จามติดต่อกันเป็นวัน ๆ น้ำมูกไหล ดวงตาล้า รู้สึกอ่อนเพลีย คล้ายจะมีไข้ แต่พอได้พักผ่อนก็อาการดีขึ้น ที่สำคัญอาการเหล่านี้ไม่เคยเป็นเลยทั้งชีวิต ไม่ได้มีประวัติภูมิแพ้ และเกิดขึ้นในวัยผู้ใหญ่ นี่อาจจะเป็นสัญญาณของ “ภาวะจมูกไว” ที่คล้ายภูมิแพ้แต่ไม่ใช่ มาดูกันว่าโรคนี้คืออะไรและมีวิธีการป้องกันอย่างไร
ภาวะจมูกไว คืออะไร?
ภาวะจมูกไว หรือที่เรียกว่า Non-Allergic Rhinitis (NAR) เป็นอาการที่คล้ายกับโรคภูมิแพ้ทางจมูก (Allergic Rhinitis) แต่เกิดจากสาเหตุที่ไม่เกี่ยวข้องกับภูมิคุ้มกันของร่างกาย คนที่มีภาวะนี้จะมีอาการคล้ายกับโรคภูมิแพ้ เช่น น้ำมูกไหล คัดจมูก จาม และคันจมูก แต่ไม่ได้เกิดจากการแพ้สารก่อภูมิแพ้เช่น ฝุ่นละออง เกสรดอกไม้ หรือสารเคมีบางชนิด
สาเหตุของภาวะจมูกไว
ภาวะจมูกไวสามารถเกิดจากหลายสาเหตุที่ไม่เกี่ยวข้องกับการแพ้ โดยทั่วไปแล้วแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มใหญ่คือ
1. สาเหตุที่เกิดจากปัจจัยทางกายภาพและเคมี
– การเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิหรือความชื้น
– กลิ่นแรง เช่น น้ำหอม สารเคมีในผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด
– มลพิษทางอากาศ เช่น ควันบุหรี่ ฝุ่นละออง
– การรับประทานอาหารเผ็ดหรือร้อน
2. สาเหตุที่เกิดจากปัจจัยภายในร่างกาย
– การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน เช่น ระหว่างการตั้งครรภ์ หรือการเปลี่ยนแปลงในรอบเดือนของผู้หญิง
– การใช้ยาบางชนิด เช่น ยาลดความดันโลหิต ยาคุมกำเนิด
– ความเครียดและความตึงเครียดทางจิตใจ
– อาการของภาวะจมูกไว
แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าเป็นภาวะจมูกไว หรือ ภูมิแพ้ทางจมูก
การทดสอบภาวะจมูกไวทำได้โดยการตรวจสอบประวัติสุขภาพและอาการของที่เกิดขึ้น โดยอาศัยการทดสอบภูมิแพ้อาการอักเสบของโพรงจมูก เพื่อยืนยันว่าอาการไม่ได้เกิดจากการแพ้ หากผลการทดสอบไม่พบการแพ้สารก่อภูมิแพ้ใด ๆ แพทย์อาจวินิจฉัยว่าเป็น “ภาวะจมูกไว”
การรักษา
1. การใช้ยา ยาลดการอักเสบ ยาลดน้ำมูก หรือยาสเตียรอยด์พ่นจมูก
2. การหลีกเลี่ยงปัจจัยกระตุ้น เช่น กลิ่นแรง มลพิษทางอากาศ
3. การใช้เครื่องกรองอากาศในบ้านเพื่อช่วยลดมลพิษในอากาศ
4. การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิต เช่น ลดความเครียด หลีกเลี่ยงอาหารที่กระตุ้นอาการ
โรคภาวะจมูกไวต้องดูแลตัวเอง และป้องกันอย่างไร?
สิ่งสำคัญคือรักษาสุขภาพจมูกโดยการล้างจมูกด้วยน้ำเกลือเพื่อลดการสะสมของมลพิษและสารเคมี ควรปรับสภาพแวดล้อมในบ้านให้มีความชื้นที่เหมาะสมและปราศจากมลพิษ โดยติดตั้งเครื่องวัดความชื้นหรือเครื่องกรองอากาศเพื่อสร้างสภาพแวดล้อมให้เหมาะกับการอยู่อาศัย โดยเฉพาะห้องที่ใช้เวลามากที่สุดอย่างห้องนอน ที่สำคัญการดูแลตัวเองให้แข็งแรงอยู่เสมอหรือการมีภูมิคุ้มกันที่แข็งแรงอยู่เสมอคือสิ่งจำเป็น โดยเฉพาะในวัยผู้ใหญ่ เพราะยิ่งอายุมากขึ้น ทำงานหนัก พักผ่อนน้อย ก็มีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคต่าง ๆ ได้ง่าย
ฉะนั้นการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันด้วยเบต้ากลูแคน (Beta Glucan) จะช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ติดต่อทีม YOUR เพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ทาง Inbox m.me/yourofficialthailand หรือ Line : @Yourthailand