ในยุคที่ใครต่างก็รักสุขภาพ การลดน้ำหนักให้กลับมาอยู่ในเกณฑ์ปกติจึงเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ใครก็อยากพิชิตให้ได้ ซึ่งสูตรลดน้ำหนักมีมากมายหลายวิธี ทั้งการออกกำลังกายและควบคุมอาหารด้วยการนับปริมาณแคลเลอรี วิธีการทำ IF (Intermittent Fasting) หรือจะเป็นการรับประทานอาหารแบบคีโตเจนิก นับว่าเป็นวิธีที่ฮอตฮิตมาก ๆ ในช่วงนี้ แต่ก่อนเริ่มทานเรามารู้ก่อนว่าการทานคีโตเจนิกคืออะไร มีข้อดีและข้อควรระวังในเรื่องอะไรบ้าง
คีโตเจนิกคืออะไร
Ketogenic diet หรืออาหารประเภทคาร์โบไฮเดรตต่ำมาก ไขมันสูง และโปรตีนพอประมาณ เริ่มมีมาตั้งแต่ปี 1920 เพื่อใช้รักษาโรคลมชัก ต่อมาปี 1960 ก็นำมาใช้สำหรับรักษาโรคอ้วน โดยใช้หลักการดึงไขมันให้เป็นพลังงานแทนกลูโคส จึงกลายมาเป็นสูตรลดน้ำหนักโดยเลือกกินอาหารแบบโลว์คาร์บเป็นหลักนั่นเอง
อาหารอะไรบ้างคือคีโตเจนิก
เนื้อสัตว์ ได้แก่ เนื้อสัตว์ติดมัน เครื่องใน ไข่ อาหารทะเล เบคอน เนื้อสัตว์แปรรูป เลือกยี่ห้อที่ไม่ผสมแป้ง
ผัก ได้แก่ ผักใบเขียวทุกชนิด หลีกเลี่ยงผักหัวใต้ดินอย่างแครอท มัน ถั่วฝักยาว ถั่วแขก ฟักทอง ฯลฯ
ผลไม้ ได้แก่ อะโวคาโด เนื้อมะพร้าว มะนาว เลมอน มะกอก เบอร์รี หลีกเลี่ยงผลไม้ที่น้ำตาลสูง เช่น ทุเรียน ส้ม สับปะรด
น้ำมัน/ไขมัน ได้แก่ น้ำมันมะกอก น้ำมันมะพร้าว เนย กะทิ
ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของนม ได้แก่ ชีสทุกชนิด ครีมชีส วิปครีม
เครื่องดื่ม ได้แก่ นมอัลมอนด์ ชา กาแฟ น้ำโซดา น้ำมะนาว แนะนำดื่มน้ำเปล่าดีที่สุดครับ
ข้อดีของการลดน้ำหนักโดยการทานแบบคีโตเจนิก
1. สังเกตได้ว่าน้ำหนักลงอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะช่วง 6 เดือนแรกที่เริ่มรับประทาน
2. ลดการสร้างไขมันและร่างกายเริ่มนำพลังงานจากไขมันไปใช้
3. เพิ่มเมตาบอลิซึมของร่างกายในส่วนที่นำไขมันไปใช้
4. ลดความอยากอาหารจากผลต่อมฮอร์โมนควบคุมความหิว/อิ่ม และผลโดยตรงจากคีโตน
ข้อควรระวัง
1. ในแง่ของการลดน้ำหนักการรับประทานคีโตเจนิกมีผลดีมากโดยเฉพาะในระยะสั้น 6 เดือนแรก สำหรับระยะยาวนั้นอาจจะไม่ได้มีผลลัพธ์ที่แตกต่างมาก เนื่องจากการการรับประทานอาหารแบบเดียวในระยะเวลานานแน่นอนไม่ว่าไม่ส่งผลดีต่อสุขภาพอย่างถาวร อย่างการไม่รับประทานผักและผลไม้บางชนิดอาจจะทำให้ร่างกายขาดสารอาหารบางอย่างได้นะครับ
2. คนที่เป็นโรคเกี่ยวกับตับและไต ไม่ควรรับประทานคีโตเจนิก เนื่องจากอาจจะไม่ได้รับสารอาหารบางประเภทอย่างครบถ้วน
3. คนที่มีปัญหาเกี่ยวกับระบบเผาผลาญไขมัน คอเลสเตอรอล และไตรกลีเซอไรด์ในเลือดสูงไม่ควรรับประทานคีโตเจนิก
4. ในช่วงแรกที่เริ่มทานคีโตอาจจะทำให้เกิดการเวียนหัว หน้ามืด และหิวบ่อยได้ เพราะเป็นช่วงที่ร่างกายกำลังนำน้ำตาลและพลังงานไปใช้จำนวนมากครับ
สิ่งสำคัญสำหรับคนทานคีโตเจนิกคือการเลือกรับประทานอาหาร คือการเลือกอาหารที่มีไขมันดี และรับปริมาณที่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกายในแต่ละวัน ห้ามอด และไม่ควรปล่อยให้ตัวเองหิว ที่สำคัญควรออกกำลังกายควบคู่ไปด้วยเพื่อสร้างกล้ามเนื้อให้แข็งแรง และเลือกรับประทานอาหารเสริมอย่าง “เบต้ากลูแคน” ที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกายแข็งแรง ต้านอนุมูลอิสระได้อีกด้วย ไม่ว่าจะลดน้ำหนักด้วยวิธีไหนสิ่งสำคัญเราต้องสังเกตความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับร่างกายของเรา ถ้ารู้สึกไม่ดี ไม่สดชื่น อ่อนเพลีย แปลว่าเรากำลังใช้วิธีที่ผิดนะครับ