ถ้าลูกป่วยบ่อยเดี๋ยวเป็นเดี๋ยวหายคงทำให้พ่อแม่กลุ้มใจอยู่ไม่น้อยเลย นี่อาจจะเป็นสัญญาณที่บอกว่าลูกกำลังมีปัญหาเรื่องภูมิคุ้มกันหรือภูมิคุ้มกันตกได้ แล้วพ่อแม่จะสังเกตอาการผิดปกติอย่างไรว่าลูกมีอาการภูมิคุ้มกันผิดปกติ เพราะไม่ใช่แค่ป่วยบ่อยเท่านั้น วันนี้มาชวนสังเกต และวิธีป้องกันลูกภูมิคุ้มกันตกกันครับ
ชวนสังเกตอาการผิดปกติ ลูกภูมิคุ้มกันตก
1. เป็นไข้
อาจจะไม่ได้มีไข้สูงมาก แต่เป็นไข้ต่ำ ๆ โดยเฉพาะช่วงเย็นหรือก่อนนอน ลูกจะมีอุณหภูมิร่างกายที่สูงขึ้น ทำให้ลูกไม่สบายตัว นอนไม่หลับ อาจจะต้องกินยาลดไข้เพื่อให้ลูกสามารถนอนหลับได้ดีขึ้น แต่เช้ามาก็อาการดีขึ้นปกติ เป็นอยู่หลายวัน นี่อาจจะเป็นสัญญาณว่าลูกมีภูมิคุ้มกันตก และไม่แข็งแรงได้ ควรให้ลูกรับประทานสารสกัดเบต้ากลูแคนกระตุ้นการทำงานของภูมิคุ้มกัน ช่วยให้ลูกไม่ป่วยง่าย ลดความเสี่ยงที่จะติดเชื้อจากไวรัส แบคทีเรีย หรือสิ่งแปลกปลอมอื่น ๆ
2. เป็นหวัด
ลูกมันจะมีอาการน้ำมูกไหล หายใจไม่สะดวก และทำให้นอนหลับไม่สบาย กินยาลดน้ำมูกหรือยาลดไข้อาการน้ำมูกไหลก็ยังไม่หายดี เป็น ๆ หาย ๆ อยู่นาน ภูมิคุ้มกันของลูกอาจจะตก หรืออาจจะป่วยเป็นโรคเกี่ยวกับภูมิแพ้อาการ ซึ่งภูมิคุ้มกันเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้ลดผลกระทบจากสิ่งเร้าที่มากระตุ้นอาการน้ำมูกไหลได้ สารสกัดจากเบต้ากลูแคนช่วยลดความเสี่ยงที่จะเป็นโรคภูมิแพ้ และช่วยลดผลกระทบจากสิ่งเร้าที่ลูกอาจจะไวต่อการกระตุ้นได้ด้วย ทั้งยังช่วยให้ภูมิคุ้มกันของลูกแข็งแรงขึ้น
3. ลูกนอนหลับไม่เต็มที่
มีเด็กหลายคนที่มีปัญหาเกี่ยวกับการนอน นอนยาก นอนไม่หลับ ตื่นเร็ว ซึ่งเป็นผลพวงทำให้ระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายไม่สามารถเจริญเติบโตเต็มที่ และเสี่ยงที่จะภูมิคุ้มกันตก ให้ลูกรับประทานสารสกัดจากข้าวบาเล่ย์ญี่ปุ่น (GABA) ซึ่งช่วยเรื่องการผ่อนคลาย ลูกสามารถนอนหลับได้ง่าย และยาวนานขึ้น เพราะการพักผ่อนสำหรับเด็กถือเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างมากต่อพัฒนาการ
4. ลูกไม่ค่อยร่าเริง
โดยปกติเด็กควรมีนิสัยที่ร่าเริงแจ่มใส หากสังเกตว่าลูกไม่ร่าเริง ไม่อยากเล่น ไม่อยากทำกิจกรรมที่เคยชอบทำ อาจจะเพราะลูกมีอาการไม่สบายตัวบางอย่างก็เป็นได้ อาจจะรู้สึกป่วย ปวดท้อง หรือท้องผูก หรือถูกรังแกจากเพื่อนที่เล่นด้วยกัน ซึ่งปัจจัยทางด้านร่างกายพ่อแม่อาจจะให้ลูกทานสารสกัดที่ช่วยเรื่องการขับถ่าย อย่างกาแลกโต โอลิโกแซ็กคาไรด์ หรือ GOS ช่วยให้ลูกขับถ่ายได้ดีขึ้น ลดอาการท้องผูก กระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันได้ดีขึ้น ส่วนปัจจัยทางด้านจิตใจควรจะเปิดใจพูดคุยกับลูกหรือสอบถามไปกับครูผู้สอนที่โรงเรียน เพื่อแก้ปัญหาร่วมกัน เพราะการกลั่นแกล้งสามารถสร้างบาดแผลในใจให้กับเด็ก และส่งผลต่อบุคลิกเมื่อเติบโตขึ้นด้วย
5. ลูกเรียนรู้ช้ากว่าเด็กวัยเดียวกัน
ส่วนหนึ่งอาจจะเพราะลูกป่วยบ่อยเลยพลาดโอกาสที่จะได้เรียนรู้เรื่องต่าง ๆ ช้ากว่าเด็กคนอื่น ทำให้ลูกอาจจะเรียนรู้ช้ากว่าเพื่อนวัยเดียวกัน ป้องกันการที่ลูกป่วยบ่อยด้วยสารสกัดจากเบต้ากลูแคน สารสกัดจากเอลเดอร์เบอร์รี และอะเซโรลา เชอร์รี หรือกระตุ้นพัฒนาการเรียนรู้ด้วยสารสกัดจากน้ำมันปลา ที่มีโอเมก้า 3 ช่วยเรื่องพัฒนาการด้านการเรียนรู้ ความจำ และการมองเห็น ซึ่งมีส่วนสำคัญที่ทำให้เด็กสามารถเรียนรู้ได้ดีขึ้นด้วย
สิ่งสำคัญพ่อแม่ต้องห้ามละเลยเรื่องอาหารการกินที่เหมาะสม ตามหลักโภชนการ หลากหลาย และมีประโยชน์กับพัฒนาการ ไม่ควรให้ลูกทานแต่อาหารที่ชอบเพราะอาจจะทำให้เด็กขาดสารอาหารได้ นอกจากนี้เรื่องการออกกำลังกายก็สำคัญ ควรพาลูกออกไปทำกิจกรรมนอกบ้านเพื่อให้สัมผัสกับธรรมชาติ เพราะจะเป็นการส่งเสริมพัฒนาการ และกระตุ้นให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้นอีกด้วยครับ