ภาพลักษณ์ของเด็กอ้วนมักจะเป็นที่ถูกอกถูกใจ และสร้างความน่าเอ็นดูให้ทั้งพ่อแม่ ญาติ และผู้พบเห็น แต่รู้หรือไม่ว่าพ่อแม่กำลังทำร้ายลูกทางอ้อมอยู่ เพราะความน่ารักของเด็กที่มีรูปร่างมีอันตรายที่แฝงอยู่ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาทางสุขภาพร่างกายหรือจิตใจ ความอ้วนในเด็กถือเป็นปัญหาที่ควรได้รับการดูแลและแก้ไขอย่างจริงจัง มาดูกันว่าอันตรายที่พ่อแม่ยื่นให้เด็กน้อยนั้นมาอะไรบ้าง และทำไมถึงควรแก้ปัญหาอย่างจริงจัง

แบบไหนถึงเรียกว่าเด็กอ้วน

การเจริญเติบโตของเด็กมีเกณฑ์มาตรฐานในการวัด สำหรับเกณฑ์น้ำหนักปกติตามการเจริญเติบโตที่พ่อแม่สามารถคำนวณได้ หากน้อยกว่าหรือมากกว่าเกณฑ์ให้สังเกตว่าลูกจะมีร่างกายที่อ้วนท้วมขึ้นหรือไม่

1. สูตรคำนวณน้ำหนักเด็ก อายุ 7-12 ปี น้ำหนัก (กก.) = (อายุ(ปี)คูณ 7)-5 หาร 2

เช่น อายุ 9 ปี น้ำหนัก (กก.) = (9 คูณ 7)-5 หาร 2 = 29 กก. น้ำหนักมาตรฐานในช่วงอายุ 9 ปี ควรอยู่ที่ประมาณ 29 กิโลกรัม

2. สูตรความสูงตามอายุ อายุ2-12ปี ความสูง(ซม.)=(6 คูณ อายุ(ปี))+77

เช่น อายุ 9 ปี ส่วนสูงมาตรฐานควรอยู่ที่ 131 เซนติเมตร

สาเหตุของภาวะอ้วนในเด็ก

1. การบริโภคอาหารที่ไม่สมดุล โดยเฉพาะการรับประทานอาหารที่มีแคลอรีสูง เช่น ขนมหวาน อาหารจานด่วน และเครื่องดื่มน้ำตาลสูง

2. การขาดการออกกำลังกายหรือทำกิจกรรมที่เหมาะสมกับช่วงวัย เพราะพ่อแม่ให้ลูกใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการดูโทรทัศน์ เล่นเกมคอมพิวเตอร์ และใช้สมาร์ตโฟน ซึ่งทำให้ลูกแทบจะไม่ขยับตัว

3. ปัจจัยทางพันธุกรรม หากพ่อแม่หรือสมาชิกในครอบครัวมีปัญหาเรื่องน้ำหนักเกิน เด็กก็มีโอกาสสูงที่จะเป็นเช่นกัน แต่พ่อแม่สามารถปรับพฤติกรรมการกินของลูกได้ก่อนเข้าสู่ภาวะอ้วน

อันตรายที่แฝงมากับความอ้วนในเด็ก

ปัญหาด้านร่างกายและสุขภาพ

โดยเฉพาะโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ซึ่งเกิดจากปัจจัยและพฤติกรรมการกินโดยเฉพาะ ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดที่ไม่สมดุล เสี่ยงที่จะทำให้ฮอร์โมนอินซูลินในร่างกายทำงานผิดปกติไปด้วย ไม่เพียงเท่านี้ การสะสมของไขมันในร่างกายทำให้มีความเสี่ยงต่อโรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง และโรคหลอดเลือดหัวใจในเด็กได้ ที่น่าเป็นกังวลกว่านั้นเด็กอ้วนมีโอกาสสูงที่จะเป็นโรคหยุดหายใจขณะหลับ (sleep apnea) และปัญหาการหายใจอื่น ๆ และการที่มีสภาพร่างกายที่อ้วน จึงมักมีปัญหาเรื่องการเคลื่อนไหว การเล่นกีฬา หรือการทำกิจกรรมที่ต้องใช้พลังงาน ทำให้ขาดโอกาสในการพัฒนากล้ามเนื้อและทักษะต่าง ๆ

ปัญหาทางจิตใจ

เด็กที่อ้วนนั้นมักจะเผชิญกับการถูกเยาะเย้ยและกดดันจากเพื่อน ทำให้เกิดความเครียด ความวิตกกังวล และการขาดความมั่นใจในตนเอง มีความเสี่ยงสูงที่จะเป็นโรคซึมเศร้าและปัญหาทางจิตใจอื่น ๆ โดยเฉพาะกับเด็กที่เริ่มโต และเริ่มเรียนรู้ความแตกต่างทางด้านร่างกายของตัวเองและเพื่อน ยิ่งทำให้เกิดความไม่พอใจกับสภาพร่างกายของตนเอง พ่อแม่ต้องหมั่นสังเกต และเข้าช่วยเหลือลูก เพราะสิ่งนี้จะปมด้อยทำให้เด็กขาดความมั่นใจไปจนโตได้

พ่อแม่ต้องปรับวิธีคิด พฤติกรรม และช่วยเหลือลูก

พ่อแม่ควรเป็นตัวอย่างที่ดีในการเลือกรับประทานอาหารและการออกกำลังกาย ให้กำลังใจและสนับสนุนเด็กในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินและการออกกำลังกาย เพราะเด็กมีพ่อแม่เป็นตัวอย่าง พ่อแม่ทานอะไร ชอบหรือไม่ชอบทานอะไร ก็มักจะเห็นจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตของพ่อแม่ หากอยากให้ลูกมีสุขภาพที่ดีทั้งร่างกายและจิตใจพ่อแม่ต้องปรับวิธีคิด และวิถีชีวิตตัวเองให้สอดคล้องกับลูกด้วยเช่นกัน

พ่อแม่ต้องส่งเสริมให้ลูกทานอาหารที่มีประโยชน์ มีโภชนาการที่เหมาะสมตามวัย สนับสนุนการทำกิจกรรมต่าง ๆ รวมถึงการส่งเสริมให้ลูกทานสารสกัดที่เหมาะสมกับสุขภาพลูกด้วย เช่น สารสกัดจากเบต้ากลูแคน (Beta Glucan) ถือเป็นหนึ่งในสารสกัดที่เสริมสร้างกลไกในการสร้างภูมิคุ้มกันได้มีประสิทธิภาพมากที่สุด นอกจากจะเข้าไปกระตุ้นให้เม็ดเลือดขาวทำงานได้ดีขึ้นแล้ว เบต้ากลูแคน (Beta Glucan) ยังสามารถช่วยลดน้ำตาลในเลือด ช่วยเรื่องการควบคุมน้ำหนัก มีสารต้านอนุมูลอิสระมากมายที่เหมาะกับเด็ก หรือสารสกัด GOS ที่เป็นพรีไบโอติกส์ชนิดหนึ่งที่ช่วยเรื่องการขับถ่ายในเด็ก เพราะการขับถ่ายสำหรับเด็กถือเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างมาก หากเด็ก ๆ ขับถ่ายได้ดีก็จะอารมณ์ดีพร้อมที่จะไปทำกิจกรรมได้มากมาย

ความน่ารักของเด็กที่มีรูปร่างอ้วนไม่ควรทำให้เรามองข้ามความอันตรายที่แฝงอยู่ การดูแลและป้องกันความอ้วนในเด็กไม่เพียงแต่ช่วยให้เด็กมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง แต่ยังส่งเสริมสุขภาพจิตใจและการพัฒนาทักษะต่าง ๆ อย่างมีคุณภาพอีกด้วย การร่วมมือกันระหว่างพ่อแม่ ครู และผู้ดูแลเด็กเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้เด็กเจริญเติบโตอย่างมีสุขภาพดีและมีความสุขในชีวิตประจำวัน หากสนใจสารสกัดที่เหมาะกับลูก ติดต่อทีม YOUR เพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ทาง Inbox m.me/yourofficialthailand หรือ Line : @Yourthailand