รวมสารในชีวิตประจำวันที่ต้องระวัง ปัจจัยเสี่ยงหลายโรคร้าย

ชีวิตประจำวัน

พูดถึงสารเคมีหลายคนอาจจะคิดว่าเป็นสิ่งที่อันตราย แต่ในชีวิตประจำวันของเราเลี่ยงที่จะสัมผัสกับสารเคมีเหล่านี้ยากครับ ทั้งสารเคมีจากธรรมชาติและสารเคมีสังเคราะห์ เพราะข้าวของเครื่องใช้ที่รายล้อมเราในปัจจุบัน ก็นับว่าเป็นสารเคมีทั้งนั้น แต่จะมีสารเคมีอะไรบ้างที่เราควรเลี่ยงและไม่สัมผัสในปริมาณที่มาก เพราะอาจจะเสี่ยงต่อโรคร้ายในอนาคตได้

คาร์บอนมอนออกไซด์ (CO)

พบสารนี้ได้เมื่อเกิดการเผาไหม้ที่ไม่สมบูรณ์ จากควันรถยนต์ โรงงานอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นก๊าซที่ไม่มีสีไม่มีกลิ่น โดยร่างกายของเราจะได้รับก๊าซนี้จากการสูดดม หากสูดดมไปนาน ๆ เข้าก็อาจจะทำให้เวียนหัว คลื่นไส้ หายใจติดขัด เจ็บบริเวณหน้าอก และอาจจะอาเจียนได้ โดยก๊าซนี้นับว่าเป็นก๊าซพิษที่สามารถสะสมในร่างกาย ทำให้ฮีโมโกลบินในเม็ดเลือดแดงส่วนที่เหลือไม่ปล่อยออกซิเจนให้กับเนื้อเยื่อส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย อาจจะเกิดโรคที่เกี่ยวกับหลอดเลือดและหัวใจในอนาคต

โซเดียมโมโนกลูตาเมต

ที่เราหลายคนรู้จักกันดีในชื่อ “ผงชูรส” เป็นสารปรุงอาหารชนิดหนึ่งที่ช่วยเพิ่มรสชาติความกลมกล่อมให้อาหารได้ นิยมใส่ในอาหารแทบจะทุกชนิดโดยเฉพาะอาหารไทยรสจัด ซึ่งมีผลงานวิจัยและศึกษาออกมามากมายว่าผงชูรสไม่มีผลข้างเคียงอย่างผมร่วงหรือมีสารก่อมะเร็ง แต่ผลข้างเคียงที่สำคัญที่สุดของการบริโภคผงชูรสคือ ปริมาณโซเดียมที่สูง ซึ่งการรับประทานโซเดียมหรือเกลือในปริมาณมาก ๆ จะทำให้ร่างกายขาดน้ำ ส่งผลให้ความดันในเลือดสูงขึ้น ซึ่งอาจจะก่อให้เกิดโรคความดันโลหิตสูง โรคไตวาย หรือภาวะบวมน้ำจากโซเดียมได้ ฉะนั้นควรบริโภคโซเดียมไม่เกิน 2,000 มิลลิกรัม/วัน จะดีที่สุดครับ

สารให้ความหวานแทนน้ำตาล

ปัจจุบันนิยมใช้แทนน้ำตาลปกติ เนื่องจากให้พลังงานต่ำ แต่ยังคงให้รสหวานแก่อาหารได้ แม้การบริโภคสารให้ความหวานแทนน้ำตาลจะไม่ได้สร้างความอันตรายทางตรงให้กับร่างกายเสียทีเดียว แต่การบริโภคสารให้ความหวานแทนน้ำตาล จะเป็นการกระตุ้นให้ร่างกายต้องบริโภคของหวานอยู่เสมอ ทั้งยังมีรายงานว่าสารให้ความหวานบางชนิด สามารถกระตุ้นให้เกิดการดูดซึมน้ำตาลได้มากขึ้นด้วย หากวันใดไม่ได้ทานจะรู้สึกหงุดหงิด ซึมเศร้า หรือไม่มีพลังในการทำกิจกรรมในชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะผู้ที่ลดความอ้วนหรือควบคุมน้ำหนัก ไม่ควรทานอาหารที่ใช้สารให้ความแทนน้ำตาลเป็นประจำ เพราะมีโอกาสที่จะอยากทานของหวานอยู่ตลอดเวลา ทำให้การลดน้ำหนักเป็นไปได้ยากมากขึ้น แน่นอนว่าการติดหวานจะส่งผลเสียต่อร่างกาย กระทบต่อระบบเผาผลาญ เสี่ยงเกิดหลายโรค ทั้งโรคอ้วน โรคเบาหวาน โรคไขมันในหลอดเลือดสูง ฯลฯ

น้ำดื่มเติมวิตามิน

นับเป็นเครื่องดื่มที่ได้รับความนิยมพอสมควรเลยนะครับในช่วงนี้ เพราะไม่มีน้ำตาล มีกลิ่นอ่อน ๆ ทำให้รู้สึกดื่มน้ำได้มากขึ้น แถมยังมีวิตามินบำรุงร่างกายด้วย แต่หลายคนอาจจะยังไม่ทราบว่า ร่างกายของก็มีขีดจำกัดในการรับวิตามินบางชนิดในแต่ละวัน เช่น วิตามินซีไม่ควรได้รับเกิน 2,000 มิลลิกรัม/วัน หรือวิตามินบีมีหลากหลายชนิด อย่างวิตามินบี 1 ร่างกายต้องการวันละ 5 มิลลิกรัมเท่านั้น ก่อนดื่มควรศึกษาปริมาณที่ร่างกายต้องการ เพราะหากได้รับเกินกว่าที่ร่างกายต้องการจะแย่งกันดูดซึม อาจจะทำให้ไม่เกิดประโยชน์ต่อร่างกายเลยก็ได้ครับ ที่สำคัญการบริโภควิตามินชนิดในชนิดหนึ่งมากเกินไปก็อาจจะส่งผลเสียต่อร่างกายได้ เนื่องจากขาดสารอาหารบางชนิดนั่นเอง

สำหรับสารสกัดที่ปลอดภัยและมีความบริสุทธิ์เท่าไหร่ยิ่งมีประสิทธิภาพสูงอย่าง “เบต้ากลูแคน” แนะนำสหรับคนที่อยากลดความเสี่ยงจากการใช้ชีวิตในแต่ละวัน เป็นสารสกัดที่ช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันให้ร่างกายได้ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ด้วยการทำงานกับเซลล์เม็ดเลือดขาวโดยตรง เมื่อร่างกายได้รับสิ่งแปลกปลอมหรือสิ่งผิดปกติ จะทำหน้าที่ป้องกันและกำจัดก่อนที่จะทำให้เราได้รับผลกระทบ นับว่าเป็นการสร้างสุขภาพให้แข็งแรงตั้งแต่เนิ่น ๆ โดยที่ไม่ต้องรอให้ป่วยก่อนครับ

Leave a comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *

TOP