สำหรับปีใหม่ปีนี้ ใครที่มีเป้าหมายว่าอยากดูแลสุขภาพ วันนี้มาแนะนำทางเลือกอีกทางหนึ่งที่จะช่วยดูแลสุขภาพของทุกคนได้ นั่นคือการเลือกรับประทานวิตามินที่ช่วยดูแลสุขภาพได้นั่นเองครับ จึงได้รวบรวมวิตามินที่เหมาะแก่การดูแลสุขภาพมาแบ่งปัน รวมไปถึงวิตามินต่าง ๆ เหมาะกับใคร ดีอย่างไรบ้าง และควรรับประทานเท่าไหร่จึงจะเหมาะสม มาฝากทุกคนกันครับ

รู้ไหม? การรับประทานวิตามินให้เกิดประโยชน์ที่สุดทำอย่างไร

การรับประทานวิตามิน อาหารเสริม หรือสารสกัดต่าง ๆ ให้ได้ประโยชน์สูงสุด คือ ต้องรู้ว่าร่างกายของเราต้องการวิตามินแต่ละประเภทในปริมาณเท่าไหร่ เพราะการรับประทานเกินปริมาณที่ร่างกายต้องการ จะเกิดการแย่งซึมการดูดซึม ซึ่งอาจจะทำให้ไม่เกิดประโยชน์อะไรเลยก็ได้ครับ

วิตามินที่ควรบริโภคในปี 2023

1. เบต้ากลูแคน – สารสกัดที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มได้ดีที่สุด

เชื่อว่าตั้งแต่โควิด-19 ระบาดหลายคนพยายามค้นหาสารสกัดที่ช่วยดูแลสุขภาพโดยเฉพาะเรื่องเสริมสร้างภูมิต้านทาน เพราะสิ่งนี้เป็นเรื่องที่สำคัญและจำเป็นมาก ๆ ในการต้านทานการติดเชื้อไวรัส และ “เบต้ากลูแคน” ก็นับเป็นสารสกัดแรก ๆ ที่ผู้เชี่ยวชาญแนะนำ เพราะเป็นสารสกัดที่ช่วยกระตุ้นให้ระบบภูมิคุ้มกันให้ทำงานได้อย่างเต็มที่มากยิ่งขึ้น ด้วยการทำงานกับเซลล์เม็ดเลือดขาวโดยตรง ทั้งยังมีสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดการอักเสบของเนื้อเยื่อ เพิ่มความแม่นยำในการค้นหาสิ่งแปลกปลอมที่พยายามจะเข้าสู่ร่างกายได้มากขึ้น โดยแนะนำให้รับประทานที่สกัดจากธรรมชาติ 100% และเป็นชนิดเบต้า 1,3/1,6 D-กลูแคนจะมีประสิทธิภาพสูงสุด

สำหรับคำแนะนำในการรับประทาน

ผู้ที่ต้องการบำรุงสุขภาพทั่วไปแนะนำให้รับประทาน วันละ 10 – 20 มิลลิกรัม ต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม เช่น ถ้าน้ำหนัก 50 กิโลกรัม แนะนำให้ทานวันละ 500 – 1,000 มิลลิกรัม ก่อนอาหาร 1 ชั่วโมง หรือหลังอาหาร 2 ชั่วโมง และสำหรับผู้ป่วยต้องการเสริมภูมิต้านทานและลดผลข้างเคียงจากการบำบัดหรือรักษาโรค เช่น การให้คีโมรักษามะเร็ง แนะนำให้ทาน วันละ 40 – 50 มิลลิกรัม ต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม เช่น ถ้าน้ำหนักตัว 50 กิโลกรัม ควรทานวันละ 2,000 – 2,500 มิลลิกรัม ทั้งนี้ขึ้นอยู่ความสะดวกและความต้องการของผู้รับประทานนะครับ

2. วิตามินซี

โดยในอาหารหลายชนิดที่เรารับประทานประจำวันก็มีวิตามินซีจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นผลไม้รสเปรี้ยว หรือกระทั่งผักบางชนิดก็มีวิตามินซีสูง โดยวิตามินซีมีส่วนในการช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน ช่วยป้องกันโรคหวัด และช่วยลดการอักเสบ อีกทั้งยังช่วยชะลอวัยเพราะมีสารต้านอนุมูลอิสระจำนวนมาก สำหรับคำแนะนำในการประทานเป็นวิตามินซีแบบสกัด

คนเราควรทานวิตามินซีวันละ 1,000 มิลลิกรัมต่อวัน จะช่วยกระตุ้นระบบภูมิต้านทานร่างกายและการบำรุงผิวพรรณได้ดี แต่สำหรับผู้ที่ป่วยเป็นโรคหวัดหรือภูมิแพ้บ่อย ควรทานวิตามินซี 2,000 มิลลิกรัมหรือมากกว่านั้นได้ครับ

3. สารสกัดจากฮอร์ธอร์นและโคคิวเท็น

สำหรับสารสกัดจากฮอร์ธอร์นเป็นสารสกัดที่ช่วยดูแลเรื่องหัวใจและหลอดเลือด ซึ่งนับว่าเป็นโรคไม่ติดต่อเรื้อรังที่มีคนไทยป่วยจำนวนมากขึ้นในทุก ๆ ปี และพบว่าผู้ป่วยมีอายุน้อยลงเรื่อย ๆ อีกด้วย ซึ่งสารสกัดจากฮอร์ธอร์นจะช่วยไปขยายหลอดเลือด ช่วยให้เลือดไหลเวียนได้ดีขึ้น ลดไขมันอุดตันในหลอดเลือด ซึ่งสามารถลดความเสี่ยงที่ที่จะเกิดโรคหัวใจ หลอดเลือด และโรคหลอดเลือดสมองได้ นอกจากนี้สารสกัดจากโคคิวเท็นก็ยังถือว่าสามารถทำงานสอดคล้องกันได้ดี โดยจะช่วยไปเติมพลังงานให้หัวใจของเราทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพราะสารนี้จะผลิตได้น้อยลงหากเราอายุมากขึ้นครับ โดยคำแนะนำในการรับประทานฮอร์ธอร์นและโคคิวเท็น คือ

สารสกัดจากฮอร์ธอร์น 300 มิลลิกรัม โคคิวเท็น 60 มิลลิกรัม สำหรับการบำรุงสุขภาพหัวใจและหลอดเลือด

สารสกัดจากฮอร์ธอร์น 600 มิลลิกรัม โคคิวเท็น 120 มิลลิกรัม สำหรับผู้ที่เริ่มมีปัญหาด้านหัวใจและหลอดเลือด

สารสกัดจากฮอร์ธอร์น 900 มิลลิกรัม โคคิวเท็น 180 มิลลิกรัม สำหรับผู้ที่มีปัญหาหัวใจและหลอดเลือด