รังสีอยู่รอบตัวเราในธรรมชาติและในอุปกรณ์สิ่งอำนวยความสะดวกในชีวิตประจำวันเราเยอะมาก ๆ นะครับ โดยการค้นพบรังสีนำมาซึ่งการใช้ประโยชน์มากมาย ในทางตรงข้ามรังสีก็ยังถือว่ามีโทษและทำอันตรายให้เราได้อยู่หากใช้ไม่ระมัดระวัง โดยเฉพาะกับเด็กที่มีร่างกายที่บอบบางกว่าผู้ใหญ่มาก มาดูกันว่ารังสีอะไรที่อยู่รอบตัวเด็ก ๆ บ้าง และจะมีวิธีใช้อย่างระมัดระวังอย่างไร
รังสี UV หรือ อัลตราไวโอเลต
ผลกระทบ: นับเป็นรังสีที่อยู่ตามธรรมชาติ โดยเฉพาะในแสงแดด รังสี UV มีประโยชน์คือสามารถช่วยสังเคราะห์วิตามินดีได้ ซึ่งวิตามินดี ช่วยกระตุ้นเรื่องอารมณ์ ช่วยผ่อนคลายความเครียด ช่วยเรื่องการนอนหลับ และช่วยสังเคราะห์ฮอร์โมนบางชนิดได้ด้วย แต่ในขณะที่ตากแดดนาน ๆ ก็ส่งผลเสียต่อร่างกายของเด็กได้เช่นกัน เช่น ผิวไหม้จากการโดนแดดเผา ร่างกายปรับอุณหภูมิไม่ทัน อาจจะทำให้เป็นไข้ หรือฮีทสโตรกได้ ที่สำคัญเด็กบางคนอาจจะเกิดอาการแพ้หากตากแดดเป็นเวลานาน หรือกระตุ้นให้เกิดโรคผิวหนังบางชนิดได้ด้วย
วิธีการป้องกัน: หากต้องออกไปทำกิจกรรมนอกบ้าน หรือต้องตากแดดพ่อแม่อาจจะต้องหาครีมกันแดดสำหรับเด็กมาทา โดยให้เลือกชนิดที่ป้องกัน UVA/UVB SPF50+ โดยควรทาซ้ำ 2-3 ชั่วโมง หรือหาอุปกรณ์ป้องกันแดด เช่น หมวก เสื้อกันรังสี UV
แสงสีฟ้า หรือ แสง UV สีขาว
ผลกระทบ: แท้จริงแล้วแสงสีฟ้าเป็นแสงที่อยู่ทุกหนทุกแห่งที่เราอยู่ ไม่ว่าจะเป็นแสงจากดวงอาทิตย์ แสงจากหลอดไฟตามบ้าน แสงจากอุปกรณ์ที่มีจอ เช่น โทรศัพท์มือถือ แท็บเล็ต จอคอมพิวเตอร์ โดยประโยชน์ของแสงสีฟ้าช่วยให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนช่วยกระตุ้นให้เรากระฉับกระเฉง ให้ร่างกายเรารู้ว่าเวลาไหนควรนอน เวลาไหนควรตื่น ส่วนโทษของแสงสีฟ้าจะทำให้จอประสาทตาของเราเสื่อมลงได้ หากเราได้รับแสงนี้จำนวนมากต่อวัน โดยเฉพาะสายตาของเด็กที่ยังไม่เจริญเติบโตดี อาจจะทำให้สายตาสั้นเร็ว กล้ามเนื้อตาล้า มีอาการปวดตา เวียนหัวได้
วิธีการป้องกัน: ทางที่ดีพ่อแม่ควรจำกัดเวลาการใช้หน้าจอให้ลูก ในวันหนึ่งไม่ควรใช้เกินเวลาที่กำหนด นอกจากจะเป็นการสร้างนิสัยที่ดีแล้ว ยังช่วยลดผลกระทบที่อาจจะเกิดเกี่ยวกับการพัฒนาการด้วย เช่น การพูดได้ช้า กล้ามเนื้อมัดเล็กไม่ได้ถูกใช้งานเท่าที่ควร เพราะไม่ได้ออกไปทำกิจกรรมที่ส่งเสริมพัฒนาการนั่นเองครับ
นอกจากนี้ยังมีรังสีอื่น ๆ อีกที่พ่อแม่ต้องระมัดระวัง เช่น รังสีที่เกี่ยวกับการแพทย์ การเอ็กซเรย์ การตรวจ MRI หรือการฉาย CT scan เนื่องจากเด็กมีความเปราะบางการวินิจฉัยให้ใช้เครื่องมือที่เกี่ยวกับรังสีควรอยู่ในดุลยพินิจของกุมารแพทย์จะดีที่สุดนะครับ เพราะมีการศึกษามาแล้วว่าการใช้รังสีกับเด็กมากเกินไปส่งผลกระทบกับร่างกายได้มากกว่าผู้ใหญ่และควรระมัดระวังครับ
นอกจากการป้องกันแล้วสิ่งสำคัญคือควรส่งเสริมให้ลูกมีสุขภาพร่างกายและจิตใจที่เข้มแข็ง รวมถึงภูมิคุ้มกันในร่างกายที่มีประสิทธิภาพจะได้สามารถปกป้องร่างกายเด็ก ๆ จากสิ่งแปลกปลอมได้ดี โดยการรับประทาน “เบต้ากลูแคน“ ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ปลอดภัย นอกจากจะช่วยกระตุ้นให้ภูมิคุ้มกันของเด็กทำงานได้ดีแล้ว ยังลดการอักเสบของเนื้อเยื่อ ป้องกันการป่วยเล็กน้อย หรือจะรับประทานควบคู่ไปกับ “สารสกัดกาแลกโต โอลิโกแซ็กคาไรด์” ช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันได้เหมือนกัน ทั้งยังช่วยเรื่องการขับถ่าย ลดอาการท้องผูก ลดการอักเสบของลำไส้ ที่สำคัญช่วยย่อยได้ดีอีกด้วย