วัยเด็กเป็นช่วงวัยที่ต้องได้รับสารอาหารทางโภชนาการที่เหมาะสม เพื่อให้การเจริญเติบโตของร่างกายเหมาะสมกับวัย รวมไปถึงพัฒนาการด้านต่าง ๆ พร้อมที่จะเรียนรู้ โดยเฉพาะวิตามินและแร่ธาตุต่าง ๆ ที่สำคัญต่อการเจริญเติบโตอย่างมาก เพราะการขาดวิตามินในเด็กสามารถส่งผลกระทบต่อการเจริญเติบโตและพัฒนาการที่จำเป็นในวันเด็ก รวมถึงสุขภาพโดยรวม หากพ่อแม่สามารถสังเกตและรับรู้สัญญาณของการขาดวิตามินได้เร็ว จะช่วยให้สามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างทันท่วงที
วิธีสังเกตว่าลูกขาดวิตามิน
1. การขาดวิตามินเอ
ตาแห้งและมองเห็นไม่ชัด: วิตามินเอมีบทบาทสำคัญในการมองเห็น การขาดวิตามินเออาจทำให้เกิดอาการตาแห้ง มองเห็นไม่ชัดในที่มืด และมีปัญหากับการมองเห็นในระยะยาว
ผิวหนังแห้งและหยาบ: วิตามินเอช่วยในการรักษาความชุ่มชื้นของผิวหนัง การขาดวิตามินอาจทำให้ผิวหนังแห้งและเป็นขุย
วิธีการดูแล: ให้เด็กกินอาหารที่อุดมไปด้วยวิตามินเอ เช่น แครอท ฟักทอง มันหวาน และผักใบเขียว
2. การขาดวิตามินซี
เลือดออกง่ายและอาการฟกช้ำ: วิตามินซีมีบทบาทสำคัญในการสร้างคอลลาเจนและรักษาสุขภาพหลอดเลือด การขาดวิตามินซีอาจทำให้เลือดออกง่าย ฟกช้ำง่าย และมีปัญหาเหงือกบวม มีเลือดออกตามไรฟันเวลาแปรงฟัน
ภูมิคุ้มกันอ่อนแอ: เด็กที่ขาดวิตามินซีจะมีแนวโน้มที่จะติดเชื้อได้ง่ายกว่า เช่น ไข้หวัด
วิธีการดูแล: เพิ่มอาหารที่มีวิตามินซีในอาหารของเด็ก เช่น สารสกัดจากเอลเดอร์เบอร์รี, อะเซโรลา เชอร์รี หรือให้ทานสารสกัดเบต้ากลูแคนที่กระตุ้นภูมิคุ้มกัน ช่วยป้องกันหวัด ลดการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ ช่วยให้อาการไอหรือคัดจมูกดีขึ้น หายจากอาการหวัดได้เร็ว
3. การขาดวิตามินดี
การทรงตัว: วิตามินดีช่วยในการดูดซึมแคลเซียม ซึ่งจำเป็นสำหรับการเจริญเติบโตและพัฒนาการของกระดูก การขาดวิตามินดีอาจทำให้เด็กมีปัญหากับการเจริญเติบโตของกระดูก เช่น โรคกระดูกอ่อน (Rickets) การทรงตัวจากการเดิน การวิ่ง หรือการเรียนรู้ต่าง ๆ ทำได้ไม่ดีเท่าเพื่อนวัยเดียวกัน
เจ็บปวดในกระดูกและข้อต่อ: เด็กที่ขาดวิตามินดีอาจมีอาการเจ็บปวดในกระดูกและข้อต่อ
วิธีการดูแล: ให้เด็กได้รับแสงแดดเพียงพอ และให้กินอาหารที่มีวิตามินดี เช่น ปลาแซลมอน ไข่แดง และนมที่เสริมวิตามินดี
4. การขาดวิตามินบี12
อ่อนเพลียและความเหนื่อยล้า: วิตามินบี 12 สำคัญต่อการผลิตเซลล์เม็ดเลือดแดง การขาดวิตามินบี 12 อาจทำให้เกิดอาการอ่อนเพลีย เหนื่อยล้า และมีปัญหากับการเจริญเติบโต
ปัญหาสมาธิและพฤติกรรม: เด็กที่ขาดวิตามินบี 12 อาจมีปัญหาในด้านสมาธิและพฤติกรรม เช่น ความวิตกกังวลและการทำงานของสมองที่ลดลง
วิธีการดูแล: ให้เด็กกินอาหารที่มีวิตามินบี 12 สูง เช่น เนื้อสัตว์ ปลา นม และไข่ หรือสารสกัดจากข้าวบาเล่ย์ญี่ปุ่น (GABA) เพิ่มพัฒนาการของสมอง หลับได้ดี มีสมาธิในการเรียนรู้และจดจำได้ดีขึ้น
5. การขาดวิตามินบี6
ปัญหาในการเจริญเติบโต: วิตามินบี 6 มีบทบาทสำคัญในกระบวนการเมตาบอลิซึมของโปรตีนและการเจริญเติบโตของเซลล์ การขาดวิตามินบี 6 อาจทำให้การเจริญเติบโตของเด็กช้าลง
อาการหงุดหงิดและซึมเศร้า: การขาดวิตามินบี 6 อาจทำให้เกิดอาการหงุดหงิด ซึมเศร้า และมีปัญหาในการเรียนรู้
วิธีการดูแล: เพิ่มอาหารที่มีวิตามินบี 6 เช่น กล้วย โยเกิร์ต และธัญพืชในอาหารของเด็ก หรือในรับประทานสารสกัดจาก Omega 3 น้ำมันปลา พัฒนการของเด็ก มีกรดไขมัน DPA & DHA นอกจากนี้ควรให้เด็กทานสารสกัด กาแลกโต โอลิโกแซ็กคาไรด์ (GOS) ช่วยกระตุ้นการการขับถ่าย และเสริมภูมิคุ้มกัน
หากสนใจสารสกัดที่เหมาะสมสำหรับเด็กที่มีส่วนประกอบ กาแลกโต โอลิโกแซ็กคาไรด์ GOS, สารสกัดจากเบต้ากลูแคน, สารสกัดจากเอลเดอร์เบอร์รี สารสกัดจากอะเซโรลา เชอร์รี สารสกัดจาก Omega 3 หรือ น้ำมันปลา, สารสกัดจากข้าวบาเล่ย์ญี่ปุ่น (GABA) ติดต่อทีม YOUR เพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ได้ทาง Inbox m.me/yourofficialthailand หรือ Line : @Yourthailand