พูดถึงอาหารหวานน้อยคนนะครับที่จะไม่ชอบ เพราะอาหารรสหวานเป็นหนึ่งในรสชาติที่ลิ้นของเราสามารถรับรสได้ดีก่อนรสอื่น ๆ เนื่องจากอยู่บริเวณปลายลิ้น ทำให้ของหวาน อาหารรสหวานนำ เป็นรสชาติของอาหารที่ผู้คนนิยมรับประทานและมีเมนูให้เลือกสรรมากมาย แต่การรับประทานรสหวานจนเป็นนิสัยไม่ใช่เรื่องดีเลย เพราะเป็นปัจจัยเสี่ยงของโรคมากมาย ถ้าเราลดหวานได้ ชีวิตของเราจะเปลี่ยนไปยังไง มาดูกันครับ
อาหารรสหวานปัจจัยเสี่ยงสุขภาพของคนไทย
โดยพบว่าคนไทยบริโภคน้ำตาลเกินกว่าที่องค์การอนามัยโลกแนะนำไปค่อนข้างมาก โดย WHO แนะนำให้รับประทานน้ำตาลไม่เกิน 24 กรัม / วัน แต่ในขณะที่ค่าเฉลี่ยการรับประทานน้ำตาลของคนไทยคือ 92 กรัม / วัน ซึ่งเกินไปเกือบ 4 เท่า และน้ำตาลก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพ เช่น โรคอ้วน โรคไขมันในเลือดสูง โรคเบาหวาน อาจจะนำไปสู่โรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ และโรคไตได้
ทำไมน้ำตาลมีผลเสียต่อสุขภาพมากกว่าที่คิด
การบริโภคน้ำตาลที่มากจนเกินไปจะทำให้สมดุลของเลือดเสียไป โดยทำให้อินซูลินในร่างกายผลิตออกมาเกินความจำเป็น และอาจจะตกค้างในกระแสเลือด ซึ่งทำให้ส่งผลต่อระบบไหลเวียนโลหิต ซึ่งหากเกิดขึ้นบ่อย ๆ ทำให้การไหลเวียนเลือดผิดปกติ และน้ำตาลอาจจะกลายสภาพไปเป็นไขมันเกาะตามหลอดเลือด หลอดเลือดตีบตัน เลือดไปเลี้ยงหัวใจและสมองไม่เพียงพอ อาจจะเป็นสาเหตุของโรคความดันโลหิตสูง โรคหลอดเลือดต่าง ๆ โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมองได้ด้วย
ลด “รสหวาน” ลดเสี่ยงโรค
– ไม่หักดิบ ค่อยเป็นค่อยไป หากเลิกการรับประทานอาหารรสหวานเลย อาจจะทำให้ร่างกายรู้สึกเปลี่ยนแปลงกะทันหัน อาจจะทำให้ร่างกายอ่อนเพลีย อ่อนล้า รู้สึกไม่กระปรี้กระเปร่า เวียนศีรษะ เนื่องจากขาดพลังงานจากน้ำตาลได้ แนะนำให้ลดปริมาณการรับประทานลง เช่น งดขนม งดน้ำหวาน และทานอาหารแค่มื้อหลัก
– ไม่ตุนขนม น้ำหวาน ผลไม้รสหวานจัด ไม่เช่นนั้นจะกระตุ้นความอยากในการรับประทานอาหารได้
– น้ำเปล่าช่วยลดความอยากอาหารรสหวานได้ พยายามจิบน้ำ และดื่มน้ำให้มาก ๆ เพราะหากร่างกายขาดน้ำจะอยากรับประทานของหวาน
– รับประทานอาหารที่มีใยอาหารและไฟเบอร์เพิ่มขึ้น เช่น ผักใบเขียว และผลไม้ที่มีรสเปรี้ยว เนื่องจากอาหารเหล่านี้มีแคลอรีต่ำ ทำให้การดูดซึมน้ำตาลช้าลง ทั้งใยอาหารยังช่วยดูดซับน้ำตาลไม่ให้เข้าสู่กระแสเลือดเร็วจนเกินไป
– รับประทานสารสกัดจากเบต้ากลูแคน นอกจากสารสกัดจากเบต้ากลูแคนจะช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันให้ทำงานได้ดีขึ้นช่วงที่กำลังลดหวานแล้ว ยังช่วยไม่ให้ร่างกายรู้สึกอ่อนเพลีย และเหนื่อยล้าจนเกินไป เพราะไปช่วยให้ภูมิคุ้มกันไม่ตก นอกจากนี้เบต้ากลูแคนยังมีส่วนช่วยในการควบคุมน้ำตาลในเลือด ไม่ให้น้ำตาลในเลือดสูงจนเกินไป ช่วยให้ไขมันคอเลสเตอรอลในร่างกายสมดุลขึ้น ดีต่อระบบเผาผลาญและเมแทบอลิซึมทำงานได้ดีขึ้นด้วย