หน้าร้อนปีนี้มาไวกว่าทุกปี พอหมดเดือนมกราคมก็เข้าสู่หน้าร้อนเลย! พ่อแม่ต้องเตรียมตัวรับมือกับการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วนี้ เพราะเด็กไวต่อการเปลี่ยนแปลงทางสภาพอากาศ ไม่เช่นนั้นอาจจะทำให้ลูกป่วยได้ มาดูกันว่าโรคอะไรในหน้าร้อนที่พ่อแม่ต้องหมั่นสังเกตลูกกันบ้าง
1. โรคผดร้อน
เป็นโรคยอดฮิตในหน้าร้อนเพราะเกิดจากการที่ร่างกายขับเหงื่อออกมาช่วยระบายความร้อน ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดโรคผิวหนัง ซึ่งพบมากในช่วงหน้าร้อน เพราะเกิดจากการอุดตันของต่อมเหงื่อ ซึ่งเด็ก ๆ มักจะประสบปัญหา เพราะกิจกรรมที่ต้องทำกลางแจ้งอาจจะทำให้เหงื่อออกมาก และส่งผลให้เกิดโรคผดร้อนได้
อาการ: มีตุ่มเม็ดเล็ก ๆ ขึ้นตามร่างกาย ลูกจะรู้สึกคัน และไม่สบายตัว โดยจะปรากฏตามบริเวณที่เป็นจุดอับ เช่น ซอกคอ ซอกขา ข้อพับ ขาหนีบ และบริเวณใต้ร่มผ้า
การดูแลรักษา: โดยปกติโรคนี้สามารถหายเองได้ภายใน 2 – 3 วัน หากคอยดูแลให้ตรงบริเวณที่เป็นผดเย็นและแห้งอยู่เสมอ แต่หากเลยจากนั้นแล้วควรไปพบแพทย์เพื่อปรึกษาในการรักษาเพิ่มเติมได้
การป้องกัน: ในหน้าร้อนควรให้ลูกสวมเสื้อผ้าที่ไม่หนามาก ระบายอากาศได้ดี ป้องกันไม่ให้ผิวหนังชื้นจากเหงื่อจนเกินไป ที่สำคัญหากลูกเล่นจนเหงื่อออกเยอะแล้ว ต้องรีบทำความสะอาดหรืออาบน้ำให้ลูก หลีกเลี่ยงการทาโลชั่นเพื่อลดความเสี่ยงที่จะเกิดการอุดตันใต้ผิวหนัง
2. โรคไข้แดด
เป็นอีกหนึ่งโรคที่เกิดการอุณหภูมิในร่างกายไม่สามารถปรับตัวให้เข้ากับอากาศที่เปลี่ยนแปลงได้ทัน เด็กบางคนอาจจะไวต่อเรื่องนี้ ทำกิจกรรมตากแดดก็อาจจะทำให้ลูกเป็นไข้ได้
อาการ: ตัวร้อน มีไข้ หนาวสั่นในเวลากลางคืน
การดูแลรักษา: สามารถให้รับประทานยาแก้ไข้ ร่วมไปกับการเช็ดตัว หากอุณหภูมิร่างกายยังไม่ลดควรพาไปพบแพทย์
การป้องกัน: ต้องหมั่นระมัดระวังการทำกิจกรรมนอกบ้านในช่วงที่แดดจัด หากเลี่ยงไม่ได้ควรมีอุปกรณ์ป้องกันแดด เช่น เสื้อแขนยาว หมวก หรือให้ลูกดื่มน้ำบ่อย ๆ ก็อาจจะช่วยได้
3. โรคลมแดดหรือฮีทสโตรก
เป็นโรคที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิอย่างฉับพลัน โดยเฉพาะในวันที่อากาศร้อนจัด บางครั้งอาจจะส่งผลให้ร่างกายมีอุณหภูมิสูงถึง 40 องศา ซึ่งอาจจะส่งผลให้เด็กช็อกหรือเกิดโรคฮีทสโตรกได้เลยทีเดียว
อาการ: เวียนหัว อุณหภูมิร่างกายสูงขึ้น รู้สึกอยากอาเจียน หัวใจเต้นเร็ว อาจจะชักหรือหมดสติได้
การดูแลรักษา: ควรรีบพาลูกเข้าที่ร่ม และอยู่ในบริเวณที่อากาศถ่ายเทสะดวก ถอดเสื้อผ้า นอนหงาย และเช็ดตัวให้อุณหภูมิลดลง
การป้องกัน: ในวันอากาศร้อนมากควรระมัดระวังกิจกรรมที่ต้องเล่นกลางแจ้ง หากต้องใช้พลังเยอะ หรือต้องตากแดดนาน ๆ อาจจะต้องให้ลูกเข้ามาพักบ่อย ๆ และหมั่นสังเกตอาการความผิดปกติของลูกอย่างใกล้ชิด
4. โรคท้องร่วง ท้องเสีย
หนึ่งในโรคยอดฮิตในหน้าร้อน เกิดจากเชื้อไวรัสและแบคทีเรียปนเปื้อนในอาหาร เพราะช่วงหน้าร้อนเชื้อโรคเหล่านี้จะเติบโตได้เร็ว ทำให้อาหารเสียง่าย และหากทิ้งไว้หรือปรุงไม่สะอาดพอก็อาจจะทำให้ลูกท้องเสียเมื่อรับประทานเข้าไปได้
อาการ: ปวดท้อง ท้องร่วง ถ่ายบ่อย ถ่ายเหลว
การดูแลรักษา: ต้องหมั่นตรวจสอบความสะอาดของอาหารและภาชนะสำหรับใส่อาหารอยู่เสมอ เพื่อป้องกันไม่ให้เชื้อโรคปนเปื้อนไปกับอาหารที่ลูกจะรับประทานเข้าไปได้
สิ่งหนึ่งที่สำคัญสำหรับเด็กคือการเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน พ่อแม่ควรให้ลูกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ พักผ่อนให้เพียงพอ และทำกิจกรรมอย่างเหมาะสม ที่สำคัญควรให้ลูกได้รับสารอาหารที่ช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกัน อย่างสารสกัดจากเบต้ากลูแคน เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันในเด็กได้ดี ลดความเสี่ยงและป้องกันไม่ให้ลูกติดเชื้อจากสิ่งแปลกปลอมภายนอกได้ง่าย เพราะภูมิคุ้มกันที่แข็งแรงจะสามารถกำจัดเชื้อโรคเหล่านั้นได้ก่อนที่จะทำให้ลูกป่วยได้นั่นเองครับ