เชื่อว่าใคร ๆ ก็อยากมีภูมิคุ้มกันโรคในร่างกายที่ดีและมีประสิทธิภาพ สิ่งสำคัญคือการเลือกประทานอาหาร ร่วมไปกับการพักผ่อนและออกกำลังกาย โดยอาหารแต่ละชนิดก็ให้ประสิทธิภาพในการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันที่แตกต่างกัน โดยวันนี้จะมาแนะนำสารอาหารสำคัญที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันโรคให้ได้อย่างแข็งแรงและพร้อมทำงานเพื่อร่างกายของเราเสมอ

1. สารสกัดจากเบต้ากลูแคน

สารสกัดจากเบต้ากลูแคนถือเป็นหนึ่งในสารอาหารที่ช่วยกระตุ้นให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันที่มีประสิทธิภาพสูง ซึ่งสารสกัดจากเบต้ากลูแคนเป็นประเภทใยอาหารชนิดแป้ง หรือ “โพลีแซคคาไรด์” ซึ่งสามารถพบได้ในพืชพรรณธรรมชาติ อย่างยีสต์ เห็ด ข้าวบาเล่ต์ และข้าวโอ๊ต โดยเบต้ากลูที่สกัดมาจากผนังเซลล์ของยีสต์ Saccharomyces Cerevisiae จะมีส่วนช่วยในการเสริมภูมิคุ้มกันให้แก่ร่างกาย ซึ่งมีประสิทธิภาพสูงสุดเท่าที่วงการวิทยาศาสตร์รู้จักอีกด้วย ช่วยให้การทำงานและบำรุงเซลล์เม็ดเลือดขาว และเพิ่มจำนวนเม็ดเลือดขาวให้พร้อมทำงานเมื่อมีสิ่งแปลกปลอมเข้ามาในร่างกาย ทั้งยังลดการอักเสบ การติดเชื้อได้ดี นอกจากนี้ยังช่วยลดระดับไขมันคอเลสเตอรอลในเลือดลง เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidant) และจากงานวิจัยทั่วโลก เบต้ากลูแคนยังมีส่วนช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นโรคมะเร็ง และช่วยลดผลข้างเคียงจากการรักษาสำหรับผู้ป่วยโรคมะเร็งอีกด้วย

สำหรับคำแนะนำในการรับประทาน:

–  สำหรับผู้ที่ต้องการบำรุงสุขภาพรับประทานวันละ 10 – 20 มิลลิกรัม ต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม เช่น ถ้าน้ำหนัก 50 กิโลกรัม แนะนำให้ทานวันละ 500 – 1,000 มิลลิกรัม ก่อนอาหาร 1 ชั่วโมง หรือหลังอาหาร 2 ชั่วโมง

– สำหรับผู้ป่วยต้องการเสริมภูมิต้านทานและลดผลข้างเคียงจากการรักษาโรค เช่น การให้คีโมรักษามะเร็ง แนะนำให้ทาน วันละ 40 – 50 มิลลิกรัม ต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม เช่น ถ้าน้ำหนักตัว 50 กิโลกรัม ควรทานวันละ 2,000 – 2,500 มิลลิกรัม ทั้งนี้ขึ้นอยู่ความความสะดวกและความต้องการของผู้รับประทานนะครับ

2. วิตามินดี

วิตามินดีหลายคนอาจจะเข้าใจว่ามีบทบาทเพื่อช่วยดูดแคลเซียมเท่านั้น แต่จริง ๆ แล้ววิตามินดียังสามารถช่วยให้กลไกของการสร้างภูมิคุ้มกันทำงานได้อย่างดีอีกด้วย หากวิตามินดีในร่างกายเพียงพอจะทำให้ระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายของเราทำงานได้อย่างปกติ ลดความเสี่ยงที่จะติดเชื้อ ลดการอักเสบของเนื้อเยื่ออีกด้วย โดยอาหารที่มีวิตามินดีสูง เช่น เห็ดประเภทต่าง ๆ เนื้อปลา ธัญพืช และผลิตภัณฑ์นม

สำหรับคำแนะนำในการรับประทาน:

โดยอายุ 1 – 70 ปี ควรได้รับวิตามินดี วันละ 600 IU (15 ไมโครกรัม) สำหรับผู้อายุ 70 ปีขึ้นไป ควรได้รับวิตามินดี วันละ 800 IU (20 ไมโครกรัม) โดยร่างกายของเราสามารถรับวิตามินดีจากธรรมชาติได้ทางแสงแดด แนะนำให้ผิวรับแสงแดดช่วงเช้าและช่วงเย็นประมาณ 5 – 30 นาที

3. วิตามินซี

หลายคนทราบอยู่แล้วว่าวิตามินซีช่วยกระตุ้นการสร้างภูมิคุ้มกันในร่างกายได้ ทั้งยังช่วยลดการอักเสบของเนื้อเยื่อ และมีส่วนช่วยป้องกันการเป็นหวัดจากอากาศเปลี่ยนแปลงได้ ทั้งยังมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยชะลอวัย ลดเสี่ยงโรคมะเร็งได้ด้วย

สำหรับคำแนะนำในการรับประทาน:

การกินผักผลไม้ 400 กรัม ช่วยให้เราได้รับวิตามินซีที่เพียงพอ ส่วนในทางศาสตร์ชะลอวัยคนเราควรทานวิตามินซีวันละ 1,000 มิลลิกรัมต่อวัน ที่จะช่วยในเรื่องภูมิต้านทานร่างกายและการบำรุงผิวพรรณ แต่สำหรับผู้ที่ป่วยเป็นโรคหวัดหรือภูมิแพ้บ่อย ควรทานวิตามินซี 2,000 มิลลิกรัม แต่ไม่ควรกินเกินนี้เพื่อไม่ให้เกิดผลข้างเคียงที่อาจก่อให้เกิดอันตรายกับร่างกายได้