ดูเหมือนในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 วัคซีนโควิดจะเป็นทางออกเดียวที่มวลมนุษยชาติตั้งความหวัง จากประวัติศาสตร์การแพร่ระบาดครั้งใหญ่ ๆ ในโลกที่ผ่านมาก็มาจบลงได้ด้วยวัคซีนนี่แหละครับ ครั้งนี้ใคร ๆ ก็คงหวังอย่างนั้น
กว่าวัคซีนจะเดินทางมาถึงเรา
การพัฒนาวัคซีนในอดีตใช้เวลานานบางชนิดใช้เวลาเป็น 10-20 ปี กว่าจะได้วัคซีนที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพครับ ต่างจากปัจจุบันที่วัคซีนใช้เวลาวิจัยและค้นคว้าได้เร็วขึ้น อย่างวัคซีนโควิด-19 ใช้เวลาไม่ถึงปีด้วยซ้ำ เนื่องจากเทคโนโลยีและความก้าวหน้าทางด้านความรู้ทางการแพทย์และวิทยาศาสตร์ที่มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องเสมอ สำหรับการวิจัยและพัฒนาวัคซีนหลังจากที่ค้นพบรหัสพันธุกรรมของไวรัสโรคนั้น ๆ แล้ว มี 4 ระยะด้วยกัน
ระยะที่ 1 ทดลองในสัตว์ ในห้องปฏิบัติการ
ระยะที่ 2 ทดสอบความปลอดภัย โดยการให้วัคซีนกับคนกลุ่มหนึ่ง
ระยะที่ 3 ทดลองประสิทธิภาพ โดยการให้วัคซีนกับคนจำนวนมากขึ้น
ระยะที่ 4 อนุมัติการใช้งาน (หากเกิดโรคระบาดต้องเร่งแก้ปัญหา จะมีการอนุมัติการใช้งานฉุกเฉิน ในแต่ละประเทศนั้น ๆ)
วัคซีนสำหรับโควิด-19 มีกี่ประเภท?
– วัคซีน mRNA : เป็นวัคซีนรูปแบบใหม่ที่ใช้ป้องกันโรคติดเชื้อในมนุษย์ ที่ผ่านมาการฉีดวัคซีนจะเป็นการฉีดเชื้อโรคเพื่อให้ร่างกายรู้จักกับเชื้อโรคนั้นครับ แต่วัคซีน mRNA สามารถเรียนรู้รหัสพันธุกรรมของเชื้อต้นแบบได้เลย เมื่อฉีดเข้าไปในร่างกาย รวมถึงกระตุ้นให้เกิดการสร้างระบบภูมิคุ้มกันขึ้น ซึ่งสามารถป้องกันเชื้อโรคที่เคยยากต่อการรักษาได้อีกด้วย นอกจากนี้ยังผลิตง่ายกว่าวัคซีนประเภทอื่น ๆ
– วัคซีนที่มีไวรัสเป็นพาหะ (viral vector vaccine) : วัคซีนชนิดนี้จะใช้สารพันธุกรรมของไวรัสโคโรนาใส่เข้าไปในไวรัสที่จะเป็นพาหะหรือตัวฝาก โดยไวรัสที่เป็นพาหะนั้นจะไม่ก่อให้เกิดโรคร่างกายของมนุษย์ เมื่อฉีดวัคซีนเข้าไปในร่างกายแล้วไวรัสก็จะถอดรูปพันธุกรรมที่ส่งเข้าไป เป็นการกระตุ้นให้ระบบภูมิคุ้มกันสร้างแอนติบอดีในที-เซลล์ (T-cell) ได้ด้วยครับ
– วัคซีนเชื้อตาย (killed vaccine) : วัคซีนที่ใช้มานานกว่าศตวรรษเราคุ้นกันดี เป็นการนำเชื้อไวรัสโคโรนามาเพาะเลี้ยง จากนั้นก็นำฆ่าเชื้อให้ตาย แล้วนำไปใส่สารกระตุ้นภูมิต้านทานให้ร่างกาย
– วัคซีนที่ใช้โปรตีน (protein-based vaccine) : วัคซีนชนิดนี้จะใช้สารประกอบของโปรตีนของเชื้อไวรัส SARS-CoV-2 โดยใช้เป็นชิ้นส่วนโปรตีนของไวรัส ที่เรียกว่า Skipe Protein ที่เป็นหนามของโคโรนาโวรัส โดยฉีดเข้าไปในร่างกายเพื่อกระตุ้นให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันต่อเชื้อไวรัส
นอกจากวัคซีนจะเป็นความหวังของเราแล้ว การดูแลตัวเองและการเสริมสร้างภูมิคุ้นกันอย่างสม่ำเสมอ เช่น การรับประทานอาหารเสริมประเภทเบต้ากลูแคนก็จะช่วยปกป้องเราได้อีกทางหนึ่งนะครับ