ฉีดวัคซีนแล้วก็ติดได้ ต้องดูแลร่างกายให้มีภูมิแข็งแรง

ฉีดวัคซีน

อย่างที่ทราบกันนะครับว่าแม้จะฉีดวัคซีนแล้วก็ยังมีโอกาสติดเชื้อโควิด-19 ได้ เนื่องจากยังไม่มีวัคซีนชนิดใดที่ป้องกันการติดเชื้อได้แบบ 100% เพราะไวรัสยังมีการกลายพันธุ์อย่างต่อเนื่องทำให้วัคซีนที่มีในปัจจุบันทำได้เพียงป้องกันและลดความเสี่ยงรวมถึงความรุนแรงจากการติดเชื้อเท่านั้น เรายังคงต้องดูแลตัวเองอย่างดีเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกายให้แข็งแรงอยู่เสมอ มาดูกันว่ามีวิธีไหนบ้าง

แม้ฉีดวัคซีนครบแล้วก็ยังต้องรักษามาตรการการป้องกันโควิด-19

เพราะการได้รับวัคซีนครบโดสแล้วก็ยังสามารถติดโควิด-19 ได้ ดังนั้นจึงต้องรักษามาตรการการป้องกันโควิด-19 เหมือนเดิม โดยการใส่หน้ากากอนามัยเมื่อออกนอกบ้านเสมอ หมั่นล้างมือบ่อย ๆ พกเจลแอลกอฮอล์หรือสเปรย์เพื่อทำความสะอาดเมื่อออกนอกบ้าน เว้นระยะห่างทางสังคม (social distancing)

เลือกทานอาหารและอาหารเสริมเพิ่มภูมิคุ้มกัน

อาหารการกินมีส่วนสำคัญอย่างมากในการกระตุ้นและเสริมภูมิคุ้มกัน นอกจากการเลือกรับประทานอาหารที่มีโยชน์และหลากหลาย อาหารบางชนิดก็ช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันได้ดี อย่างผักผลไม้ที่มีวิตามินซีสูง เช่น ส้ม ฝรั่ง กีวี่ ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ ผักคะน้า ปวยเล้ง บร็อกโคลี่ เป็นต้น หรือเนื้อสัตว์ก็มีส่วนช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกัน ซ่อมแซมร่างกายส่วนที่สึกหรอ เช่น ปลาทะเล ปลาน้ำจืดเนื้ออ่อน ไข่ไก่ เครื่องในสัตว์ หรือธัญพืชชนิดต่างๆ จะมีแร่ธาตุอย่างสังกะสีช่วยเรื่องภูมิคุ้มกันเช่นเดียวกัน

อาหารเสริมภูมิคุ้มกัน “เบต้ากลูแคน

ถือเป็นทางเลือกที่ช่วยเสริมสร้างและกระตุ้นการทำงานของภูมิคุ้มกันร่างกาย สามารถรับประทานได้ทุกวัน โดยเลือกเบต้ากลูแคนชนิดชนิด เบต้า 1,3/1,6 D-กลูแคน จะมีประสิทธิภาพสูงสุด และต้องสกัดจากธรรมชาติ 100% ทั้งยังมีสรรพคุณช่วยควบคุมคอเลสเตอรอล ต้านสารอนุมูลอิสระได้ด้วย

ออกกำลังกายสม่ำเสมอ

การออกกำลังกายเป็นการกระตุ้นให้เมตาบอลิซึมในร่างกายได้ทำงาน ดึงเอาพลังงานที่สะสมมาใช้ โดยเฉพาะช่วงกักตัว ทำงานที่บ้านนานๆ ขยับตัวน้อย ไขมันก็สะสมได้ตามส่วนต่างๆ ของร่างกายได้มากขึ้น การออกกำลังกายง่ายๆ ด้วยการคาร์ดิโอ วิ่ง เดินเร็ว หรือปั่นจักรยาน จะช่วยกระตุ้นให้ร่างกายเอาไขมันมาใช้ ช่วยบริหารปอดและเป็นการกระตุ้นภูมิคุ้มกันของร่างกายได้ดี

ลดความเครียดและพักผ่อนให้เพียงพอ

ความเครียดถือเป็นอีกปัจจัยที่ทำให้ภูมิคุ้มกันลดลงได้อย่างรวดเร็ว เพราะภาวะความเครียดจะทำให้ร่างกายอ่อนแอ เหนื่อยล้า นอนไม่หลับ หลายคนที่ต้องทำงานที่บ้านติดต่อกันเป็นเวลานานอาจจะเกิดความเครียดสะสมไม่รู้ตัว ต้องรับมือและจัดการกับความเครียดที่เกิดขึ้นให้ได้ทันท่วงที เพื่อป้องกันปัญหาด้านสุขภาพจิตเรื้อรัง โดยแบ่งเวลาทำงานและพักผ่อนให้ชัดเจน ทานอาหารให้ตรงเวลา เลือกทานของที่มีประโยชน์ หากิจกรรมยามว่างที่ชอบทำหลังเลิกงาน นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ เลี่ยงการนอนดึก

แม้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 จะคลี่คลายลงบ้าง แต่อย่างไรสถานการณ์ก็ยังคงน่าเป็นห่วง การดูแลตัวเองให้แข็งแรงอยู่เสมอ ก็จะทำให้เราปลอดภัยจากการติดเชื้อได้นะครับ

Leave a comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *

TOP