พฤติกรรมการดูแลของพ่อแม่หรือผู้ปกครองมีผลโดยตรงต่อสุขภาพของเด็ก โดยบางพฤติกรรมอาจส่งเสริมสุขภาพที่ดี ในขณะที่บางพฤติกรรมก็อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคต่าง ๆ ให้ลูกได้ หากพ่อแม่ไม่อยากทำร้ายลูกโดยไม่รู้ตัว ต้องหยุดเลี้ยงลูกก่อนที่จะป่วยเป็นโรคต่าง ๆ

1. โรคอ้วนในเด็ก

สาเหตุ:

– การให้ลูกกินอาหารฟาสต์ฟู้ด อาหารแปรรูป ขนมที่มีน้ำตาลสูง หรือตามใจลูกให้ลูกทานแต่อาหารที่ลูกชอบ ประเภทเดิม ๆ ไม่หลากหลาย

– ให้ลูกใช้เวลากับหน้าจอมากเกินไป ทำให้ร่างกายไม่ได้เคลื่อนไหว หรือออกกำลังกายตามวัย อาจจะทำให้เกิดไขมันสะสมได้

– ลูกปฏิเสธการกินผักผลไม้ พ่อแม่ต้องหาวิธีให้ลูกทานอาหารประเภทนี้ เพื่อที่จะได้รับสารอาหารครบถ้วน และลดเสี่ยงที่จะมีปัญหาเรื่องขับถ่าย

ผลกระทบ:

– เพิ่มความเสี่ยงโรคเบาหวานในเด็ก โรคหัวใจ และความดันโลหิตสูง โรคเหล่านี้ไม่จำเป็นต้องอายุมากเพราะเด็กก็เสี่ยงที่จะเป็นโรคเรื้อรังเหล่านี้ได้ หากพฤติกรรมจากผู้เลี้ยงดูละเลยหรือไม่ใส่ใจ

– ส่งผลต่อปัญหาด้านพัฒนาการทางอารมณ์และความมั่นใจในตนเอง อาจจะถูกเพื่อนล้อจากเพื่อนด้วยลักษณะทางกายภาพที่แตกต่าง

2. โรคขาดสารอาหาร

สาเหตุ:

–  ให้เด็กกินอาหารที่ไม่หลากหลาย เน้นอาหารฟาสต์ฟู้ด หรืออาหารแปรรูปมากเกินไป

– การเลี้ยงลูกด้วยอาหารบดละเอียดนานเกินไป ทำให้เด็กไม่ยอมกินอาหารหยาบ ซึ่งอาหารบดมักไม่ค่อยมีสารอาหารที่ครบถ้วน และทำให้ลูกไม่ยอมเคี้ยวอาหารด้วย

– ไม่ให้ความสำคัญกับการให้เด็กได้รับวิตามินและแร่ธาตุที่เพียงพอ

ผลกระทบ:

– เด็กเติบโตช้า มีปัญหาด้านพัฒนาการทางร่างกายและสติปัญญา เช่น การไม่เคี้ยวข้าวแต่มักจะอมข้าวไว้ ทำให้พัฒนาการของร่างกาย เช่น หลอดลมและหลอดอาหารไม่สามารถทำงานได้อย่างเต็มที่

– เสี่ยงต่อภาวะโลหิตจางและภูมิคุ้มกันต่ำ

3. โรคภูมิแพ้และหอบหืดในเด็ก

สาเหตุ:

– การให้ลูกอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีฝุ่น ควันบุหรี่ หรือสารก่อภูมิแพ้ พ่อแม่ต้องหมั่นสังเกตร่างกายของลูกว่าลูกแพ้อะไร

– การใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดหรือเครื่องหอมที่กระตุ้นภูมิแพ้ ลูกอาจจะไวต่อสิ่งเร้ามากเป็นพิเศษเพราะภูมิคุ้มกันยังไม่แข็งแรงมากพอที่จะต่อต้านเชื้อโรคต่าง ๆ ได้

– ไม่ให้ลูกเล่นกลางแจ้งหรือสัมผัสธรรมชาติ ทำให้ภูมิคุ้มกันอ่อนแอ

ผลกระทบ:

– มีอาการหายใจติดขัด คัดจมูก หรือผื่นแพ้

– อาจพัฒนาไปเป็นโรคหอบหืดเรื้อรัง

4. โรคพฤติกรรมเสพติดหน้าจอ

สาเหตุ:

– ปล่อยให้ลูกเล่นมือถือหรือแท็บเล็ตเป็นเวลานานโดยไม่มีข้อจำกัด

– ไม่ให้ทำกิจกรรมทางกายที่เหมาะสมเพื่อทดแทนการใช้หน้าจอ

– ใช้หน้าจอเป็นพี่เลี้ยงเด็ก แทนการปฏิสัมพันธ์กับพ่อแม่

ผลกระทบ:

– เสี่ยงต่อสายตาสั้น ปวดตา และปวดศีรษะจากแสงหน้าจอ

– มีปัญหาด้านสมาธิสั้น และพฤติกรรมก้าวร้าว

5. โรคฟันผุในเด็ก

สาเหตุ:

– ให้ลูกดื่มนมหรือเครื่องดื่มหวานก่อนนอนโดยไม่แปรงฟัน

– ไม่ฝึกให้เด็กแปรงฟันอย่างถูกต้องและสม่ำเสมอ

– ให้ลูกกินขนมหรือน้ำหวานบ่อย ๆ

ผลกระทบ:

– ฟันผุรุนแรง อาจต้องถอนฟันก่อนวัยอันควร

– ส่งผลต่อการเคี้ยวอาหาร และอาจกระทบต่อพัฒนาการด้านการพูด

หากครอบครัวไหนยังเลี้ยงลูกด้วยวิธีการแบบนี้อยากแนะนำให้ลด ละ เลิก และให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพของเด็กให้มากขึ้น เพราะการดูแลที่ได้รับการใส่ใจมีส่วนอย่างมีที่จะทำให้เด็กเติบโตได้อย่างสมวัยและมีศักยภาพทั้งสติปัญญาและร่างกาย นอกจากการให้รับประทานอาหารอย่างเหมาะสม การดูแลกิจวัตรประจำวันเพื่อสร้างนิสัย การให้ออกกำลังกายกล้างแจ้งได้เล่นอย่างสมวัยก็สำคัญ นอกจากนี้การให้ลูกได้รับสารอาหารครบถ้วน เช่น สารสกัดจากเบต้ากลูแคนที่ช่วยส่งเสริมภูมิคุ้มกัน, สารสกัดจากกาแลกโต โอลิโกแซ็กคาไรด์ (GOS) ช่วยกระตุ้นระบบขับถ่ายให้ระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายสมดุลขึ้น, สารสกัดจากเอลเดอร์เบอร์รีและอะเซโรลา เชอร์รี ที่มีวิตามันซีสูง ช่วยป้องกันหวัด และโรคทางเดินหายใจ รวมถึงกระตุ้นการสร้างภูมิคุ้มกัน, สารสกัดจาก Omega 3 หรือ น้ำมันปลาช่วยพัฒนาการของลูกน้อย รวมไปถึงจากสารสกัดจากข้าวบาเล่ย์ญี่ปุ่น (GABA) ที่ช่วยเรื่องสร้างสมาธิและการพักผ่อนของลูก หากใครสนใจสารสกัดเหล่านี้สามารถปรึกษาได้ฟรีทาง Inbox m.me/yourofficialthailand หรือ Line : @Yourthailand