เบื่อแล้วอาหารคลีน มาดูเทรนด์อาหารลดน้ำหนักตอนนี้กัน
การเลือกทานอาหารที่มีประโยชน์ควบคู่กับการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ถือเป็นเรื่องที่ถูกต้องที่สุดในการคุมน้ำหนักและดูแลตัวเองครับ วันนี้ YOUR Beta Glucan จึงมีเทรนด์อาหารเพื่อคนรักสุขภาพทั้ง 5 ประเภทมาแบ่งปันกันครับ
PALEO
Paleo diet คือการกินตามแบบฉบับของมนุษย์ยุคหิน สไตล์การกินแบบ Paleo diet เกิดขึ้นจากเหตุผลที่ว่าว่าร่างกายของมนุษย์ไม่เหมาะกับการกินอาหารแปรรูปเพราะทำให้เกิดปัญหาสุขภาพตามมา ทั้งโรคอ้วน เบาหวาน และโรคหัวใจนั่นเองครับ
การกินสไตล์นี้ จะเน้นตามคนยุคโบราณกินอาหารประเภทเนื้อสัตว์ไม่ผ่านการแปรรูป ไม่ติดมัน นิยมรับประทานปลา ถั่ว ผักและผลไม้ จะเน้นอาหารคาร์โบไฮเดรตต่ำแต่โปรตีนสูง ควบคู่กับการกินเนื้อสัตว์ไม่ติดมัน อาหารทะเล ผักออร์แกนิก ร่วมกับการดื่มน้ำและออกกำลังกายเป็นประจำ
โดยร่างกายจะดึงอาหารเหล่านี้มาใช้เป็นพลังงานทั้งหมดโดยไม่สะสม จึงทำให้สัดส่วนของเราลดลง เนื่องจากร่างกายดึงเอาไขมันสะสมเดิมออกมาใช้มากขึ้น เสริมสร้างกล้ามเนื้อมากขึ้น แล้วกล้ามเนื้อก็เป็นส่วนช่วยเผาผลาญไขมันที่ดีมาก ๆ ยิ่งกล้ามเนื้อเยอะยิ่งเผาผลาญดี เซลล์ไขมันก็จะยิ่งลดลง เป็นเงาตามตัว รวมทั้งปรับพฤติกรรมทำให้เราไม่อยากกินอาหารที่ไม่มีประโยชน์ต่อร่างกายตามซึ่งนับเป็นผลดีระยะยาว
อย่างไรก็ตามก็การกินแบบ Paleo diet ในระยะเวลาติดกันนานๆ อาจทำให้ได้รับโปรตีนมากเกินไปจึงอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพได้เช่นกันนะครับ
MEDITERRANEAN
Mediterranean เป็นสไตล์อาหารที่นิยมในแถบอิตาลี กรีก และสเปนช่วงคริสต์ศตวรรษ 1940-1950 เป็นการกินที่หลายคนเชื่อว่าจะทำให้ร่างกายรับสารอาหารเพียงพอ ช่วยทำให้อายุยืน โดยเน้นพืชตระกูลถั่ว ข้าวกล้อง ผัก แต่ละมื้อจะต้องมีไขมันดีจากน้ำมันมะกอก ส่วนอาหารที่นิยมรองลงมาคืออาหารทะเล ไก่ นม ชีส โยเกิร์ต ซึ่งบางมื้ออาจทานร่วมกับไวน์แดงก็ยังได้ แต่ยังมีเมนูต้องห้าม เช่น หลีกเลี่ยงการกินไข่ อาหารแปรรูปและของรสหวาน เป็นต้น
จากการวิจัยของ Harvard Medical กล่าวว่าการกินแบบ Mediterranean เป็นหนึ่งในวิธีที่ดีที่สุดสำหรับคนอยากลดน้ำหนัก รวมถึงลดความเสี่ยงการเกิดโรคมะเร็ง ระบบประสาทเสื่อม โรคหัวใจและหลอดเลือด แถมแพทย์จำนวนไม่น้อยก็ลงความเห็นว่าการกินสไตล์ Mediterranean สามารถช่วยชะลอวัยได้อย่างน่าดีเยี่ยมครับ
KETOGENIC
Ketogenic เป็นสิ่งที่อยู่คู่กับคนออกกำลังกายและคนควบคุมน้ำหนัก มักเรียกสั้นว่าๆ “คีโต” ซึ่งการกินแบบคีโตเกิดขึ้นในปี 1980 โดยนายแพทย์ผู้คิดค้นสูตรการกินแบบใหม่ให้กับผู้ป่วยลมบ้าหมู แต่ละมื้อจะเน้นอาหารประเภทไขมันเพื่อให้ร่างกายมีไขมันดีร้อยละ 75-80 ควบคู่กับอาหารจำพวกโปรตีน ปรับให้ร่างกายอยู่ในภาวะคีโตลิส (ketosis) โดยไขมันที่สะสมอยู่ในร่างกายจะถูกเผาผลาญเป็นพลังงานแทนน้ำตาล และพลังงานเหล่านี้จะถูกนำมาใช้งานในแต่ละวัน
การกินคีโตช่วยให้ร่างกายไม่หิวบ่อย ลดน้ำหนักได้ง่ายขึ้นเพราะการลดคาร์โบไฮเดรตจะช่วยให้ร่างกายไม่เกิดภาวะบวมน้ำ จะรู้สึกว่าร่างกายเราจะผอมลงในช่วง 1-2 สัปดาห์แรก แถมไขมัน Visceral fat หรือระดับไขมันช่วงท้องลดลงอีกด้วย
อย่างไรก็ตามการกินแบบ Ketogenic ไม่ควรทำติดต่อกันนานเกินไป หรืออาจกินติดต่อกันประมาณ 14 วันแล้วจากนั้นให้สลับกับการกินอาหารสุขภาพสไตล์อื่นๆ ที่คิดว่าเหมาะสมกับร่างกายตัวเอง หากกินคีโตติดต่อกันเกิน 6 เดือน ร่างกายมีโอกาสสูญเสียมวลกล้ามเนื้อดีได้ เมื่อป่วยร่างกายจะฟื้นตัวช้ากว่าปกติ ดังนั้น ใครที่อยากควบคุมน้ำหนักด้วยการกินคีโตก็ต้องดูกันดี ๆ นะครับว่าร่างกายเราพร้อมหรือไม่ด้วยนะครับ
VEGAN
Vegan หรือการรับประทานอาหารมังสวิรัติเป็นสไตล์ที่มีผู้คนสนใจและหันมากินมากขึ้นเรื่อยๆ และเป็นประเภทการรับประทานอาหารที่นิยมในหมู่คนรักสุขภาพมาอย่างยาวนาน
ปัจจุบันสไตล์การกิน Vegan มีหลากหลายระดับไม่มีกฎตายตัว อยู่ที่ว่าเราพอใจในระดับไหน บางคนอาจจะไม่จริงจังมากยังคงกินปลา นม ไข่ และชีสได้ แต่บางคนอาจไม่ทานทั้งหมดที่กล่าวมาแต่เน้นกินแต่ผักผลไม้อย่างเดียว
สำหรับใครที่หันมาดูแลสุขภาพอย่างจริงจังด้วยการเริ่มรับประทานอาหารแบบ Vegan คือไม่ควรหักโหมตั้งแต่แรก ควรใช้วิธีค่อย ๆ งดอาหารจำพวกเนื้อสัตว์ลง จากนั้นทยอยงดทานนมหรือชีส เพื่อให้ร่างกายสามารถปรับสภาพรับความเปลี่ยนแปลงได้ทัน หันมาทานอาหารจำพวกถั่ว เต้าหู้ และข้าวกล้องให้มากขึ้นเพื่อชดเชยสารอาหารที่ปกติเคยได้รับจากเนื้อสัตว์
RAW FOOD
การกินแบบ Vegan ว่ายากแล้ว แต่ก็ยังมีสไตล์การกินเพื่อควบคุมน้ำหนักอีกประเภทที่เหล่านักแสดงในวงการฮอลลีวูดนิยมทำคืออาหารประเภท Raw Food หรือแปลง่าย ๆ ว่า อาหารดิบนั่นเอง
ซึ่งอาหารดิบที่ว่าหนักไปทางพืชผักผลไม้เป็นส่วนใหญ่ เช่น ผลไม้สด ผักสด หน่ออ่อนของพืช เมล็ดพืช และถั่ว รวมถึงเม็ดมะม่วงหิมพานต์ น้ำผลไม้สด น้ำมันมะกอก ธัญพืช เงื่อนไขคือต้องเป็นวัตถุดิบที่ไม่ผ่านการปรุงแต่งทางเคมี ไม่มีแป้งและน้ำตาล หากผ่านกระบวนการทำอาหารจะต้องใช้ความร้อนไม่เกิน 46 องศาเซลเซียส เพื่อรักษาเอนไซม์ วิตามินจากผักผลไม้ไว้ ส่วนโปรตีนจากเนื้อสัตว์ก็ต้องเลือกให้เข้าคอนเซ็ปต์ Raw โดยสามารถเลือกทานปลาดิบ หรือที่เรียกกันว่าซาชิมิ รวมถึงเนื้อสัตว์ดิบบางชนิดได้
การกินสไตล์ Raw Food จะช่วยล้างสารพิษตกค้างในร่างกาย เพิ่มภูมิต้านทาน รักษาดุลของน้ำหนัก อย่างไรก็ตามการกินแบบนี้อาจจะต้องเจอกับค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง เพราะวัตถุดิบสดใหม่จากสวนจะมีราคาสูงกว่าวัตถุดิบทั่วไปนั่นเอง และหากปรุงแบบผิดวิธีอาจมีสารตกค้างซึ่งเป็นอันตรายต่อสุขภาพได้ครับ
สไตล์การกินแต่ละประเภทต่างก็มีความแตกต่างและข้อจำกัดที่ไม่เหมือนกัน บางสไตล์อาจไม่เหมาะต่อการกินติดต่อกันเป็นเวลานาน ๆ ดังนั้น หากหนุ่มคนไหนกำลังวางแผนลดน้ำหนักควบคู่กับการคุมอาหารก็ขอให้ลองหาสไตล์การกินที่ใช่และการออกกำลังกายที่เหมาะสมกับตัวเอง รวมถึงเลือกทานอาหารเสริมประเภทเบต้ากลูแคนที่ช่วยเสริมภูมิคุ้มกันให้ร่างกายแข็งแรงควบคู่ไปด้วย เพื่อสุขภาพที่แข็งแรงและป้องกันโรคร้ายต่างๆ นะครับ