแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้นะครับ

วันนี้ YOUR Beta Glucan ทีวิธีที่จะช่วยปรับสมดุลให้ชีวิตมาฝากกันครับ

1. บริหารเวลาอย่างมีประสิทธิภาพ

ทุกคนมีเวลา 24 ชั่วโมงเท่ากันแต่จะจัดสรรอย่างไรให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดดังนั้น เราควรวางแผนเวลาของเราให้ดี หาวิธีการทำงานที่จะได้ผลลัพธ์ที่มีคุณภาพในเวลาที่รวดเร็ว ตั้งเป้าหมายให้ชัดเจนก่อนว่าจะต้องทำอะไรให้เสร็จภายในเมื่อไร เพื่อที่ว่าจะได้มีเวลาเอาไปทำอย่างอื่น เช่น ใช้เวลากับตัวเอง ใช้เวลากับครอบครัว เป็นต้น

2. ดูแลสุขภาพกายและใจให้แข็งแรง

ยิ่งงานหนัก เรายิ่งต้องใส่ใจกับอาหารการกินของตัวเองมากขึ้น เลือกทานอาหารที่มีประโยชน์ นอนหลับให้เพียงพอ และออกกำลังกายเป็นประจำอย่างน้อย 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์ เพราะการออกกำลังกายนี่จะช่วยลดความเครียด และเราจะรู้สึกดีกับตัวเองมากขึ้นเมื่อร่างกายเราแข็งแรงขึ้น เราก็จะมีความมั่นใจในตัวเองมากขึ้นด้วย

3. อาหารเสริมเป็นตัวช่วย

การเลือกอาหารเสริมที่ถูก เปรียบเสมือนคุณได้ตัวช่วยที่ดีในชีวิตครับ สำหรับผู้ที่ทำงานหนัก ขอแนะนำให้เสริมด้วยอาหารเสริมประเภทเบต้ากลูแคน เนื่องจากคนที่พักผ่อนน้อย เครียดสะสมจากการทำงาน จะส่งผลให้เกิดความเจ็บป่วย หรือติดเชื้อได้ง่าย ภูมิคุ้มกันต่ำ และเป็นไมเกรน สิ่งเหล่านี้ เบต้ากลูแคนสามารถช่วยขจัดให้หมดไปอย่างได้ผล เพราะเบต้ากลูแคนจะช่วยเพิ่มภูมิต้านทานให้เข้มแข็ง และทำให้ร่างกายของเราหายเหนื่อยล้า ส่งผลให้ความเครียดลดลง ลดอาการปวดหัว และจิตใจสดชื่นแจ่มใสขึ้นได้อีกครั้ง

อีกทั้งยังช่วยให้คอเลสเตอรอลในเลือดลดลงได้ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งวิธีในการลดความเสี่ยงของโรคไขมันอุดตันในหลอดเลือดแดง ทำให้เลือดไหลเวียนไปเลี้ยงหัวใจได้สะดวก ป้องกันความเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจอย่างได้ผล

4. ชีวิตต้องมีเรื่องอื่นที่ไม่ใช่งานอย่างเดียว

ในชีวิตเราต้องมีกิจกรรมอย่างอื่นทำนอกเหนือจากงานบ้างครับ โดยเฉพาะคนที่ทำงานหนักมากๆ ควรหาโอกาสลดความเครียดด้วยกิจกรรมอื่นๆ เช่น ดูหนัง อ่านหนังสือ ออกกำลังกาย ไปเที่ยวต่างจังหวัด หางานอดิเรกที่จะช่วยเราผ่อนคลายความเครียด สร้างชีวิตชีวาให้ตัวเอง

YOUR Beta Glucan ขอเอาใจช่วยให้ทุกคนหาความสมดุลระหว่างชีวิตทำงานและชีวิตของตัวเองให้เจอ พร้อมกับมีสุขภาพที่ดีในทุกๆ วันนะครับ

Leave a comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *

TOP