เริ่มต้นปี 2565 โควิด-19 ก็ยังเป็นวาระระดับโลกที่ทุกประเทศต้องตื่นตัวและพร้อมรับมือกับวิกฤติโรคระบาดนะครับ ยิ่งมีการกลายพันธฺุ์ของไวรัส ก็อาจจะมีโอกาสที่เกิดการระบาดระลอกใหม่ได้ตลอดเวลา และการฉีดวัคซีนก็ยังเป็นทางเลือกเดียวที่อาจจะปกป้องเราไม่ให้มีโอกาสป่วยหนักหรือเสียชีวิตหากได้รับเชื้อ และหลายประเทศก็เร่งฉีดวัคซีนเข็มบูสต์ หรือ เข็ม 3 บางคนอาจจะเข็ม 4 แต่สิ่งสำคัญคือการที่ตัวเราเองก็ต้องบูสต์ร่างกายให้ภูมิคุ้มกันแข็งแรงเสมอเหมือนกันนะครับ
ทำไมต้องบูสต์วัคซีน?
สำหรับใครที่ฉีดวัคซีนครบโดสแล้ว ผลของวัคซีนจะยังสามารถปกป้องเรา โดยเฉพาะการลดความเสี่ยงไม่ต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลหากติดเชื้อ หรือลดความเสี่ยงที่จะอาการโคม่า หรือเสียชีวิตหากติดเชื้อได้ อย่างไรก็ตามเมื่อนานไปภูมิคุ้มกันในการต้านทานไวรัสโคโรนาจะอ่อนกำลังลง ยิ่งมีการกลายพันธุ์ของสายพันธุ์มากขึ้น วัคซีนที่ถูกคิดค้นจากสายพันธุ์ดั้งเดิมก็ยิ่งคุ้มครองเราได้น้อยครับ ฉะนั้น ต้องฉีดกระตุ้นตามระยะเวลาเพื่อกระตุ้นให้ร่างกายสร้างภูมิอย่างต่อเนื่องนั่นเอง
บูสต์วัคซีนแล้ว ต้องบูสต์ให้ภูมิคุ้มกันในร่างกายของเราด้วย
แม้วัคซีนจะช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันในร่างกายของเราลดความเสี่ยงจากการติดเชื้อโควิด-19 ได้ก็จริง แต่ทางที่ดีเราควรดูแลตัวเองให้มากขึ้น ยิ่งใครที่ปล่อยปละละเลยในการใส่ใจสุขภาพ ยิ่งต้องกลับมาโฟกัสที่การดูแลสุขภาพให้มากขึ้นเลยนะครับ เพราะแม้วัคซีนจะปกป้องเราได้แค่ไหน ถ้าร่างกายของเราอ่อนแอ ประสิทธิภาพในการทำงานโดยรวมของร่างกายก็จะยิ่งลดลง
บูสต์ภูมิคุ้มกันในร่างกายทำอย่างไรได้บ้าง?
นอกจากทำตามมาตรการในการป้องกันการติดเชื้อ คือ ใส่หน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อย ๆ และเว้นระยะห่างแล้ว สิ่งสำคัญเลยคือการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการใช้ชีวิตในทุก ๆ วันครับ
– การรับประทานอาหาร
ควรทานอาหารให้หลากหลาย ครบตามโภชนาการ ลดอาหารจำพวกน้ำตาลและไขมันสูง เลี่ยงอาหารฟาสต์ฟู้ด อาหารรสจัด หรือเลือกทานอาหารแบบเดิมซ้ำ ๆ ในช่วงนี้ควรเน้นทานผักและผลไม้ เพราะผักและผลไม้หลายชนิดสามารถกระตุ้นการสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกายได้ เช่น ผักใบเขียว เห็ด ธัญพืช เป็นต้น
– เสริมวิตามินในการดูแลร่างกาย
สารสกัดจากเบต้ากลูแคน มีส่วนช่วยกระตุ้นให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันได้ ทำงานกับเซลล์เม็ดเลือดขาวโดยตรง ทั้งได้รับการยอมรับจากวงการวิทยาศาสตร์ว่ามีส่วนให้ภูมิคุ้มกันในร่างกายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ป้องกันร่างกายจากเชื้อโรคและไวรัสต่าง ๆ และลดความเสี่ยงในการเป็นโรคร้ายอย่างมะเร็ง โรคเบาหวาน และคอเลสเตอรอลได้ด้วย
– พักผ่อนให้เพียงพอ ลดภาวะความเครียด
หลายคนอาจจะชะล่าใจในเรื่องนี้ โดยเฉพาะความเครียดจะส่งผลต่อการพักผ่อนในแต่ละวันของเรา เพราะเมื่อเราเครียดฮอร์โมนคอลติซอลจะหลั่งมากกว่าปกติ ส่งผลให้เรานอนหลับยาก และเมื่อพักผ่อนน้อย ร่างกายก็จะอ่อนเพลีย และป่วยได้ง่ายครับ
– ออกกำลังกายสม่ำเสมอ
หลายคนละเลยกับเรื่องนี้มาก ๆ หากเราไม่ออกกำลังกาย มวลกล้ามเนื้อของเราก็จะค่อย ๆ หย่อนคล้อย ส่งผลต่อการทำงานเมแทบอลิซึมของร่างกาย การเผาผลาญต่าง ๆ ก็จะลดลง อาจจะทำให้เราน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นมาก หากอายุมากขึ้นก็จะลดยาก เสี่ยงต่อหลายโรคอนาคตด้วย
ช่วงนี้ก็เฝ้าระวังและกลับมาดูแลตัวเองอย่างดีอีกครั้งนะครับ ใครที่ถึงเวลาต้องบูสต์เข็ม 3 แล้ว ก็อย่าลืมไปเข้ารับการฉีดนะครับ ดูแลตัวเองด้วยนะครับทุกคน ด้วยความห่วงใยจาก YOUR