ปลายฝนต้นหนาวทีไร ประเทศไทยมักจะประสบกับปัญหามวลอากาศนิ่งจากความกดอากาศที่สูงขึ้น ทำให้ฝุ่นละอองจับตัวกันหนาแน่นขึ้น หรือที่คนไทยรู้จักกับปรากฏการณ์นี้มากขึ้น ก็คือ ฝุ่น PM2.5 นี่เอง ซึ่งการประสบปัญหาฝุ่นควันนี้ ทำให้เกิดปัจจัยเสี่ยงต่อสุขภาพของคนไทยโดยภาพรวมมากขึ้น โดยเฉพาะการเกิดโรคมะเร็งปอด ที่ PM2.5 สามารถทำให้เกิดความเสี่ยงในโรคนี้มากขึ้น แล้วเราจะป้องกันให้ตัวเองห่างไกลจากโรคร้ายนี้ยังไงได้บ้าง มาศึกษากันครับ
สถิติคนไทยป่วยเป็นมะเร็งปอดมากขึ้น
ข้อมูลจากอธิบดีกรมการแพทย์บอกว่า มะเร็งปอด เป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับ 2 ของคนไทย เป็น 1 ใน 5 มะเร็งที่พบมากที่สุด ซึ่งพบมากเป็นอันดับ 2 ในเพศชาย และอันดับ 5 ในเพศหญิง ซึ่งสาเหตุมีหลายปัจจัย ได้แก่
– การสูบบุหรี่ โดยที่คนสูบบุหรี่เป็นประจำ มีโอกาสป่วยเป็นมะเร็งปอดมากกว่าไม่สูบถึง 10 เท่า และในควันบุหรี่มีสารพิษมากกว่า 6 พันชนิด และมีสารก่อมะเร็งกว่า 60 ชนิดด้วยกัน
– การได้รับแร่ใยหิน พบมากในโครงการก่อสร้าง อุตสาหกรรมการผลิตยางสำหรับใช้ทำผ้าเบรก ฉนวนกันความร้อน หรือผู้ที่ต้องทำงานที่มีแร่ใยหินเป็นเวลานาน อาจจะมีความเสี่ยงที่จะก่อให้เกิดโรคมะเร็งปอดได้เช่นกัน
– ควันจากการเผาไหม้ โดยในควันมีสารพิษที่สามารถก่อให้เกิดโรคมะเร็งปอดได้ คนที่ต้องทำงานที่ต้องสูดควันไม่ว่าจะเป็นการขายอาหารต้องใช้ไฟจากถ่าน การสูดดมควันรถ เช่น อาชีพ ตำรวจจราจร วินมอเตอร์ไซค์ พนักงานขับรถเมล์ หรือพนักงานกวาดขยะ
– ฝุ่น PM2.5 ถือเป็นปัญหาที่เราเพิ่งค้นพบใหม่ เพราะขนาดที่เล็กมาก สามารถเข้าไปถึงปอดได้ เราจึงต้องป้องกันตัวเองจากฝุ่น PM2.5
อีกสาเหตุสำคัญที่คนไทยป่วยเป็นมะเร็งปอดมากขึ้น
ปัจจุบันในยังไม่มีแนวทางในการคัดกรองโรคมะเร็งปอดที่มีประสิทธิภาพเท่าไหร่นัก หากใช้เทคโนโลยีเข้าช่วยก็จะมีราคาสูงมาก ซึ่งเมื่อผู้ป่วยมีอาการผิดปกติมักจะเจอในระยะที่ลุกลามแล้ว ทำให้การตรวจพบโรคมะเร็งปอดในระยะแรกเริ่มทำได้ค่อนข้างยาก จึงทำให้ผู้ป่วยมะเร็งปอดมีอัตราการเสียชีวิตที่สูงกว่ามะเร็งชนิดอื่น ๆ
ห่างไกลจากมะเร็งปอดต้องเพิ่มการดูแลตัวเอง
การดูแลตัวเองให้ห่างไกลจากมะเร็งปอดที่สำคัญ คือ เลี่ยงการสูบบุหรี่ ไม่รับควันบุหรี่มือสอง มือสาม หรือหากอาศัยอยู่กับคนที่สูบบุหรี่พยายามช่วยให้พวกเขาเลิกสูบบุหรี่ จะช่วยลดปัจจัยเสี่ยงได้ทั้งครอบครัว นอกจากนี้การดูแลตัวเองให้สัมผัสกับปัจจัยเสี่ยงอื่น ๆ เช่น PM2.5 ก็เป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นการใส่หน้ากาก N95 ที่สามารถป้องกันได้ ก่อนออกจากบ้านเช็กค่ามาตรฐานฝุ่นทุกวัน งดออกกำลังกายหากค่าฝุ่น PM2.5 เกินมาตรฐาน เพราะเราอาจจะได้สูดฝุ่นเข้าร่างกายมากกว่าปกติ
นอกจากนี้ยังมีทางเลือกในการดูแลตัวเองเพิ่มมากขึ้นคือ การรับประทานสารสกัด “เบต้ากลูแคน” ซึ่งเป็นสารอาหารที่กระตุ้นภูมิคุ้มกันให้ร่างกายได้ดีมากขึ้น เพราะทำงานกับเซลล์เม็ดเลือดขาวได้โดยตรง ซึ่งการที่ร่างกายมีภูมิคุ้มกันที่สามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพสม่ำเสมอ จะช่วยปกป้องไม่ให้ร่างกายอ่อนแอ และเจ็บป่วยได้ง่าย นอกจากนี้เบต้ากลูแคนยังมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยป้องกันการทำงานผิดพลาดของเซลล์ในร่างกาย ทำให้ลดความเสี่ยงในการเป็นโรคมะเร็งและมะเร็งปอดได้