เชื่อว่าในยุคนี้ไม่มีใครไม่รู้ว่าภูมิคุ้มกันในร่างกายของเราต้องเสริมสร้างอย่างไรบ้าง โดยเฉพาะเมื่อผ่านการแพร่ระบาดของโควิด-19 ไปแล้ว หลายคนที่ต้องการเพิ่มภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย ก็มักจะหาวิธีที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันด้วยการรับประทาน การออกกำลังกาย หรือการพักผ่อนอย่างเพียงพอ แต่มีอีกสิ่งหนึ่งที่หลายคนอาจจะละเลย นั่นก็คือ “สิ่งที่ควรเลิกทำ” ไปพร้อมกันได้ มีอะไรบ้าง มาแนะนำเพิ่มเติมกันครับ
1. ไม่ควรรับประทานสารสกัดที่เกินปริมาณกำหนด
หลายคนอาจจะคิดว่าการรับประทานสารสกัดหรือเหล่าวิตามินที่มีประโยชน์ต่อร่างกายเป็นเรื่องที่ดี แต่รู้หรือไม่ว่าการรับประทานสารสกัดที่มากเกินความจำเป็นต่อร่างกายส่งผลเสียมากกว่าผลดี เพราะในแต่ละวันร่างกายของเราควรได้รับปริมาณสารสกัดหรือวิตามินที่แตกต่างกัน เช่น วิตามินซีควรรับประทาน 1,000 – 2,000 มิลลิกรัม เป็นต้น ซึ่งเราจำเป็นจะต้องศึกษา ไม่เช่นนั้นร่างกายจะแย่งกันดูดซึม ทำให้เราไม่ได้รับประโยชน์จากสารสกัดที่ทานเข้าไป ทั้งยังอาจจะส่งผลต่อภูมิคุ้มกันของเราด้วย
2. การทำงานหนักและความเครียด
หลายคนที่ดูแลตัวเองอย่างดี ทั้งรับประทานอาหารและออกกำลังกาย แต่สิ่งหนึ่งที่ละเลยคือเรื่องความเครียดที่สะสมจากการทำงาน บางคนทำงานหนักมาก กระทั่งวันหยุดก็ยังทำงาน นั่นทำให้ร่างกายเกิดความเครียดสะสมไม่รู้ตัว และความเครียดส่งผลต่อภูมิคุ้มกันอย่างชัดเจน โดยเฉพาะผลกระทบในการพักผ่อนหรือนอนหลับ บางคนนอนไม่ได้ประสิทธิภาพ นอนน้อย แต่ยังคิดว่าร่างกายปกติดีอยู่ แต่หากคิดแบบนี้และมีพฤติกรรมแบบนี้ไปเรื่อย ๆ จะทำให้ภูมิคุ้มกันยิ่งลดประสิทธิภาพการทำงานลง การจู่โจมจากสิ่งแปลกปลอมภายนอกจะทำได้ง่ายขึ้น ยิ่งอายุมากขึ้นยิ่งเห็นได้ชัดเจนขึ้น ต้องลองสังเกตตัวเองอย่างสม่ำเสมอนะครับ
3. รับประทานอาหารที่เหมาะสม มากกว่าตามเทรนด์
การรับประทานอาหารของคนไทยถือเป็นเรื่องใหญ่ นั่นเพราะทุกคนจริงจังกับการทานอาหาร หากมีเมนูใหม่ ๆ หรือฮิตติดกระแสทุกคนก็จะสรรหาอาหารเหล่านั้นมาลองรับประทาน หรือหลายคนก็ชอบและรับประทานเป็นประจำ หากลองสังเกตอาหารที่ฮิต ๆ มักจะเต็มไปด้วยน้ำตาลสูง โซเดียมสูง หรือไขมันสูง ซึ่งส่งผลต่อสุขภาพชัดเจน การรับประทานอาหารเหล่านี้มาก ๆ ก็ส่งผลต่อระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายได้ เพราะร่างกายไม่สามารภนำสารอาหารที่มีประโยชน์ไปสร้างภูมิคุ้มกันได้นั่นเอง ควรจะเลือกรับประทานอาหารให้หลากหลาย และมุ่งเน้นไปที่การรับประทานเพื่อให้ร่างกายได้มีพลังงานใช้อย่างเหมาะสมและเกิดประโยชน์ ไม่ควรรับประทานเกินความจำเป็นมากเกินไปครับ
4. ละเลยโรคประจำตัว
มีคนไทยหลายคนที่มีโรคประจำตัวเป็นโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง และไม่ได้กระทบต่อการใช้ชีวิตในภาพรวมมากนัก เช่น โรคเกี่ยวกับทางเดินหายใจ อย่างโรคหืดหอบ โรคภูมิแพ้ หรือโรคความดันโลหิต โรคไขมันในเลือดสูง ซึ่งเราจะสามารถพบเห็นคนรอบตัวเราเป็นโรคเหล่านี้ได้ง่าย แต่หลายครั้งที่ผู้ป่วยไม่ได้ใส่ใจที่จะดูแลตัวเองเพื่อให้โรคที่เป็นดีขึ้น นอกจากไปตามนัดแพทย์เท่านั้น ซึ่งนี่เป็นทัศนคติที่ไม่ดีทั้งต่อตัวโรคเอง และต่อระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย เพราะแค่ป่วยระบบภูมิคุ้มกันก็ไม่ได้มีประสิทธิภาพดีเท่าคนทั่วไปอยู่แล้ว ฉะนั้นยิ่งมีโรคประจำตัว ยิ่งตัวดูแลตัวเองอย่างรอบด้านมากขึ้น
5. คิดว่าสารสกัดไม่จำเป็นต่อการส่งเสริม เพิ่มภูมิคุ้มกัน
ความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ก็ทำให้เรามีการศึกษาและการวิจัยที่ตอบความสงสัยของเราได้ว่าจริง ๆ แล้วการรับประทานสารสกัดและวิตามินมีประโยชน์ต่อร่างกาย เพราะเข้าไปช่วยส่งเสริมเมื่อเรารับประทานอาหารบางชนิดที่มีวิตามินหรือแร่ธาตุบางชนิดไม่เพียงพอต่อร่างกาย ฉะนั้นการรับประทานสารสกัดอย่าง “เบต้ากลูแคน” จึงถือเป็นทางเลือกที่อยากเสริมภูมิคุ้มกันในร่างกาย ที่ปลอดภัยและได้ประสิทธิภาพที่ดี โดยเบต้ากลูแคนสามารถเข้าไปกระตุ้นเซลล์ภูมิคุ้มกันโดยตรง ทั้งยังมีสารต้านอนุมูลอิสระมากมาย ช่วยป้องกันและลดเสี่ยงในการเกิดเซลล์มะเร็ง ทั้งยังเป็นสารสกัดที่ไม่ละลายน้ำ จึงช่วยลดคอเลสเตอรอลและช่วยเรื่องโรคเบาหวานได้ด้วย