รวมโรคที่เกิดจาก “ภูมิคุ้มกันอ่อนแอ” รีบดูแลระบบภูมิคุ้มกันก่อนสาย

ภูมิคุ้มกันอ่อนแอ

“ภูมิคุ้มกัน” คือระบบป้องกันของร่างกายที่ช่วยต่อสู้กับเชื้อโรคและสิ่งแปลกปลอมต่าง ๆ เพื่อป้องกันไม่ให้เราป่วย แต่เมื่อไหร่ที่ระบบภูมิคุ้มกันนั้นอ่อนแอ ก็จะไม่สามารถทำหน้าที่ได้อย่างเต็มที่ ร่างกายจะเสี่ยงต่อการเกิดโรคต่าง ๆ ได้ง่ายขึ้น บางโรคเป็นอาการที่รุนแรงและอาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนร้ายแรงหากไม่ได้รับการรักษาอย่างเหมาะสม เราจะมาทำความรู้จักกับ 5 โรคที่มักเกิดขึ้นเมื่อภูมิคุ้มกันอ่อนแอ และวิธีดูแลตัวเองเพื่อป้องกันโรคเหล่านี้

 

1. ไข้หวัดและไข้หวัดใหญ่

ไข้หวัด เป็นโรคติดเชื้อที่เกิดจากไวรัส มักพบในคนที่มีภูมิคุ้มกันอ่อนแอ เพราะระบบภูมิคุ้มกันไม่สามารถกำจัดไวรัสได้ทันที ทำให้เกิดอาการคัดจมูก ไอ จาม เจ็บคอ และมีไข้ ส่วนไข้หวัดใหญ่เป็นโรคที่มีอาการรุนแรงกว่า เช่น ไข้สูง ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ และเหนื่อยล้า ซึ่งอาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อน เช่น ปอดบวมได้ในกรณีที่ภูมิคุ้มกันต่ำ

วิธีป้องกัน:

– รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ และพักผ่อนให้เพียงพอ

– ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ

– รับวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ทุกปี

 

2. โรคปอดบวม (Pneumonia)

เมื่อระบบภูมิคุ้มกันนั้นอ่อนแอ ร่างกายจะไม่สามารถป้องกันการติดเชื้อในปอดได้อย่างเต็มที่ ทำให้เกิดโรคปอดบวม ซึ่งเป็นการติดเชื้อในเนื้อเยื่อปอดที่อาจทำให้หายใจลำบาก มีไข้สูง และมีอาการไอหนัก โรคปอดบวมมักเกิดจากแบคทีเรีย ไวรัส หรือเชื้อรา และหากไม่ได้รับการรักษาทันเวลาอาจทำให้ระบบหายใจล้มเหลว

วิธีป้องกัน:

– รักษาความสะอาด หมั่นล้างมือ และหลีกเลี่ยงสถานที่แออัด

– รับวัคซีนป้องกันโรคปอดบวมโดยเฉพาะในผู้สูงอายุ

– หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ซึ่งทำลายปอดและลดภูมิคุ้มกัน

 

3. โรคเริม (Herpes Simplex Virus)

โรคเริมเกิดจากการติดเชื้อไวรัส Herpes Simplex Virus (HSV) โดยส่วนใหญ่มักพบที่ปากหรือบริเวณอวัยวะเพศ คนที่มีภูมิคุ้มกันอ่อนแอจะมีโอกาสติดเชื้อได้ง่ายกว่า และเมื่อเป็นแล้วเชื้อไวรัสจะยังคงอยู่ในร่างกาย แม้ว่าจะไม่มีอาการ โดยสามารถกำเริบได้เมื่อภูมิอ่อนแอลงอีกครั้ง

วิธีป้องกัน:

– หลีกเลี่ยงการสัมผัสโดยตรงกับคนที่เป็นโรคเริม

– ดูแลสุขภาพให้แข็งแรงเพื่อให้ภูมิคุ้มกันสามารถควบคุมไวรัสได้

– ใช้ถุงยางอนามัยเพื่อลดความเสี่ยงในการแพร่เชื้อทางเพศสัมพันธ์

 

4. การติดเชื้อรา (Fungal Infections)

คนที่มีภูมิอ่อนแอมักเสี่ยงต่อการติดเชื้อราต่างๆ เช่น เชื้อราในปาก (Thrush) หรือเชื้อราที่ผิวหนัง (Tinea) เชื้อราจะเจริญเติบโตได้ดีในสภาพแวดล้อมที่ร่างกายไม่สามารถควบคุมได้ อาการของการติดเชื้อรามักเป็นอาการคัน แดง และอักเสบ ซึ่งบางครั้งอาจรุนแรงถึงขั้นเกิดการติดเชื้อในกระแสเลือด

วิธีป้องกัน:

– รักษาความสะอาดของร่างกายและสิ่งของที่ใช้

– หลีกเลี่ยงการใช้ของส่วนตัวร่วมกับผู้อื่น

– เสริมสร้างภูมิคุ้มกันด้วยการรับประทานอาหารที่มีวิตามินซีและอี หรือสารสกัดจากเบต้ากลูแคน

 

5. โรคติดเชื้อ HIV และโรคเอดส์ (AIDS)

ไวรัส HIV โจมตีเซลล์ภูมิคุ้มกันในร่างกาย ทำให้ภูมิคุ้มกันลดลงเรื่อย ๆ หากไม่ได้รับการรักษา เชื้อ HIV จะพัฒนาเป็นโรคเอดส์ ซึ่งเป็นภาวะที่ภูมิคุ้มกันถูกทำลายจนหมด ทำให้ร่างกายไม่สามารถต่อสู้กับเชื้อโรคทั่วไปได้ โรคเอดส์ทำให้ผู้ป่วยเสี่ยงต่อการติดเชื้อทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นแบคทีเรีย ไวรัส หรือเชื้อรา

วิธีป้องกัน:

– ใช้ถุงยางอนามัยในการป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์

– หลีกเลี่ยงการใช้เข็มฉีดยาร่วมกับผู้อื่น

– หากพบเจอว่าตัวเองมีความเสี่ยง ควรตรวจหาเชื้อ HIV และรับการรักษาด้วยยาต้านไวรัสอย่างสม่ำเสมอ

 

สารสกัดจากเบต้ากลูแคน ตัวช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน

เบต้ากลูแคนที่สกัดมาจากผนังเซลล์ของยีสต์ Saccharomyces Cerevisiae มีส่วนช่วยในการเสริมภูมิคุ้มกันให้แก่ร่างกาย ซึ่งมีประสิทธิภาพสูงสุดเท่าที่วงการวิทยาศาสตร์รู้จักในปัจจุบัน ซึ่งเป็นที่ยอมรับว่าสารสกัดชนิดนี้ช่วยกระตุ้นการทำงานของภูมิคุ้มกันได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกหนึ่งชนิด จึงเป็นทางเลือกที่ดีและเหมาะสมสำหรับผู้ที่อยากดูแลสุขภาพร่างกายโดยรวม

 

หากสนใจสารสกัดจากเบต้ากลูแคนสามารถติดต่อทีม YOUR เพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ได้ทาง Inbox m.me/yourofficialthailand หรือ Line : @Yourthailand

Leave a comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *

TOP